ที่มา เดลินิวส์
เข้าขั้นถังแตก ทบ.ปัดงบลับ
กองทัพ-ประชาธิปัตย์หวั่นเสียศูนย์ ปฏิเสธจับมือใช้งบฯทำลายล้างระบอบ “ทักษิณ” โฆษก ทบ.อ้างเป็นโครงการฟื้นวิกฤติเศรษฐกิจตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ยอมรับทุ่มเงินลงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ด้านโฆษก ปชป.เชื่อ ส.ส.เพื่อไทยไปหา “แม้ว” เพื่อขอคำชี้แนะคนที่จะมาเป็นหัวหน้าใหม่ ส่วนอดีต คมช.มั่นใจ “แม้ว” ดิ้นสุดฤทธิ์เพราะไม่อยากติดคุก แย้มอยากเคลียร์ต้องมาเข้ากรงก่อน ฝ่าย “ชัยสิทธิ์” สวนกลับติดคุกก็เข้าทางแผนสังหาร ด่า “เทพเทือก” ทุเรศคิดได้ไง “แม้ว” อยากเป็นประธานาธิบดี ขณะที่ “เพื่อไทย” แขวะ “ประชาธิปัตย์” ปากดีแต่ไม่มีกึ๋น ลอกนโยบายไปทั้งดุ้นแต่ทำไม่เป็น พร้อมปูดกระเป๋าเริ่มฉีก หาเงินไม่ได้ต้องรีดเงินทหารด้วยการเรียกคืนเงินประจำตำแหน่ง
ทหารยันไม่มีงบลับล้ม“ทักษิณ”
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสุงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงอ้างเอกสารการประชุมฝ่ายยุทธการศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพบก โดยระบุว่ามีการใช้งบลับ 2,000 ล้านบาท เพื่อล้มล้างระบอบทักษิณว่า กองทัพไม่มีงบลับที่จะนำมาดำเนินการตามที่มีการกล่าวอ้าง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อสู้ทางการเมืองอาจจะมีผลกระทบต่อความ สงบเรียบร้อยในสังคมไทย พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่เป็นห่วงเรื่องนี้ ทุกคนทำงานตามหน้าที่ สังคมเองก็ทราบสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นดีอยู่แล้ว เชื่อว่าสังคมมีความต้องการที่จะให้ประเทศ เดินหน้าต่อไป การออกมาพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่มีเรื่องอะไรใหม่
เชื่อ ตร.รับมือเสื้อแดงไหว
เมื่อถามว่า จะฝากอะไรถึง พ.ต.ท. ทักษิณ หรือไม่ โดยเฉพาะการยุติการเคลื่อนไหวเพื่อให้ประเทศชาติบ้านเมืองอยู่ในความสงบเรียบร้อย พล.อ.ทรงกิตติ ระบุว่า ทุกคนทราบว่าควรจะทำอย่างไรเพื่อส่วนรวม รวมถึงตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ด้วย ตนไม่มีความรู้สูงที่จะไปให้คำแนะนำกับผู้ที่มีความรู้มากมายได้
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมนัดชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 14 ก.พ. เพื่อทวงคำตอบจากรัฐบาล 3 ข้อนั้น ผบ.ทหารสูงสุดกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจ การชุมนุมสามารถทำได้หากแสดงออกตามวิถีแห่งประชาธิปไตย และอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย แต่ถ้านอกขอบเขตไปก็ไม่งาม
แจงแค่โครงการสู้วิกฤติ
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกอง ทัพบก กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิระบุว่า รัฐบาลร่วมมือกับกองทัพ ใช้งบลับจำนวน 2 พัน ล้านบาท ทำโครงการย่อยสลายมวลชนเสื้อแดง ทั่วประเทศว่า กองทัพไม่มีโครงการอย่างที่ฝ่ายค้านว่า แต่โครงการที่กองทัพบกกำลังทำใน ขณะนี้คือ “โครงการสู้วิกฤติเศรษฐกิจด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ไม่ได้เป็นเรื่องลับหรือปกปิด เพียงแต่ว่ามันถูกโยงเข้ามาเป็นประเด็นทางการเมือง
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจ กองทัพจึงได้นำเอาศักยภาพมาช่วยเสริมงานในภาคพลเรือน เพื่อช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน วิธีการคือสร้างความเข้าใจกับประชาชนทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ ให้เข้าใจเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ฝ่าวิกฤติเรื่องปากท้องไปได้ โดยจะมีการลงพื้นที่ประมาณช่วงระหว่างกลางเดือน ก.พ. ไปถึงเดือน ส.ค.
ยอมรับทำทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า งบฯโครงการดังกล่าวเป็นงบลับจำนวน 2 พันล้านบาท อย่างที่ฝ่ายค้านระบุหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่แน่ใจแต่ไม่ใช่จำนวน 2 พันล้านบาท อย่างที่ระบุแน่นอน งบฯที่เราไปทำเราคิดเฉพาะค่าเบี้ยเลี้ยงกำลังพลที่จะลงไปปฏิบัติงานในหมู่บ้านเท่านั้น และเราไม่ได้เลือกทำในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งแต่ทำทุกพื้นที่
เมื่อถามว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้เจาะจงไปยังมวลชนเสื้อแดงใช่หรือไม่ พ.อ.สรร เสริญ กล่าวว่า เราทำทั่วทุกพื้นที่กับประชาชนทุกส่วน ผู้สื่อข่าวถามว่า กองทัพวิเคราะห์หรือไม่ว่าเหตุใดข้อมูลลับและเอกสารสำคัญของกองทัพ จึงหลุดออกมาสู่สาธารณะอยู่บ่อยครั้ง โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า เรื่องเอกสารความจริงไม่ใช่เรื่องลับ การใช้กำลังของหน่วยทหาร แม้กระทั่งฝึกศึกษาก็ตีตราลับตลอดตามระเบียบงานปกติ แต่ถ้าไปดูในเนื้อหามันไม่มีอะไร
ปชป.โต้ใช้งบลับทำลาย พท.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรรักษ์ โฆษกพรรค แถลงตอบโต้กรณีที่นายณัฐวุฒิระบุว่าพรรคจับมือกับกองทัพใช้งบลับ 2,000 ล้านบาท เพื่อทำลายพรรคเพื่อไทยว่า คำพูดดังกล่าวถือเป็นการจงใจใส่ร้าย ขอยืนยันว่าพรรคไม่เคยและไม่มีวันใช้วิธีการเช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยพาดพิงสถาบันสูงสุดของชาติ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง
“ถ้าคิดว่าการดำเนินงานเพื่อปกป้องเทิดทูนสถาบัน เป็นการกำจัดฝ่ายตรงข้ามของพรรคประชาธิปัตย์ อยากบอกว่าใครก็ตามที่ดึงสถาบันเข้ามา เพื่อหวังให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองถือเป็นศัตรูของคนไทยทั้งประเทศ”โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
เชื่อไปหา“แม้ว”เพื่อหานายใหม่
นพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส. พรรคเพื่อไทยจะเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่เกาะฮ่องกงว่า การเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณอาจต้องการหารือเกี่ยวกับการตั้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ เพราะตำแหน่งนี้สำคัญเนื่องจากต้องได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ที่สำคัญเพื่อหวังไปถึงการเป็นนายกฯจึงต้องไปขอความเห็นชอบจาก พ.ต.ท.ทักษิณ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า บุคคลที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคจะต้องมาขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ 9 ทัพ ที่มีเนื้อหาให้มวลชนมาต่อสู้นอกสภา พรรคห่วงใยในประเด็นนี้ว่าจะนำไปสู่การสร้างสถานการณ์ความขัดแย้งแตกแยกในสังคมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท. ทักษิณ มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นผ่านการโฟนอิน แต่ต้องคำนึงถึงหลักกฎหมาย ด้วยการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน ซึ่งพรรคขอยืนยันว่าจะให้ความรับรองเรื่องความปลอดภัย
สกัด“เหลิม”ชี้คนสนิทรุกป่า
ส่วนข่าว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นพ.บุรณัชย์กล่าวว่า เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม คนสนิท อดีตเลขาฯ ร.ต.อ.เฉลิม สมัยที่เป็น รมว.มหาด ไทย ในข้อหาบุกรุกที่ป่าสงวนอุทยานแห่งชาติป่าแม่ระกา จ.กำแพงเพชร จึงขอถามไปถึง ร.ต.อ. เฉลิมว่า ให้คนของตัวเองดำเนินการผิดกฎหมายในระหว่างที่มีตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อหวังสกัด ร.ต.อ.เฉลิม ที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่พรรคมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานและเปิดเผยข้อเท็จจริงให้สาธารณชนได้รับทราบ ก่อนที่บุคคลใดบุคคลหนึ่งจะเข้ามาอาสาทำงานทางการเมือง การเปิดเผยเรื่องนี้ถือเป็นข้อเท็จจริง ที่ต้องทำตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา เพราะอาจเชื่อมโยงไปถึงคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงต้องสืบค้นว่า ร.ต.อ. เฉลิม มีส่วนรับทราบเกี่ยวกับการกระทำของบุคคลใกล้ชิดหรือไม่ ไม่ใช่การดิสเครดิตอย่าง ที่สงสัย
ยันมีหลักฐานชัดห้ามเข้า ปท.
