เพียงแค่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เข้ามาบริหารประเทศ แล้วโยกย้ายข้าราชการระดับสูงไป 3-4 คน ก็กลายเป็นเรื่องที่มีกลุ่มคนพยายามเอาไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เกิดความเสียหาย เชื่อมโยงไปว่าเป็นการเช็คบิลหรือผลักดันพวกพ้องไปเสียแล้ว
ทั้งที่คนที่ติดตามข่าวสารการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยใจบริสุทธิ์และเป็นธรรม ย่อมรู้ดีว่าทุกยุคสมัย ไม่เว้นแม้แต่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีการโยกย้ายข้าราชการระดับนำในกระทรวง ทบวง กรม เช่นเดียวกัน
และเหตุผลก็ฟังขึ้นทุกครั้งว่าเป็นการโยกย้ายเพื่อความเหมาะสม เพื่อให้การทำงานเป็นไปิย่างราบรื่น หรือพูดกันตรงๆ ก็คอืข้าราชการประจำกับข้าราชการการเมืองจะต้องทำงานเข้าขากันได้ดี
หากไปเอาคนที่คิดกันคนละอย่าง สั่งการไปก็ไม่ทำ การงานของบ้านเมืองก็ไม่เกิดความก้าวหน้า ความเสียหายก็ย่อมเกิดอยู่กับประเทศชาติแลบะประชาชน
ในเมื่อคณะรัฐมนตรี ก็มีที่มาจาการเลือกตั้งโดยประชาชน เป็นตัวแทนของประชาชนโดยชอบธรรม ทำไมการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อให้การพัฒนาสามารถรุดหน้าไปได้จึงจะเป็นเรื่องเสียหาย
อีกทั้งที่มีการโยกย้ายไปในตอนนี้ก็ยังมีเพียงไม่กี่คน ยังไม่ใกล้จำนวนที่มีการโยกย้ายเมื่อคราวรัฐบาลจากคณะรัฐประหารเข้ามาบริหารบ้านเมืองแม้แต่น้อย แต่ทำไมจึงมีคนพยายามนั่งจับผิดเอาเฉพาะรัฐบาลนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้ง 3 ตำแหน่งหลักที่มีการโยกย้าย ก็ถูกแต่งตั้งเข้ามาเมื่อคราวยึดอำนาจ หากจะมองว่าการถูกโยย้ายพ้นจากตำแหน่างเป็นไปโดยขาดความชอบธรรม เช่นนั้นแล้วในการเข้ารับตำแหน่งเมื่อครั้งรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ย้อมใม่ชอบธรรมด้วยเช่นเดียวกัน
เหมือนกับการที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เข้ามารักษาราชการแทน ผบ.ตร. จากการเด้ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ที่มีจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร และนั่งแสดงสีหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ในวันแถลงการณ์หลังการปฏิวัติยึดอำนาจ
เหมือนกับการที่ นายปราโมช รัฐวินิจ เข้ามาเป็นอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ด้วยการเด้งนายดุษฎี สินเจิมสิริ ไปเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
และยังเหมือนกับการที่ นายสุนัย มโนมัยอุดม ได้รับตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็เพราะมีการเด้ง พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ออกไป
เมื่อข้อเท็จจริงเป็นดังนี้แล้ว ยังจะกล่าวหาว่ารัฐบาลนี้รังแกหรือขาดความชอบธรรมในการโยกย้ายอย่างไรอีก ในเมื่อท้งที่มาและที่ไปของคนเหล่านี้ก็ล้วนมีครรลองอันเดียวกัน
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม ได้เกิดขึ้นอย่างมโหฬารในรัฐบาลเผด็จการทหาร เพียงแต่ในครั้งนั้นทั้งสื่อมวลชน และผู้คนบางกลุ่มบางพวกในสังคมไม่มีใครกล้าที่จะออกมาต่อต้าน เพราะเกรงกลัวในอำนาจนอกกฎหมาย
ถึงวันนี้แล้วเป็นความถูกต้องชอบธรรมด้วยซ้ำไปที่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช จะต้องเยียวยาและให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการที่ถูกรังแกไปก่อนหน้านี้
และผมเองไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาดด้วยซ้ำไปหากในเร็ววันจะมีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงอีกเป็นจำนวนมาก
เพราะส่วนหนึ่งเป็นการดูแลข้าราชการที่ถูกโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม ให้ได้กลับไปทำงานในที่มี่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถ
ขณะเดียวกันอีกส่วนหนึ่งก็เป็นความชอบธรรม ที่เคยเกิดขึ้นกับทุกรัฐบาล ทุกยุคสมัย ก็คือการโยกย้ายตามความเหมาะสม
ซึ่งต้องยอมรับความเป็นจริงว่าบนนโยบายที่แตกต่างกัน ความเหมาะสมของบุคลากรที่จะเข้ามาทำงานก็ย่อมที่จะมีความแตกต่างกันไปตามความถนัดและความสามารถเฉพาะด้สาน
การโยกย้ายหรือสลับสับเปลี่ยนตำแหน่ง ไม่ได้หมายถึงความบกพร่องในหน้าที่หรือมีความผิดในการทำงานเสมอไปแต่เมื่อรัฐบาลจะทำงานใหญ่ ผมว่าก็ควรจะรีบจัดทัพให้เข้าที่เข้าทางโดยเร็วที่สุด เพื่อให้งานสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่าวงรวดเร็ว ไม่ต้องมาพะวักพะวงแก้ปัญหาตัวบุคคลอยู่ไม่รู้จบ
ข้าราชการที่ดีแต่ไม่เหมาะกับงานก็ต้องจัดสรรงานอื่นที่เหมาะสมกว่าให้ทำ
หรือข้าราชการที่ไม่เข้าท่าเข้าทาง ส่อเค้าความไม่ชอบมาพากล นอกจากจะต้องย้ายพ้นตำแหน่งสำคัญแล้ว ก็ค้องมีการสอบสวนความผิดจัดการลงโทษเสียให้เด็ดขาด รวมทั้งข้าราชการที่ถภูกรังแกก็ต้องดูแลให้ทำงานในที่ที่เหมาะสม เช่นเดียวกันคนที่เบียดเข้ามาผิดจังหวะเวลาก็ต้องถอยออกไปและในเมื่อรัฐบาลตั้งใจจะแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองเป็นหลักการสำคัญ
...ถึงจะต้องโยกย้ายข้าราชการอีกกี่สิบ กี่ร้อยคน ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่อวแปลกอะไร...!!