หัวหน้าพรรคประชาราช เสนาะ เทียนทอง ชี้ หากแก้รัฐธรรมนูญ ต้องแก้ทั้งระบบ ไม่ใช่เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เห็นว่า ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยพิจารณาว่าสิ่งใดที่เป็นปัญหา ไม่ใช่แก้ไขเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง ไม่เช่นนั้นจะถูกกล่าวหาว่า แก้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จึงควรดูว่าอะไรที่ยากหรือขัดต่อการปฏิบัติและควรปรับปรุง นอกจากนี้ ยังเห็นว่าไม่จำเป็นต้องทำประชามติเพื่อสอบถามประชาชน เพราะผู้ที่ควรจะพิจารณาแก้ไข คือ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
“ไม่ต้องตั้ง ส.ส.ร. หรืออะไรต่าง ๆ นานา ให้ ส.ส. และ ส.ว. เป็นคนตัดสินแก้ไขปัญหาบ้านเมือง คือ 480+150 คน มาปรึกษาหารือกัน แล้วให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการ เพราะทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ก็มาจากการเลือกตั้งอยู่แล้ว ถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ถ้าทำประชามติก็จะมีองค์กรต่าง ๆ มาอ้างกันอีกไม่จบสิ้น” นายเสนาะ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นตัวตั้งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเสนาะ กล่าวว่า ไม่ควรนำรัฐธรรมนูญฉบับใดมาเป็นตัวกำหนด แต่ต้องการให้พิจารณาข้อดีของรัฐธรรมนูญในอดีตมาใส่ไว้ ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 มีข้อบกพร่องเช่นกัน ขอให้ดูจากประสบการณ์ในการปฏิบัติว่า อะไรที่ปฏิบัติไม่ได้ก็ต้องแก้ไข ซึ่งจะเห็นว่ายังมีคนจำนวนมากที่ไม่ยอมรับความจริง คิดว่าปฏิบัติได้ แต่จริง ๆ แล้วมีปัญหา
“ส่วนจะมีประเด็นใดบ้างที่ควรแก้ไข ผมไม่อยากชี้นำ เพราะมีบทเรียนมาแล้วว่าพูดอะไรไป บางครั้งไม่ถูกใจคน จะเห็นว่าหลังเลือกตั้ง ผมเก็บตัวเงียบ ส่วนที่มีหลายฝ่ายเห็นว่า ควรแก้ไขประเด็นการกระทำผิดคดียุบพรรค ควรให้ ส.ส. และ ส.ว. ที่จะเป็นผู้พิจารณา แต่คิดว่าไม่น่าจะทันคดียุบพรรค เพราะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 180 วัน ในการดำเนินการ” นายเสนาะ กล่าว
ทั้งนี้หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคประชาราช ว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้ตนเป็นหัวหน้าพรรคต่อ และให้นายฐานิสร์ เทียนทอง เป็นเลขาธิการพรรค มีกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด (รวมหัวหน้าพรรค) 14 คน และเป็นที่สังเกตว่า เลขาธิการและกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่นามสกุลเทียนทอง เพราะไม่มีใครอยากเป็นกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากเกรงว่า หากมีใครในพรรคกระทำความผิดแล้วจะถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกรรมการบริหารพรรคประชาราช ไม่มีชื่อนางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งเมื่อสอบถามนายเสนาะ ได้ตอบว่า นางอุไรวรรณ มีหน้าที่รับผิดชอบงานในตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเดียว ไม่ต้องรับผิดชอบในพรรค. - สำนักข่าวไทย
“ไม่ต้องตั้ง ส.ส.ร. หรืออะไรต่าง ๆ นานา ให้ ส.ส. และ ส.ว. เป็นคนตัดสินแก้ไขปัญหาบ้านเมือง คือ 480+150 คน มาปรึกษาหารือกัน แล้วให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการ เพราะทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ก็มาจากการเลือกตั้งอยู่แล้ว ถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง ถ้าทำประชามติก็จะมีองค์กรต่าง ๆ มาอ้างกันอีกไม่จบสิ้น” นายเสนาะ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาเป็นตัวตั้งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเสนาะ กล่าวว่า ไม่ควรนำรัฐธรรมนูญฉบับใดมาเป็นตัวกำหนด แต่ต้องการให้พิจารณาข้อดีของรัฐธรรมนูญในอดีตมาใส่ไว้ ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 มีข้อบกพร่องเช่นกัน ขอให้ดูจากประสบการณ์ในการปฏิบัติว่า อะไรที่ปฏิบัติไม่ได้ก็ต้องแก้ไข ซึ่งจะเห็นว่ายังมีคนจำนวนมากที่ไม่ยอมรับความจริง คิดว่าปฏิบัติได้ แต่จริง ๆ แล้วมีปัญหา
“ส่วนจะมีประเด็นใดบ้างที่ควรแก้ไข ผมไม่อยากชี้นำ เพราะมีบทเรียนมาแล้วว่าพูดอะไรไป บางครั้งไม่ถูกใจคน จะเห็นว่าหลังเลือกตั้ง ผมเก็บตัวเงียบ ส่วนที่มีหลายฝ่ายเห็นว่า ควรแก้ไขประเด็นการกระทำผิดคดียุบพรรค ควรให้ ส.ส. และ ส.ว. ที่จะเป็นผู้พิจารณา แต่คิดว่าไม่น่าจะทันคดียุบพรรค เพราะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 180 วัน ในการดำเนินการ” นายเสนาะ กล่าว
ทั้งนี้หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคประชาราช ว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้ตนเป็นหัวหน้าพรรคต่อ และให้นายฐานิสร์ เทียนทอง เป็นเลขาธิการพรรค มีกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด (รวมหัวหน้าพรรค) 14 คน และเป็นที่สังเกตว่า เลขาธิการและกรรมการบริหารพรรคส่วนใหญ่นามสกุลเทียนทอง เพราะไม่มีใครอยากเป็นกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากเกรงว่า หากมีใครในพรรคกระทำความผิดแล้วจะถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในกรรมการบริหารพรรคประชาราช ไม่มีชื่อนางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งเมื่อสอบถามนายเสนาะ ได้ตอบว่า นางอุไรวรรณ มีหน้าที่รับผิดชอบงานในตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเดียว ไม่ต้องรับผิดชอบในพรรค. - สำนักข่าวไทย