ไม่ธรรมดาเอามากๆ !!! สำหรับ....ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็น“คนใกล้ชิด” บิ๊กผู้มีอำนาจในรัฐบาลคนหนึ่งไม่ธรรมดายังไง??? “บางกอกทูเดย์” ขอผ่านประเด็นสำคัญตรงนี้ไปก่อน หันไปสำรวจการประชุมนัดแรกของ “คณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหารตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม” ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา
ระหว่าง...นายสมัคร และเหล่าขุนพลทหาร ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเคยเป็น “แกนหลัก” ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น...คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
ไม่ว่าจะเป็น...พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดฯ กลาโหม
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร.
และ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.ทั้ง 5 คน ล้วนร่วมเปิดปฏิบัติการ “ยึดอำนาจ” จากรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาแล้วทั้งสิ้น!!!แต่การประชุมฯ ครั้งแรกระหว่าง...ฝ่ายการเมือง ผู้ประกาศชัดเจนว่าจะขอเป็น “นอมินี” ให้กับ อดีตนายกฯ ทักษิณ กับ ฝ่ายที่เคยปฏิวัติยึดอำนาจกลับเป็นไปแบบ...อะลุ่มอล่วย ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน ขนาดที่ พล.อ.อนุพงษ์ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมฯ ว่า...การหารือกับนายสมัครเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการการย้ายของกองทัพบกมีไม่มาก
พล.อ.อนุพงษ์ ยังตอบคำถามของนักข่าวที่ว่า...นายสมัครได้เสนอแนะหรือท้วงติงบัญชีรายชื่อที่เสนอมาหรือไม่ โดยย้ำว่า… “คงไม่เรียกว่าเป็นการเสนอแนะ แต่มีการซักถามว่าการปรับย้ายใช้หลักเกณฑ์ใดและมีเหตุผลอะไร ซึ่งเหล่าทัพได้ชี้แจงกับนายกฯ เป็นที่เรียบร้อยดี” นักข่าวสนใจกันมากว่า...การปรับย้ายครั้งนี้ โดยเฉพาะในกลุ่ม “5 เสือ ทบ.” นั้นมีหรือไม่??? ซึ่งก็ได้รับคำตอบจาก ผบ.ทบ. ว่า...ไม่มีการปรับแต่อย่างใด นักข่าวหลายสำนักเริ่มหาข่าวกันให้ควั่กว่า...โผการย้ายกลางปี นอกจาก “5 เสือ ทบ.” ที่ยังคงนิ่งสนิทแล้ว
ใครบ้าง??? โดยเฉพาะพวกที่อยู่ในเครือข่าย คมช. รวมถึงคนใกล้ชิดของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ที่จะจะโดน “เด้ง” เข้ากรุเพื่อเปิดทางให้ผู้ที่เคยถูกสั่งย้ายไม่เป็นธรรมสมัย คมช.“โฟกัส” ไปยัง ตท.10 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เพื่อให้กลับคืนสู่ฐานอำนาจใหม่อีกครั้ง หลายคน...หลากตำแหน่ง ถูกขุดคุ้ยและคาดเดากันไปต่างๆ นานา “ถูกบ้าง-ผิดบ้าง” แต่ที่ “บางกอกทูเดย์” สนใจ เพราะเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนงานในภารกิจของรัฐบาล และเกี่ยวข้องกับ “ถุงเงิน” ของกองทัพก็คือ...
ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม และ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) ซึ่งทั้ง 2 ตำแหน่ง มีเจ้าของเดิมนั่งกำกับดูแลอยู่แล้ว คือ...พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม (ตท.8) และ พล.อ.เหมรัฐ ขำนิล (ตท.9) สิ่งที่ “บางกอกทูเดย์” ค้างเอาไว้ข้างต้น เกี่ยวกับความไม่ธรรมดาของ ผู้ยิ่งใหญ่ “คนใกล้ชิด” คนนั้น ถึงตรงนี้ เราจะขอตอบ!!! โดยขอย้อนให้เห็นภาพ เมื่อครั้งประชุมสภากลาโหม วันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้น กล้าที่จะ “ต่อรอง” และ “ฟันธง” กับบรรดา “บิ๊ก’ทหาร” ถึงขนาดที่ระบุเลยว่า...