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยท้าให้เปิดเผยข้อมูลบัญชีดำการห้ามเข้าประเทศต่าง ๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ตนตรวจสอบแล้วพบว่าญี่ปุ่นขึ้นบัญชี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ ส่วนประเทศจีนอนุญาตให้เข้าประเทศในฐานะนักท่องเที่ยวเท่านั้น ข้อเท็จจริงเหล่านี้ เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละประเทศจะเปิดเผยหรือไม่เปิดเผยก็ได้ ตนยืนยันว่ามีเอกสารหลักฐาน ที่ชัดเจน
โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิ ปัตย์กล่าวต่อว่า สมาชิกพรรคเพื่อไทยต้องระมัดระวังในการเคลื่อนไหวกดดันสถานทูตประเทศต่าง ๆ เพื่อให้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ รวมทั้งการชักชวนประชาชนไม่ให้ซื้อสินค้าจากบางประเทศ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้จะสร้างความเสื่อมเสีย ถ้าต้องการทราบอย่างเป็นทางการขอแนะนำว่าให้ตั้งกระทู้ถามในสภา
ชี้คำถามผิดมารยาทการทูต
“พรรคเพื่อไทยต้องคำนึงถึงมารยาทและเอกสิทธิ์ในอธิปไตยของประเทศนั้น ๆ ในทางการทูต การตอบคำถามไม่มีประเทศไหนที่เขาระบุชัดเมื่อถูกถามในเรื่องเหล่านี้ ภาษาทางการทูตเขาจะบอกว่า ไม่ยืนยันและไม่ปฏิเสธด้วย แต่ความเป็นจริงแล้วเมื่อมีข่าวอย่างนี้จะเป็นจริงทุกเรื่อง เช่น กรณีประเทศอังกฤษเพิกถอนวีซ่าทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไทกล่าวด้วยว่า ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยจึงเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยง การดำเนินการควรคำนึงถึงประเทศมากกว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ตอนนี้การเคลื่อนไหวเลยเถิดขอบเขตของการเมืองในประเทศ จึงควรจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
อัด ปชป.ดีแต่ปากไม่มีกึ๋น
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของรัฐบาลว่า รัฐบาลนี้มีลักษณะปากดีแต่ไม่มีกึ๋น และอยู่ในยุคที่โฆษกคนใกล้ชิดและทหารครองเมือง เพราะมีทั้งโฆษกส่วนตัว โฆษกพรรค โฆษกรัฐบาล ที่ออกมาพูดเรื่องเก่า ๆ กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลก็ตกกระป๋อง แม้แต่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทยยังออกมาตำหนิเรื่องงบประมาณ
“นายกฯไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปเรียกความเชื่อมั่นถึงประเทศญี่ปุ่นก็ได้ หากจะเรียกความเชื่อมั่นก็ควรเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯที่ยึดสนามบินและทำเนียบรัฐบาลความเชื่อมั่นก็จะกลับมาเอง” นายพร้อมพงศ์กล่าว
เรียกคืนเงินประจำตำแหน่ง
ส่วนการเตรียมนำงบลับมาสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงนั้น โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า คาดว่างบฯดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. ในเดือน ก.พ.นี้ และถ้าผ่านการพิจารณารับรองว่าเจอดีกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน เพราะจะเจอทั้งกระทู้ถามและการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นอกจากนี้ตนมีข้อมูลว่านายทหารระดับสูงเริ่มออกมาโวยวาย เพราะรัฐบาลและกองทัพจะเรียกคืนเงินประจำตำแหน่ง ทำให้เห็นว่ารัฐบาลถังแตกใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ลอกนโยบาย มาก็ใช้ไม่เป็น
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ในวันที่ 10 ก.พ. พรรคจะมีการประชุม ส.ส. เพื่อพิจารณาบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล และจะหารือเรื่องกฎหมายด้วยว่าผู้นำฝ่ายค้านจะเป็นคนละคนกับหัวหน้าพรรคได้หรือไม่
