ใบสั่งยุบพรรคการเมืองจะมีจริงๆ หรือไม่??
คงยากส์...ที่จะหาใบเสร็จมายืนยัน
แต่ก็มี “เหตุหันควรเชื่อ” ว่ามีการวางแผนการยุบพรรคเพื่อล้มกระดานการเมือง
เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้เปิดช่องให้ยุบพรรคง่ายเกินควร
แถมล่าสุดมีสัญญาณยืนยันว่า ปลายเดือนพฤษภาคมนี้ การเมืองจะเกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ??
ถ้าไม่มีการยุบพรรค ก็ต้องมีการยุบสภาฯ
ถ้าเป็นความจริง การเมืองไทยจะกลับไปสู่ความวุ่นวายขายปลาช่อนอย่างเดิม!!
ฉะนั้น วิธีเดียวที่จะป้องกันไม่ให้การเมืองกลับไปสู่ความวุ่นวาย คือ แก้รัฐธรรมนูญ “มาตรา 237” ไม่ให้นำความผิดส่วนบุคคลไปโยงเป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมือง
ต้องเพิ่มโทษคนทุจริตเลือกตั้งให้จั๋งหนับบุเรงนอง
แต่ กก.พรรคที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ควรถูกลงโทษเหมาเข่งในความผิดที่เขาไม่ได้ร่วมกระทำ
เพราะขัดหลักนิติธรรม ขัดต่อหลักประชาธิปไตย
ไม่มีรัฐธรรมนูญประเทศไหนในโลกที่เขียนให้ยุบพรรคการเมือง ลงโทษแบบเหมาเข่งเหมือนรัฐธรรมนูญมดลูก คมช.ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้แก้กันง่ายๆนะตัวเอง
เพราะจะต้องมีเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของ 2 สภาฯ
คือเอาจำนวน ส.ส. 480 คน บวกกับ ส.ว. 150 คน รวมเป็น 630 คน!!
การจะแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จจึงต้องมีเสียงสนับสนุน 316 เสียงขึ้นไป
ถ้านับเฉพาะ ส.ส.รัฐบาล 6 พรรค รวมกันก็ยังไม่พอ
เนื่องจากโดน กกต.แจกใบเหลืองใบแดงย้อนหลังอีกบานตะเกียง
ฉะนั้น ก็ต้องอาศัยเสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมสนับสนุนตามที่เคยตกลงกันไว้เป็นสัญญาประชาคม
แต่มีแนวโน้มว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ร่วมสังฆกรรม
เพราะพรรคประชาธิปัตย์คือผู้ได้ ประโยชน์โดยตรง ถ้ามีการยุบพรรค การเมือง!!
ถึงจะยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่ ก็ไม่แน่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นรัฐบาล??
ถ้าไม่มีการยุบพรรคเกิดขึ้น ประชาธิปัตย์ก็ต้องชักตะพานแหงนเถ่อเป็นฝ่ายค้านอีกหลายปี
สรุปว่า เมื่อฝ่ายค้านไม่ร่วมมือ ก็ต้องไปขอเสียงวุฒิสมาชิกเพิ่มเติม ซึ่งดูแนวโน้มแล้วน่าจะเกินกึ่งหนึ่งแน่นอน
แต่การแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่แก้ปุ๊บ เสร็จปั๊บนะโยม
เพราะมีการกำหนดขั้นตอน และกรอบเวลาดำเนินการ
เริ่มตั้งแต่เข้าชื่อยื่นเสนอญัตติแก้รัฐธรรมนูญ ต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติให้ ถูกต้องเสียก่อน จึงบรรจุวาระในสภาฯ
หลังผ่านวาระแรก ต้องรอเข้าวาระที่ 2 มีกรรมาธิการพิจารณาแปรญัตติรายมาตราอีก 15 วัน
จากนั้นต้องเว้นวรรคอีกไม่น้อยกว่า 15 วัน จึงจะผ่านวาระ 3 ตามกติกา
สรุปว่า กว่าจะเข้าชื่อเสร็จ กว่าจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญ กว่าจะพิจารณา 3 วาระ กว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
อย่างเร็วที่สุดต้องใช้เวลาอีก 60 วัน!!
การแก้ไขรัฐธรรมนูญยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่ กระแสต่อต้านก็จะยิ่งบานปลาย
เพราะถ้าแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 237 สำเร็จ รัฐบาลชิมไปบ่นไปก็มีโอกาสได้อยู่ยาว
ฉะนั้น อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำ ให้การแก้รัฐธรรมนูญต้องล้มกลางคัน??
รับประกันซ่อมฟรีว่าเกมนี้สู้กันระเบิดเถิดเทิง.
“แม่ลูกจันทร์”
คอลัมน์ สำนักข่าวหัวเขียว