เวลาเปลี่ยนแปลงอะไรๆ ก็เปลี่ยนไป ตอนเปิดตัวเปลี่ยนขั้วรัฐบาล นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศยึดนโยบายสมานฉันท์เป็นธงนำ
แก้ปัญหาประชาชน ไม่สร้างความขัดแย้ง หลีก เลี่ยงการตอบโต้ทางการเมือง
เพราะรัฐบาลต้องการลดเงื่อนไขแตกแยก ในสังคมไทยโดยเร็ว
“แม่ลูกจันทร์” ฟังแล้วก็เคลิ้มตาม
เวลาผ่านไปยังไม่ครบ 2 เดือน โรคเก่ากำเริบอีกแล้วโยม!!
รัฐบาลอภิสิทธิ์กลับมาใช้ลีลาเดิมใช้ ปากเป็นอาวุธประจำกาย เพราะพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจในฝีปากตัวเอง มั่นใจอำนาจรัฐในมือ ก็เลยออกอาการฮึกเหิมผิดหูผิดตา
ถ้าถูกฝ่ายค้านแหลมมาหนึ่งดอก ต้องเบิ้ลกลับไปสองดอกทันที!!
เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสั้นก็กลายเป็นเรื่องยาว
ทีมโฆษกพรรคก็มี ทีมโฆษกรัฐบาลก็มี ยังอุตส่าห์ตั้งโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค มาเปิดสงครามนํ้าลายเพิ่มพิเศษอีกหนึ่งคน
แทนที่จะทำให้ภาพรัฐบาลดีขึ้น กลับ ทำให้รัฐบาลเสียรังวัดยิ่งกว่าเดิม
นอกจากนั้น การมีทีมโฆษกมากเกินความจำเป็นก็ทำให้เหยียบตาปลากันเอง
เฮ้อ...เห็นแล้วก็อ่อนใจ
ความจริง นายกฯอภิสิทธิ์ ก็เยี่ยมวรยุทธ์ ชั้นเชิงลีลาการพูดระดับเซียน สามารถชี้แจง ตอบโต้ประเด็นต่างๆได้เองอย่างสบายๆ ไม่มีความจำเป็นต้องตั้งโฆษกประจำตัวมาช่วยชี้แจงตอบโต้แทน
แหม...ทำยังกับ “อภิสิทธิ์” เป็นเด็ก ฝึกงาน
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่ารัฐบาลต้องพิสูจน์ ให้สังคมเห็นว่าได้ยึดมั่นแนวทางสมานฉันท์ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งอย่างที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
เพราะขณะนี้ รัฐบาลต้องแบกภาระแก้ วิกฤติหนักๆของชาติบ้านเมืองสารพัดเรื่องสารพัดประเด็น
รัฐบาลจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องขอความร่วม มือจากฝ่ายค้านในสภาฯและจากทุกฝักฝ่ายในสังคม
การเปิดประเด็นโจมตีตอบโต้เป็นรายวันจึงไม่ได้ช่วยให้รัฐบาลทำงานได้ อย่างสบายใจ
หน้าที่หลักของรัฐบาลคือพุ่งสมาธิไปที่ การทำงานอย่างเดียว!!
ข้อสำคัญ การเป็นรัฐบาลจำเป็นต้องใช้ ความอดทนอดกลั้นและอย่าให้ความสำคัญกับประเด็นปลีกย่อยทางการเมือง
เอาเวลาที่ใช้ตอบโต้ทางการเมืองไปทุ่มเทแก้วิกฤติเศรษฐกิจให้เกิดผลสำเร็จอย่างที่ฉายหนังโฆษณา
เพราะมรสุมเศรษฐกิจครั้งนี้มีความอยู่รอดของประเทศเป็นเดิมพัน
วิกฤติไฟใต้ที่รัฐบาลประกาศจะผ่าตัดยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นความ เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม
และ...อย่าให้นํ้าหนักฝ่ายค้านเกินไป
เพราะฝ่ายค้านยังไม่มีประเด็นที่เป็น “จุดตาย” ที่จะเช็กบิลรัฐบาล
“แม่ลูกจันทร์” ฟันธง “อภิสิทธิ์” ได้เปรียบฝ่ายค้านทุกประตู
รัฐบาลจะอยู่สั้นหรือยาว ขึ้นอยู่ที่เงื่อนไข 4 ประการ
1, นายกฯอภิสิทธิ์ ต้องควบคุมความประพฤติรัฐมนตรี อย่าปล่อยให้ทำเรื่องอื้อฉาวให้ชาวบ้านเสื่อมศรัทธา
2, บริหารความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลให้ดีๆ อย่า “เขี้ยว” กับเพื่อนมากเกินไป โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ
3, อย่าประมาทปัญหาองค์ประชุมสภาฯ เพราะโอกาสสภาฯล่มซํ้าซากยังเกิดขึ้นได้ ตลอดเวลา
ถ้ากฎหมายสำคัญของรัฐบาลไม่ผ่านสภาฯ ก็เก็บฉากกลับบ้านได้เลย
4, รัฐบาลต้องระวังอย่าทำอะไรเข้า ข่ายขัดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้วางกับดักไว้หลายแง่หลายมุ
ล่าสุด รัฐมนตรี 3 คน ที่ถือหุ้นเกิน กำหนดในรัฐธรรมนูญก็กำลังจะกลายเป็น ปลาตายนํ้าตื้นอีก 3 ตัว??
“แม่ลูกจันทร์”