เลื่อนเดินทางไปหา“นายใหญ่”
เมื่อถามถึง ส.ส. ที่จะเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวยืนยันว่า ไม่มี ส.ส. คนไหนที่จะเดินทาง ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่ทราบว่าท่านอยู่ ที่ไหน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บอกว่าใช้วิธีโทรศัพท์คุยกันดีกว่า
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทร ปราการ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ส.ส.ที่จะเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องยกเลิกกะทันหัน เพราะไม่ทราบที่อยู่ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ที่ชัดเจน หลังจากนี้จะประสานกัน ใหม่อาจเป็นสัปดาห์หน้า ต้องยอมรับว่าเรื่อง การลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีอยู่ ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยก็ต้องดูด้วย ใครที่คิดจะทำเรื่องนี้ก็พอรู้กัน อยากเป็นใหญ่เกินตัวและกลัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาสู่ตำแหน่งอีกครั้งเลยอิจฉา
พท.7-10 คนเตรียมย้ายพรรค
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าว ส.ส. ของพรรคบางส่วนจะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยว่า มั่นใจว่า ส.ส. พรรคจะไม่ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น ส่วนตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านมีแคนดิเนต 3 คน คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายมิ่งขวัญ แสง สุวรรณ์ ส.ส. สัดส่วน และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รมช. คมนาคม แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่จะย้ายมาซบพรรคภูมิใจไทยว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้มีเฉพาะแค่ที่ จ.เพชรบูรณ์ แต่จะมีในส่วนของ ส.ส.ภาคกลางด้วย ซึ่งจะมีคนทยอยไหลเข้ามาอีกเรื่อย ๆ เบื้องต้นเท่าที่ทราบมีประมาณ 7-10 คน ที่รอจังหวะอยู่ หากมีการยุบสภาก็คงจะมาอยู่พรรคภูมิใจไทยอย่างเป็นทางการ
แนะ“แม้ว”หาคนมีบารมีมาช่วย
วันเดียวกัน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ลับ ลวง พราง” ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้คนตระกูลชินวัตรมาต่อสู้ทางการเมืองว่า ที่ผ่านมาตนเปิดตัวไปแล้วแต่ยังไม่มีสัญญาณอะไรส่งมา เขาคงจะเอาญาติพี่น้องที่ใกล้ชิด เพราะตนไม่ใช่ครอบครัวเดียวกับเขา หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะต่อสู้ทางการเมืองจะต้องมีหัว และต้องเป็นผู้ที่มีบารมีพอ สมควรมาช่วย
“ที่สำคัญคนดี ๆ ถูกเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 111 หมดแล้ว ทำให้ขณะนี้ไม่มีใคร จึงเป็นเรื่องที่เหนื่อยเพราะไม่มีหัวและผู้ที่มีบารมีพอประคองได้” พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว เมื่อถามว่า ได้มีการพุดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ บ้างหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ตนโทรฯไปบอกเขาว่า ถ้าขืนปล่อยไปอย่างนี้ก็พัง การที่เขาโดนใส่ร้าย อย่างนี้กระเทือนทั้งตระกูล
เชื่อแผนลอบสังหารยังมีอยู่
ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการกลับมาเป็นประธานาธิบดีนั้น พล.อ.ชัยสิทธิ์กล่าวว่า ทุเรศมาก คนไทยทุกคนจงรักภักดีทั้งนั้น ไม่มีคนที่เล่นการเมืองคนไหนไม่จงรักภักดี เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นตายอย่างเดียว เป็น การยัดข้อหาส่งเดช หากเจอเข้ากับตัวเองบ้างเขาจะรู้
