WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, March 28, 2008

ย้อนรอยรัฐธรรมนูญ 50 (3) : ทวงสัญญาพรรคการเมือง


หาได้มีแต่ “พรรคพลังประชาชน” แต่อย่างใดไม่ ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวในท่าที “ไม่เห็นด้วย” กับร่างรัฐธรรมนูญ 2550

และแม้ไม่มีทีท่าประกาศจุดยืนชัดเจนจากพรรคอื่นๆ แต่เมื่อย้อนไปค้นหาคำพูดของนักการเมืองรายท่าน รายบุคคล

ก็จะพบว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ สร้างความไม่สบายใจให้บรรดานักการเมืองจากพรรคต่างๆ อยู่ไม่ใช่น้อย

เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยกล่าวไว้อย่างน่าฟัง เมื่อครั้งมีการเสวนาทางวิชาการ "นานาทรรศนะ วิพากษ์รัฐธรรมนูญ 2550" เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2550 ณ ห้องประชุมสถาบันปรีดี พนมยงค์ ว่า

“...รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ดีกว่าฉบับเดิมยาก เนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญบนบรรยากาศของความระแวง และรังเกียจนักการเมือง

กีดกันตั้งแต่การเข้ามาเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อร่างเสร็จก็ไม่สอบถามความเห็นของพรรคการเมือง จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นอำมาตยาธิปไตย”

"เมื่อมีพื้นฐานว่านักการเมืองไม่ดี จึงเขียนเอาไว้ว่าไม่ให้อำนาจ แต่ลืมไปว่า นักการเมืองทำหน้าที่แทนประชาชน

ถ้านักการเมืองไม่มีอำนาจ ก็หมายความว่าประชาชนไม่มีอำนาจ และการร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไปกลัวในสิ่งที่ไม่ควรกลัว เช่น กลัวว่ารัฐบาลจะมีเสียงข้างมาก แต่ไม่กลัวว่ารัฐบาลจะใช้อำนาจเกินขอบเขต

ประเด็นกลัวรัฐบาลเข้มแข็งเป็นคนละประเด็นกับการใช้อำนาจเกินขอบเขต..."

สิ่งที่นายอภิสิทธิ์พูดไว้ มีความชัดเจนอย่างมากที่สุด

“ถ้านักการเมือง ไม่มีอำนาจ ก็หมายความว่าประชาชนไม่มีอำนาจ”


การที่นักการเมือง พรรคการเมือง ออกมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ส่วนหนึ่งคือเพื่อผลประโยชน์ของสถาบันพรรคการเมืองเอง

แต่อีกส่วนหนึ่ง ก็ปฏิเสธผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับไปไม่ได้

คนที่ไม่ต้องการให้แก้ไข ...

คนที่ปกป้องรัฐธรรมนูญอำมาตยาธิปไตยจนสุดชีวิต ...

จึงต้องตอบหรือกล้ายอมรับให้ได้ว่า ไม่ต้องการให้ประชาชนในประเทศนี้ได้ประโยชน์ใช่หรือไม่

ไม่ต้องการให้ประชาชนเป็นใหญ่ใช่หรือไม่

กลุ่มคนที่ปกป้องรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างขาดใจชนิดแตะต้องสักนิดก็ไม่ได้ เช่น อดีต สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญบางท่าน หรือกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ไม่ได้แบกภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ หรือมีพันธะสัญญากับประชาชนโดยตรง เพราะประชาชนไม่ได้เลือก

แต่กับพรรคการเมืองที่ประชาชนเป็นผู้เลือก ไม่ว่าจะพรรคใดก็ตาม ล้วนปฏิเสธภาระผูกพันที่มีกับประชาชนไม่ได้ทั้งสิ้น

ยิ่งเมื่อมองเห็นและเคยพูดไว้ว่า รัฐธรรมนูญ 2550 (ในหลายๆ มาตรา) มันกระทบกระเทือนฐานรากอันมั่นคงของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ก็ยิ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงการเป็นตัวแทนที่จะต้องลุกมาปกป้องแก้ไข

อย่าติดว่านี่เป็นเพียงเรื่องการเมือง

อย่าติดว่าเมื่อแก้ไขไปแล้ว พรรคใดพรรคหนึ่งจะได้ประโยชน์กว่าอีกพรรคใดพรรคหนึ่ง

เพราะเมื่อจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองแล้ว ล้วนแต่ต้องได้รับผลกระทบโดยตรงเหมือนกัน ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหน

และที่สำคัญ อย่างที่นายอภิสิทธิ์กล่าวไว้นั่นแหละถูกต้องที่สุด

“ถ้านักการเมืองไม่มีอำนาจ ประชาชนก็ไม่มีอำนาจ”

“เพราะนักการเมือง ทำหน้าที่แทน ประชาชน”


รายงานพิเศษ 28 มีนาคม 2551