ขอย้าย พล.อ.สมเจตน์ พ้นจากเก้าอี้...ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม โดยจะสำรองตำแหน่ง “จอมพล” ในฐานะ “ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ” ให้เป็นการตอบแทนส่วนคนที่เขาย้ำต่อที่ประชุมฯ ว่า...อยากได้ตัวมาแทนที่ก็คือ...
ล.อ.รังสาทย์ แช่มเชื้อ ที่ปรึกษาพิเศษ บก.ทหารสูงสุด (ตท.10)ขณะที่คนซึ่งมาแทนที่ พล.อ.เหมรัฐ จะเป็น... พล.ท.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ รอง ผบ.นทพ. (ตท.11) น่าสนใจที่ว่า “คนใกล้ชิด” บิ๊กผู้มีอำนาจในรัฐบาล การันตีกับบรรดา “บิ๊ก’ทหาร” ว่า... “ผมจะเอาคนนี้...”“รับประกัน ผมจะเตรียมตำแหน่งจอมพลเอาไว้ให้...”เรา “บางกอกทูเดย์” ขอบอกว่า... บุคคลผู้นี้ช่างกล้ามากๆ !!!
อย่างว่า...สมัยเคยร่วมงานที่ กทม. ก็เป็นเขาคนนี้แหละ คอยทำหน้าที่ผู้จัดสรรผลประโยชน์ได้อย่างลงตัวเรียกว่า...ใครจะมา ใครจะไป หรือทำอะไรที่ข้องเกี่ยวกับ กทม. แล้วต้องมาหาเขาผู้นี้…คนเดียวงานทุกอย่างจึงจะลงล็อก จัดสรรกันลงตัว แต่สำหรับ...งานด้านความมั่นคง ภารกิจที่เกี่ยวข้องกับทหาร ซึ่งมีศักดิ์และศรีรวมถึงเกียรติยศ...เกียรติภูมิแล้วมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับการจัดสรรผลประโยชน์ใน กทม.!!!งสถานการณ์การแต่งตั้งโยกย้าย ที่คนบางกลุ่มในสังคมไทยโดยเฉพาะ...กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย....
นายสนธิ ลิ้มทองกุล
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
นายพิภพ ธงไชย
และ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แถมยังมีผู้ประสานงานคนดังอย่าง...นายสุริยะใส กตะศิลา ทั้งหมดต่างคอยจับจ้องชนิด...ไม่กะพริบตาอย่างนี้ด้วยแล้วก็ต้องบอกว่า...เสี่ยงมากๆ สำหรับอนาคตของรัฐบาล “สมัคร 1” กับการฝากชะตากรรมไว้กับ...ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้อย่าลืมว่า...เหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหาร “19 ก.ย.49” นั้น
ชนวนที่เกิดขึ้น...มาจากความไม่พอใจของ กลุ่มพันธมิตรประชาชนฯ ที่ออกมาเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ กระทั่ง สามารถจะออก “บัตรเชิญ” ให้ กองทัพ ภายใต้การนำของ พล.อ.สนธิ ทำการยึดอำนาจ รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างราบคาบ หาก นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะปล่อยให้อายุของรัฐบาล “สั้น” เกินกว่าเงื่อนเวลาตามระบอบประชาธิปไตย ด้วยการากอนาคต ชื่อเสียง เกียรติยศ และความหวังทั้งมวลของคนไทยไว้กับ... ผู้ยิ่งใหญ่ “คนใกล้ชิด” บิ๊กรัฐบาล คนนั้น สั่ง “ซ้ายหัน...ขวาหัน” กับบรรดา นายทหารที่เคยร่วมทำการปฏิวัติรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 แล้วล่ะก็ถือว่า...นายสมัคร “ตายน้ำตื้น” ตอนแก่...จริงๆ !!!