“จะให้เขาไม่สู้ได้อย่างไร เพราะเขาต้องสู้เพื่อความถูกต้องในฐานะคนไทย การต่อสู้ต้องอิสระเสรีไม่มีการถูกบีบคั้น ไม่มีการลอบฆ่าหรือวิธีการสกปรกอย่างอื่น ถ้าเขายอมติดคุกคงจะกลับมาแล้ว แต่หากกลับเข้ามาจะให้ความยุติธรรมกับเขาหรือไม่ เพราะในคุกจะทำอะไรเขาก็ได้ และจะทำได้ง่ายเพราะเขาต้องการทำลาย อย่างเดียว” พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว
“สมเจตน์”โต้ลอบฆ่าคิดไปเอง
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. กล่าวในรายการเดียวกันว่า ตนสงสาร พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้เขาตกอยู่ในบ่วงของกรรมต้องชดใช้กรรม หมดกรรมเมื่อไรการต่อสู้ของเขาก็จะหยุด และเขาจะมีความสุข ส่วนข่าวลอบสังหารนั้น เขาคิดเอง คงไม่มีใครไปลอบสังหาร เพราะเขามีเงินมหาศาล สามารถจ้าง รปภ.ได้จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เขาพยายามพูดให้กำลังใจคนอื่นว่า เขายังสู้เพื่อรักษากลุ่มเอาไว้ไม่ให้แตก แต่ไม่ต้องดูอื่นไกล ขนาดภรรยาเขายังไม่ไว้วางใจแล้วคนอื่นจะไว้วางใจเขาหรือ
เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาบัญชาการในประเทศที่อยู่ใกล้กับประเทศไทย พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า เขาคงพยายาม สร้างขวัญกำลังใจให้พรรค ส.ส. เป็นตัวแทนของปวงชน การจะเดินทางไปหาบุคคลที่หนีคดีอาญาน่าจะขัดต่อจริยธรรม จึงอยากฝากให้รอบ คอบว่าเหมาะสมหรือไม่
ลั่นติดคุกก่อนแล้วค่อยเคลียร์
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า คมช. จะสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเข้ามาติดคุกก่อนถึงจะคุยกัน หากอยากจะพ้นคดีต้องเข้ามาต่อสู้ทางศาล แต่คิดว่าเขาคงไม่ยอมติดคุก ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายต่อรองไม่ได้ ถ้าท่านอยากกลับประเทศควรสงบนิ่งไปสักพัก ปล่อยให้ประเทศ ชาติแก้ปัญหาอย่าป่วนให้เกิดความวุ่นวาย สร้างความแตกแยกในประเทศ ถ้าเป็นลักษณะนี้ วันหนึ่งท่านจะกลับประเทศได้
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.สมเจตน์กล่าวว่า “ทหารกับพรรคประชาธิปัตย์ทำงานกันได้อย่างดี อย่างไรก็ตามการเมืองต้องมีความเข้าใจและต้องรักษาระยะห่างระหว่างทหารกับการ เมือง ทหารคือกลไกของรัฐแต่ไม่ใช่เครื่องมือของรัฐที่จะไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ตราบใดที่รัฐบาลให้เกียรติทหาร สถานภาพระหว่างการเมืองกับการทหารก็จะอยู่ในช่องที่เหมาะสม” พล.อ.สมเจตน์กล่าว
ยันกระบวนการไทยยุติธรรม
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิ สภา กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ถือเป็นสิทธิที่จะเคลื่อนไหว แต่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง ขณะนี้ประชาชนก็แยกออกเป็น 2 กลุ่มอยู่แล้ว เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มักพูดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จากระบวนการยุติธรรม นายประสพสุขกล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยถือว่ามีความยุติธรรม เห็นได้ จากประเทศอังกฤษที่ยังเชื่อในกระบวนการ ยุติธรรมของไทย ส่วนกฎหมายนิรโทษกรรมตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาและไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะออก
นายประสพสุขยังกล่าวถึง กกต.มีมติให้นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี สิ้นสุดสมาชิกภาพ เพราะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เกิน 5 ปีว่า เพื่อความชัดเจนในสัปดาห์หน้าตนจะทำหนังสือสอบถามไปยังกกต. ว่าจะให้วุฒิสภาดำเนินการอย่างไร.