มาแล้วครับทั่น “เสี่ยสั่งลุย” เจ้าเก่า ยี่ห้อ “ประชานิยม” ขนานแท้และดั้งเดิม
ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวง การคลังเสนอมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ 19 ข้อ
อาทิ มาตรการเพิ่มรายได้ให้ประชาชน ด้วยการเพิ่มวงเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษี จากเดิมที่ต้องมีรายได้สุทธิไม่เกิน 100,000 บาท เป็น 150,000 บาท
มาตรการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เช่นเอสเอ็มอีที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลในส่วนกำไร 150,000 บาทแรก
มาตรการกระตุ้นการลงทุน เช่น การหักค่าสึกหรอเครื่องจักรหรืออุปกรณ์การผลิต ได้ทันทีร้อยละ 40 ของมูลค่าต้นทุนสินทรัพย์
มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการลดภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือ 0.1 เปอร์เซ็นต์ ลดค่าโอนและจดจำนองเหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์
ลดกระหน่ำเดือนมีนาคม
และนี่แค่เฟสแรกเท่านั้น ยังมีก๊อกสองเตรียมรอรับได้ “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและ รมว.คลัง ตั้งแท่นชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกชุดเข้า ครม. ในอีก 1 เดือนข้างหน้า โดยมาตรการใหม่จะเน้นไปที่การลงทุนโครงการขนาดใหญ่หรือเมกะโปรเจกต์
รวมไปถึงการช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานราก เช่น การต่อยอดโครงการกองทุนหมู่บ้าน กองทุนเอสเอ็มแอล และพักหนี้เกษตรกร ฯลฯ
เงินกำลังจะหมุนไปอีกรอบแล้ว
ก็ไม่ปล่อยให้รอนาน นี่คือการสมนาคุณแฟนๆที่เทคะแนนให้พรรคพลังประชาชน ฝากความหวังให้กลับมาฟื้นโครงการประชาชนนิยม ปัดฝุ่นนโยบาย ลด แลก แจก แถม
คืนความกินดีอยู่ดี
ไม่ได้หมดเท่านี้ ยังมีโครงการคืนความสุขให้สังคมนักเสี่ยงโชคแบบไทยๆ
วงการนักเล่นหวยกลับมาคึกคักทันทีที่ได้ยิน “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แสดงท่าทีชัดเจนในการเดินหน้ารื้อฟื้นโครงการหวยบนดิน
รอแค่บทสรุปวิธีการจัดจำหน่าย จะเป็นแบบเขียนอย่างเก่าหรือขายผ่านตู้ลอตโต
โดยมีเป้าหมายในการเอาเงินรายได้จากหวยบนดิน มาต่อยอดโครงการทุนการศึกษานักเรียน ในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย
รีบปัดฝุ่นสินค้าที่เคยฮิตติดตลาด เอากลับมาขายใหม่
ยังไม่พูดถึงว่า ผลลัพธ์สุดท้ายจะได้เนื้อได้หนังแค่ไหน
แต่โดยรูปการณ์ ไม่ถึงเดือนดีที่รัฐบาลพรรคพลังประชาชนเริ่มต้น บริหารประเทศอย่างเต็มไม้เต็มมือ แต่ปันโปรเจกต์ออกมาคึกคักเลย เปรียบเทียบกับ 1 ปี 2 เดือนของ “ฤาษีขี่เต่า” รัฐบาลจำเป็น ผลผลิตจากการรัฐประหาร
อย่างน้อยก็เหนือกว่ากันในด้านของคะแนนความพยายาม
ได้ทีย้ำแผล บลัฟผลงานล้มเหลวของฝ่ายยึดอำนาจ
ที่แสบก็คือความเก๋าของเซียนการตลาด
แม้ปากจะปฏิเสธเทียบเชิญให้รับตำแหน่งกุนซือเศรษฐกิจของ “หมอเลี้ยบ”
แต่ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เริ่มปฏิบัติภารกิจแรก ด้วยการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ของอังกฤษ ประจำภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
ตะโกนประจานไปทั่วโลก
ระบุการรัฐประหารและความไม่แน่นอนทางการเมืองได้ทำลาย ภาพลักษณ์ของประเทศไทยอย่างร้ายแรง รัฐบาลจากการเลือกตั้งชุดใหม่ ของไทยจะเผชิญความยากลำบากในการเรียกความมั่นใจของนักลงทุนกลับคืนมา
“ในทางเศรษฐกิจแล้ว ความเชื่อมั่นนั้นมีราคาแพงยิ่ง และเมื่อมันหายไป เราต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลที่จะนำความเชื่อมั่น กลับมา
ไม่เพียงเท่านั้น มันยังรวมถึงเวลาอีกด้วย สองปีที่ผ่านมา ซึ่งเต็มไปด้วยความวุ่นวายทางการเมืองรวมถึงการปฏิวัติ ได้สร้าง ความเสียหายอย่างมาก ที่สำคัญคือการกัดกร่อนภาพลักษณ์ ประเทศไทยในประชาคมโลก ซึ่งต้องอาศัยเวลาในการฟื้นฟู”
ได้ทีตามถล่มคู่แค้นที่ยึดอำนาจ
พร้อมกับเปิดช่องหายใจหายคอให้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คอลัมน์ ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)