รองนายกฯ ระบุรัฐบาลไม่มีแนวคิดตามการวิเคราะห์ของกลุ่มพันธมิตรฯ โยกย้ายขรก.เพื่ออุ้ม'ทักษิณ' เลี่ยงคดีแผ่นดิน หวังยั่วยุประชาชนประท้วงเพื่ออ้างเหตุยึดอำนาจตัวเอง
: ที่ทำเนียบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ ์ถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปลุกระดมให้มีการต่อต้านรัฐบาล โดยวิเคราะห์ชี้นำว่ารัฐบาล วางแผนโยกย้ายข้าราชการ เพื่อยั่วยุประชาชน เพื่อจะนำไปสู่การรัฐประหารตัวเอง เพื่อหวังตัดตอนช่วยเหลือคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
โดยระบุว่า รัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และได้ประกาศต้องการให้เห็นประชาธิปไตย กลับคืนมาสู่ประเทศ ซึ่ง 1 เดือนที่ผ่านมา ที่ได้พบปะพูดคุยกับต่างประเทศ ก็พบว่าความเชื่อมั่นได้กลับคืนมาอีกครั้ง จึงเป็นไปไม่ได้เลย และเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ที่จะมีการทำปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเพื่อตัวเองหรือเพื่อใคร เพราะการปฏิวัติรัฐประหารที่ผ่านมา ทำให้บ้านเมืองบอบช้ำ และสูญเสียโอกาส ไปมากแล้ว
'ยืนยันได้ว่า การจะปฏิวัติรัฐประหารโดยรัฐบาลปัจจุบัน ไม่มีความเป็นจริงแต่อย่างใด ซึ่งวันนี้ที่อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับมามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ก็เป็นเจตนาที่ตั้งใจต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม หากไม่ตั้งใจเช่นนั้นก็คงไม่กลับมา และรัฐบาลเองยืนยันอยากจะเห็นกระบวนการยุติธรรมเดินหน้าพิสูจน์ ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก' นพ.สุรพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ จะทำให้การทำงานของรัฐบาลลำบากขึ้นหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า นี่คือระบอบประชาธิปไตย ที่เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงความเห็น ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ หรือกลุ่มอื่นที่มาแสดงความเห็นแตกต่างจากสิ่งที่รัฐบาลทำก็เป็นสิทธิที่ทำได้ และรัฐบาลสมควรที่ต้องอดทนและรับฟัง เพียงแต่ขอให้ตระหนักว่า ขอให้ทุกคนพยายามมีสติ และให้ความเห็นอย่างสร้างสรรค์ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ต่อข้อถามว่า การตั้ง ครม.ขี้เหร่ และการโยกย้ายข้าราชการ เพราะรัฐบาลต้องการยั่วยุประชาชนให้ออกมา ต่อต้านรัฐบาล นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าทุกคนต่างตั้งใจทำงานหนัก และพยายาม ทำผลงานออกมาเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ ดังนั้นเรื่องราวที่จะทำกันต่อไปนี้ หรือการโยกย้ายข้าราชการ บางเรื่องก็เป็นเพียงข่าวลือ บางเรื่องก็เกิดขึ้นจริง แต่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ได้ให้เหตุผลว่า เพื่อต้องการให้เกิด ประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งการโยกย้ายข้าราชการก็เกิดขึ้นได้ในทุกรัฐบาล ซึ่งในที่สุดแล้วหากทำให้ ประสิทธิภาพด้อยลง ก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้รัฐมนตรีคนนั้นไม่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เพราะอาจจะถูกปรับเปลี่ยนในภายหลังได้ ทั้งนี้รัฐบาลเองก็พยายามที่จะชี้แจงในเรื่องต่างๆให้มากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับอดีตนายกรัฐมนตรีบ้างหรือยัง น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นการถามสารทุกข์สุกดิบ และคุยกันว่าอดีตนายกรัฐมนตรี คงจะทำในลักษณะการบรรยายในเรื่อง ของแนวคิด แต่ไม่ได้ให้คำปรึกษา ซึ่งตนก็ยืนยันไปกับพ.ต.ท.ทักษิณแล้วว่า เราต้องการความรู้และแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งตนก็พยายามรับฟังแนวคิดจากหลากหลาย และต้องยอมรับว่าแนวคิดด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง มีแนวคิดที่แตกต่างกันมาก บางครั้งแนวคิดตรงกันข้ามก็มี ก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องกลับมารวบรวมพิจารณา และตัดสินใจว่าจะเลือกเดินในแนวทางไหน
'ในอดีตบางความคิดของท่านอดีตนายกฯเอง ก็อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะสามารถนำมาใช้ในสถานการณ์นั้นๆ ก็มีหลายเรื่องที่เคยพูดเป็นแนวคิดแล้วยังปฏิบัติไม่ได้ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลทำขณะนี้ คือการกระตุ้น และฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในระยะเวลา 6 เดือน ส่วนระยะยาวก็จะมีมาตรการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ทั้งระบบ รวมทั้งเน้นในเรื่อง เศรษฐกิจฐานความรู้ซึ่งไม่ง่าย' น.พ.สุรพงษ์ กล่าว