ที่มา ประชาไท
เมื่อวันที่ 14 เมษายน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) สำนักสันติวิธี สถาบันพระปกเกล้า สำนักงานสภาพัฒนาการเมือง สถาบันการเรียนรู้และพัฒนาประชาสังคม กลุ่มประชาชนผู้ไม่เอาสงครามกลางเมือง คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ชมรมแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์เพื่อประชาชน (ชพพ.) เครือข่ายประชาธิปไตยเห็นต่างกันได้แต่อย่าใช้ความรุนแรง และเครือข่ายนักวิชาการไม่เอาความรุนแรง ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า
ตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ประกาศยุติการชุมนุมไปเมื่อวันที่ 14เมษายน 2552 โดยรัฐบาลได้ใช้มาตรการที่เหมาะสมทำให้สถานการณ์คลี่คลายโดยไม่เกิดความ รุนแรงนั้น
เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาความขัดแย้งแตกแยกที่เกิดขึ้นในสังคมไทยได้อย่างแท้ จริง องค์กรทั้งหลายตามรายชื่อข้างท้ายจึงขอเสนอความเห็นดังต่อไปนี้
1. การชุมนุมของ นปช. ที่ยุติลงโดยไม่มีเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าสังคมไทยสามารถแก้ปัญหาการชุมนุมได้โดยใช้แนวทาง สันติวิธี อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยังมีความน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความรุนแรงที่ยังเกิดจากผู้ชุมนุมบางส่วน การปะทะกันระหว่างประชาชน และความปลอดภัยของผู้ชุมนุม
2. ขอให้รัฐบาลและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมถึงสื่อมวลชนงดการกระทำและการใช้ถ้อย คำที่ทำให้เกิดความเกลียดชังต่อผู้ชุมนุม และความเกลียดชังต่อกันและกันในหมู่ประชาชน ซึ่งจะทำให้ความขัดแย้ง ความแตกแยก และความรุนแรงในสังคมไทยยิ่งมีมากขึ้น ถึงแม้จะมีผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งที่ละเมิดกฎหมาย แต่เขาเหล่านั้นก็เป็นประชาชนคนหนึ่งในสังคมไทย ผิดถูกอย่างไรต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
3. ขอให้รัฐบาลใช้กระบวนทางกฎหมายที่ให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแท้จริง การดำเนินคดีกับแกนนำ นปช. ต้องใช้มาตรฐานเดียวกันกับการดำเนินคดีกับประชาชนทุกกลุ่มที่ใช้สิทธิ และเสรีภาพเกินขอบเขตของรัฐธรรมนูญ
4. การยุติการชุมนุมเป็นการระงับความขัดแย้งเพียงชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวให้สังคมไทยที่ถึงแม้จะมีความแตกต่างกันในทางการ เมืองแต่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติและโดยเคารพสิทธิของกันและกัน สังคมไทยต้องแก้ไขความแตกแยกที่สาเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งในทางการเมือง กติการัฐธรรมนูญ และความไม่เป็นธรรมในการบังคับใช้กฎหมาย โดยขอให้มีคณะกรรมการอิสระค้นหาความจริงที่เป็นสาเหตุรากเหง้าของความขัด แย้งที่นำมาสู่การใช้ความรุนแรงในสังคมไทย และขอให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขที่สาเหตุของปัญหาโดยเร่งด่วน
“ความขัดแย้งที่จบลงไปเป็นเพียงชั่วคราว แก้ปัญหาระยะยาวต้องใช้ความเป็นธรรม”