WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, January 10, 2008

แผนอุบาทว์

กาหลิบ

แผนการที่เกี่ยวข้องกับทหาร 2,820 คน กระจายเป็น 40 หน่วยย่อยทั่วกรุงเทพฯ ที่เรียกว่า "อาร์มทอง 1" ก็ยังนำกลับมาใช้ได้ทันที แผนนี้มีไว้สร้างสถานการณ์วุ่นวายเพื่อเป็นเหตุให้ทหารออกมา
ทันทีที่รู้ข่าวว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งอาจจะให้ใบแดงกับคุณยงยุทธ ติยะไพรัช แห่งพรรคพลังประชาชน ในวันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2551 จากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ จ.เชียงราย ข้อมูลที่ผมได้รับจาก "พรายกระซิบ" มาหมาดๆก็เริ่มจะเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะเมื่อคุณสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้งที่ผูกพันลึกซึ้งอยู่กับคุณมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ออกมาให้ข่าวทันทีทันควันว่าหากคุณยงยุทธได้ใบแดงเข้าจริงๆ เธอจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อโยง "ความผิด" เรื่องนี้ไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชน
ตรงตามพิมพ์เขียวเป๊ะๆ
เรื่องมีอยู่ว่า ขณะนี้คนที่เกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 กำลังนั่งไม่ติดที่ เพราะพรรคพลังประชาชนกำลังจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้จริงๆ
เกร็งกันถ้วนหน้าเพราะรู้ว่าตัวทำอะไรลงไปบ้าง ตั้งแต่การใช้อำนาจทหาร อำนาจตำรวจ อำนาจข้าราชการพลเรือน อำนาจงบประมาณ อำนาจเหนือหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้นักวิชาการ ใช้สื่อมวลชน ใช้สมุนรับใช้หลากหลายประเภท ใช้การอ้างเบื้องสูงเบื้องต่ำอย่างครบถ้วน จนถึงการโกงเอาด้านๆ
แต่เขาก็ยังชนะ เพราะพรรคพลังประชาชนได้รับเสียงสูงสุดและกำลังเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
ก็เลยต้องนำขั้นตอนอื่นๆของแผนอุบาทว์มาปรับใช้ในห้วงเวลานี้ ไม่อย่างนั้นนอนไม่หลับแน่
เป้าหมายเหมือนเดิมคือสกัดกั้นการจัดตั้งรัฐบาลพรรคพลังประชาชนให้จงได้
คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่า รถถัง รถหุ้มเกราะ และยุทโธปกรณ์ต่างๆเป็นจำนวนมากยังคงอยู่ในจุดต่างๆทั่วกรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ในกองทัพภาคที่ 1 ร.11 ฯลฯ
ที่เคยออกมาแถลงว่าถอนกำลังกลับไปแล้ว นั่นถอนเฉพาะกำลังพล ซึ่งสามารถจะสั่งให้นั่งรถบัสหรือยีเอ็มซีกลับเข้ามาได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
แปลว่า "เขา" ยังก่อการรัฐประหารได้ทุกเมื่อ
บวกด้วยแผนการที่เกี่ยวข้องกับทหาร 2,820 คน กระจายเป็น 40 หน่วยย่อยทั่วกรุงเทพฯ ที่เรียกว่า "อาร์มทอง 1" ก็ยังนำกลับมาใช้ได้ทันที แผนนี้มีไว้สร้างสถานการณ์วุ่นวายเพื่อเป็นเหตุให้ทหารออกมา อย่างการระเบิดในจุดต่างๆเพื่อป่วนเมือง
แต่ถ้าไม่ใช้ในรูปนั้น ก็ใช้เป็นหน่วยสังหาร หรือ "อุ้ม" บุคคลสำคัญของฝ่ายตรงข้าม สุดท้ายก็รอเวลาไว้เป็นต้นทุนเริ่มต้นในการรัฐประหาร ก่อนกำลังส่วนอื่นๆจะพร้อมเพรียง
ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรคานอำนาจ เพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อยู่ภายใต้การบัญชาการของคนที่อาจไว้วางใจได้ยาก เท่าที่ผ่านมามีข่าวว่าร่วมมือกับทหารตั้งแต่หัวถึงเท้าอยู่แล้ว เพราะความทะยานอยากส่วนตัว
ลือว่าเงื่อนไขที่เตรียมเอาไว้มีอย่างน้อย 3 อย่างคือ
1.พรรคพลังประชาชนได้เป็นรัฐบาล ก็ให้พันธมิตรฯขนคนออกมาประท้วงต่อต้าน ส่งผลให้มวลชนของพรรคพลังประชาชนออกมาสู้กัน เขาก็ให้สื่อมวลชนทาสประโคมข่าวว่าบ้านเมืองเกิดความปั่นป่วน แล้วก็ยึดอำนาจ
2.ยุบพรรคพลังประชาชนลงเสีย ซึ่งเขาเชื่อว่าจะทำให้มวลชนออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง ก็ให้สื่อมวลชนออกข่าวว่าบ้านเมืองปั่นป่วน ประกาศใช้ พ.ร.บ.สถานการณ์ฉุกเฉินแล้วยึดอำนาจ
3.สร้างสถานการณ์ปั่นป่วนขึ้นมาเอง ไม่ว่าจะเป็นระเบิดหรืออื่นๆ เมื่อประกาศใช้กฎหมายที่ว่านั้นแล้วก็ยึดอำนาจ
"ปุ่ม" อื่นๆก็เตรียมไว้พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นการลวง-พรางให้พรรคพลังประชาชนเชื่อมั่นในตัวอดีตผู้บัญชาการทหารบกคนหนึ่ง จนถึงขนาดจะเสนอเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งๆที่เขาร่วมวางแผนและทำงานร่วมมากับฝ่าย คมช. อย่างใกล้ชิด
เพราะเขากลัวจะตั้งอดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดอีกคนหนึ่งเป็นแทน แล้วความซวยก็อาจจะมาเยือน
ความจริงข่าวที่ออกมาข้อมูลยังมีอีกมาก แต่เผยความอุบาทว์กันไปวันละเล็กละน้อยก็แล้วกัน
มากนักเดี๋ยวท่านจะตัดสินใจเปลี่ยนสัญชาติไปเสียก่อน.--จบ-

/////////////////////////////////

คอลัมน์: เลือกคบ ไม่เลือกข้าง...จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้