WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 26, 2008

เอแบคโพลล์เผยคนส่วนใหญ่เห็นด้วยแก้ รธน. ทั้งฉบับ

โพลล์ชี้คนส่วนใหญ่เห็นด้วยรัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญ ยุติปัญหาสร้างความสงบสุขให้ประเทศ ทำพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง 51.7 เปอร์เซ็นต์เห็นควรดึงกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ช่วยงานรัฐฯ ติงควรแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อนแก้ รธน.

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (The ABAC Social Innovation in Management and Business Analysis) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “การแก้ไขรัฐธรรมนูญในสายตาประชาชน” จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งใน 18 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 3,425 ตัวอย่าง

ผลของการสำรวจพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 79.9 ทราบข่าวการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 โดยร้อยละ 34.7 เห็นว่าจุดด้อยของรัฐธรรมนูญที่ต้องแก้ไขคือกฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับพรรคการเมือง การยุบพรรคการเมือง บทลงโทษพรรคการเมืองที่กระทำผิด ร้อยละ 25.4 เห็นว่าสิ่งที่ต้องแก้ไขคือเรื่องการได้มาของ ส.ส. และ ส.ว. ร้อยละ 12.4 เกี่ยวกับการได้มาซึ่งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ กฎระเบียบข้อบังคับของสังคม การมีส่วนร่วมของคนในสังคม สิทธิมนุษยชน และความเป็นกลางของรัฐธรรมนูญ ในขณะที่ร้อยละ 28.4 ระบุไม่มีจุดอ่อนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง

ในส่วนของจุดดีของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน พบว่า ร้อยละ 24.8 ระบุเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น ร้อยละ 18.1 ระบุเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากการลงประชามติ ร้อยละ 15.4 ระบุเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ร้อยละ 14.6 เห็นว่าทำให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ร้อยละ 14.4 ระบุเรื่องความเข้มงวดในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ร้อยละ 11.9 ระบุเป็นเรื่องความยุติธรรมและความเป็นธรรมต่อประชาชน ร้อยละ 9.2 เห็นว่ามีพื้นฐานมาจากรัฐธรรมนูญฉบับเดิม และสามารถควบคุมพรรคการเมืองได้ดี ในขณะที่ร้อยละ 29.6 ระบุว่าไม่มีจุดดีในมาตราที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง

ทั้งนี้จากผลการสำรวจความคิดเห็นในภาพรวมพบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.3 เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอยากให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ประเทศไทยเกิดความสงบสุข และการเมืองเข้มแข็งขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 32.9 ไม่เห็นด้วย เพราะ มีการเบี่ยงเบนสาเหตุที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์เฉพาะกลุ่ม และเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้น

ในส่วนของประชาชนที่ต้องการให้แก้ไข รธน. ประมาณครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 49.1 ต้องการให้แก้ไขทุกมาตรายกเว้นที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในขณะที่ร้อยละ 40.4 ต้องการให้แก้ไขในส่วนที่เกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง และร้อยละ 10.5 ไม่มีความเห็น อย่างไรก็ตาม ประชาชนเกินครึ่งหรือร้อยละ 55.2 ต้องการให้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจก่อน ในขณะที่ร้อยละ 37.6 เห็นควรแก้ไขไปพร้อมๆ กัน มีเพียงร้อยละ 5.9 เห็นควรให้แก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน และร้อยละ 1.3 ไม่มีความเห็น

นอกจากนี้ ประชาชนประมาณครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 51.7 เห็นว่ารัฐบาลควรมีแนวทางให้อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน ได้มาช่วยงานรัฐบาลเพราะมีความสามารถ มีศักยภาพในการทำงาน มีประสบการณ์การทำงาน และอยากให้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ในขณะที่ร้อยละ 41.6 ไม่เห็นด้วย เพราะ เป็นการละเมิดกติกา เกรงว่าจะเข้ามาทำเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง