WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, February 9, 2009

เส้นทาง การกู้เงิน ภายใน ข่าวดี มี ข่าวร้าย เส้นทาง การหาเงิน

ที่มา มติชน

คอลัมน์ วิภาคแห่งวิพากษ์




ไม่ว่าจะเป็นการประชุมผู้นำเศรษฐกิจโลกที่ดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเยือน โตเกียว ญี่ปุ่น ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ล้วนสะท้อนให้เห็นความสำเร็จ

1 ความสำเร็จที่นายกรัฐมนตรีไทยผงาดยืนอย่างเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้นำระดับนานาชาติ 1 ความสำเร็จอันเป็นรูปธรรมที่การเมืองไทยเริ่มเข้าสู่ระบบ

ไม่ง่อนแง่นโงนเงนเหมือนในยุค นายสมัคร สุนทรเวช

ไม่ง่อนแง่นโงนเงนเหมือนในยุค นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

เป้าประสงค์อย่างแท้จริงของการเดินทางไป ไม่ว่าจะเป็นที่ดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ว่าจะเป็นที่ โตเกียว ญี่ปุ่น ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือ การสร้างความเชื่อมั่น

รูปธรรม 1 เห็นได้จากแถลงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

"ขณะนี้ไม่ค่อยมีการถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว คิดว่าเราก้าวพ้นเรื่องของบุคคลไปแล้ว และไม่มีความจำเป็นต้องชี้แจงกับนานาชาติในเรื่องนี้แล้ว"

รูปธรรม 1 เห็นได้จากแถลงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

"รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจอนุมัติเงินกู้รถไฟฟ้าสายสีแดงในวงเงิน 63,000 ล้านเยน ซึ่งจะทำให้โครงการเดินหน้าต่อไปได้"

นี่ย่อมเป็น "ข่าวดี" อย่างแน่นอน

เป็นข่าวดี 1 เพราะเป็นรูปธรรมแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลไทย เพราะหากไม่มีความเชื่อมั่นก็คงไม่ให้กู้

เป็นข่าวดี 1 เพราะหากไม่ให้กู้ก็ยากที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงจะเดินหน้าต่อไปได้

เป็นข่าวดี 1 เพราะทุกอย่างดำเนินไปตามพิมพ์เขียวที่ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ อนุมัติวงเงินกู้รวม 270,000 ล้านบาท

โดย 70,000 ล้านบาท เป็นการเตรียมไว้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

โดย 200,000 ล้านบาท เป็นเรื่องทางเทคนิคเพื่อช่วยเหลือรัฐวิสาหกิจให้ขับเคลื่อนต่อไปได้เป็นปกติ

เป็นข่าวดี 1 ในท่ามกลางข่าวเงินคงคลังเหลือเพียง 52,000 ล้านบาท

เป็นข่าวดี 1 ในท่ามกลางข่าวการจัดเก็บรายได้ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551-มกราคม 2552) ได้ต่ำกว่าประมาณการ 70,472 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.2% และกระทรวงการคลังคาดว่าทั้งปีอาจต่ำกว่าประมาณการถึง 112,910 ล้านบาท หรือ 7.1%

เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นให้กู้ในวงเงิน 63,000 ล้านเยน จึงย่อมเป็น "ข่าวดี"

อีกด้านของข่าวดีสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการทางความคิดอันสะท้อนให้เห็นถึงความหวาดวิตกที่ดำรงอยู่

1 ที่สำคัญคือ ความหวาดวิตกในเรื่องรายได้ ในเรื่องการหาเงิน

การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการอาจเป็นอุทาหรณ์ 1 การเหลือเงินคงคลัง 52,000 ล้านบาท อาจเป็นอุทาหรณ์ 1

แต่ที่น่าหวาดเสียวอย่างยิ่ง คือ ข้อเสนอจาก นายสันติ วิลาสศักดานนท์

"หากนำเงินทุนสำรองมาใช้ได้ก็ไม่จำเป็นต้องกู้จากต่างประเทศ เหมือนกับบริษัทเอกชนที่เอาทุนสำรองของบริษัทมาใช้ก่อนได้"

1 ที่สำคัญคือ ความเป็นจริงในเรื่องการส่งออกและการท่องเที่ยว

ที่ตั้งเป้าไว้ว่าการส่งออกปี 2552 จะอยู่ที่ 3% ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้หรือไม่ ที่ตั้งเป้าไว้ว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาไม่ต่ำกว่า 14 ล้านคนในปี 2552 ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นไปตามที่ประมาณการหรือไม่

เพราะไม่เพียงแต่จะประสบกับสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโดยเฉพาะ สหรัฐ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น จีน เท่านั้น หากแต่ที่สำคัญเป็นอย่างมากคือ ความไม่แน่ใจในสถานการณ์ทางการเมือง

ไม่มีใครมั่นใจได้หรอกหากรัฐมนตรีในรัฐบาลเคยร่วมปิดสนามบินสุวรรณภูมิมาแล้ว

การกู้เงินจากต่างประเทศจึงเป็น "ข่าวดี" บนซากปรักหักพังของ "ข่าวร้าย"

เป็นข่าวร้ายเพราะเงินในท้องพระคลังหดหายไปเป็นสำคัญ เป็นข่าวร้ายเพราะไม่แน่ใจว่าจะหาเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดความมั่นใจในการบริโภคได้หรือไม่

เดิมพันจึงอยู่ที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะติดลบหรือว่ารักษาตำแหน่งที่ 0% เอาไว้ได้