ที่มา ประชาไท
กิจกรรม นี้เกิดขึ้นจากทีมนักแปลอาสาสมัครที่อยากให้สาธารณชนได้บริโภคข่าวสารอย่าง รอบด้าน เนื่องเพราะเห็นว่าสื่อสารมวลชนของไทยมีปัญหาเรื่องการทำงานในสถานการณ์ วิกฤตินี้ เราจึงเลือกแปลข่าวของสื่อต่างชาติที่ยังสามารถทำงานตามหลักการวิชาชีพได้ โดยไม่มีอคติต่อฝ่ายใด และไม่มีอำนาจรัฐมาครอบงำ |
ทีมแปลข่าวเฉพาะกิจ
กรุงเทพ—ประเทศไทย ดินแดนแห่งกิริยาสุภาพและรอยยิ้ม แต่ก็มีชื่อโด่งดังในเรื่องมวยไทยด้วย การสู้รบตามท้องถนนในกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้คือหน้าต่างที่เปิดให้เห็นด้านตีรันฟันแทงของประเทศ มันคือการปะทุของความอัดอั้นตันใจของกลุ่มผู้ประท้วงที่บอกว่า พวกเขารู้สึกถึงความอยุติธรรมและการแบ่งแยกกีดกันในกระบวนการประชาธิปไตยที่มีปัญหาของประเทศไทย
ถึงแม้การประท้วงยุติลงอย่างสงบในวันอังคาร แต่ความคับข้องและโกรธแค้นของประชาชนรากหญ้าน่าจะยังคุกรุ่นต่อไป
“ไม่ว่าใครชนะหรือแพ้ครั้งนี้ ภาวะตีบตันและความตึงเครียดจะยังคงอยู่” เป็นคำกล่าวของธงชัย วินิจจะกูล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน
ฝ่ายผู้ประท้วงที่เรียกกันว่า ฝ่าย “เสื้อแดง” มีฐานกำลังหลักจากภาคเหนือและภาคอีสานของประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและผู้ค้าขายรายย่อย พวกเขาแสดงตัวว่ากำลังต่อสู้กับชนชั้นนำทรงอิทธิพลที่ไม่ได้มาจากกระบวนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะศาล กองทัพและองคมนตรี ซึ่งเป็นคณะที่ปรึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เสียงประท้วงที่เป็นหัวใจสำคัญของฝ่ายเสื้อแดงก็คือ เจตนารมณ์ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งถูกทำลายลงครั้งแล้วครั้งเล่า นายกรัฐมนตรีที่พวกเขาเลือกมา 3 คน ถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2549 คนแรกในการรัฐประหารโดยกองทัพและอีกสองคนหลุดจากตำแหน่งจากคำตัดสินของศาลในการดำเนินคดีที่ถูกอิทธิพลทางการเมืองแทรกแซงอย่างสูง
“พวกเขาไล่รัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา” ทองดี วงศ์สามารถ (Thongdee Wongsamart) ผู้ประท้วงวัยกลางคนที่เพิ่งตกงานจากที่เคยเป็นแม่บ้านในบริษัททัวร์ “ฉันโกรธมาก”
เสื้อแดงจำนวนมากเป็นผู้รักชอบในตัวทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกขับออกจากตำแหน่งเพราะการรัฐประหาร พ.ศ. 2549 แต่พวกเขามักรีบอธิบายต่อว่า ความไม่พอใจที่มีต่อภาวะความเป็นประชาธิปไตยของไทยสำคัญกว่าการสนับสนุนทักษิณ นักธุรกิจที่เคยร่ำรวยมหาศาลจากวงการโทรคมนาคม
“นี่ไม่ใช่แค่เรื่องทักษิณกับเงินของเขา” อ.ธงชัยแห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซินกล่าว “คนเหล่านี้คือประชาชนที่ต่อต้านการรัฐประหาร ต่อต้านชนชั้นนำขุนนางที่ไม่เคยผ่านการเลือกตั้งเข้ามา”
เสื้อแดงจำนวนมากกล่าวว่า พวกเขาไม่ไว้ใจสื่อมวลชนของไทย โดยกล่าวหาว่าสื่อเข้าข้างฝ่ายรัฐบาล ประชาชนจากต่างจังหวัดบอกว่า พวกเขารู้สึกขุ่นข้องหมองใจที่ถูกดูถูกว่าพูดภาษาถิ่นเหน่อ ๆ พวกเขาชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างมาตรการละมุนละม่อมที่กองกำลังรักษาความมั่นคงใช้จัดการกับผู้ประท้วงฝ่ายราชานิยมเมื่อปีที่แล้ว กับการใช้กองทหารหลายพันนายมากวาดล้างขับไล่เสื้อแดงจากท้องถนนของกรุงเทพฯ ในสัปดาห์นี้
พวกเสื้อเหลืองทำให้ประเทศไทยกลายเป็นอัมพาตไปเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการยึดสนามบินสองแห่งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ปล่อยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายแสนคนเคว้งคว้าง นอกจากนี้ยังล้อมรัฐสภาและกักสมาชิกรัฐสภาไว้ข้างใน โดยได้รับการสนับสนุนด้านกำลังใจจาก ...
“ประเทศนี้ใช้สองมาตรฐาน ไม่มีความยุติธรรมและจะไม่มีวันสงบสุข” นี่คือความคิดเห็นหนึ่งในเว็บพันทิปดอทคอม เว็บบอร์ดในอินเทอร์เน็ตที่มีห้องพูดคุยด้านการเมืองที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง “ต่อไปจะมีสงครามกลางเมือง เพราะประชาชนเห็นว่าความอยุติธรรมกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับได้”
เชื่อกันว่าฝ่ายเสื้อเหลืองมีมือที่มองไม่เห็นคอยให้ความคุ้มครอง
“ไม่เข้าใจว่าทำไมกองทัพไม่ทำอะไรเลยตอนที่พวกพันธมิตรฯ ยึดสนามบิน” ผู้ตั้งกระทู้คนหนึ่งในพันทิปดอทคอมบ่น ผู้นำของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถูกจับกุมตัวก็จริง แต่ได้รับการประกันตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
การดำเนินคดีต่อกลุ่มพันธมิตรฯ “ไม่ค่อยมีความคืบหน้า และดูเหมือนว่าสุดท้ายแล้ว ผู้นำพันธมิตรฯ ก็คงถูกฟ้องด้วยข้อหาเล็กน้อย ถ้าไม่ถูกยกฟ้องไปเลย” เดวิด สเตรคฟัสส์ (David Streckfuss) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองไทย เขียนลงในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เมื่อวันอังคาร
รัฐบาลไทยปิดเว็บไซท์ที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายเสื้อแดงไปหลายเว็บไซท์ รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ที่ถ่ายทอดสดการประท้วงผ่านดาวเทียม ในทางตรงกันข้าม ASTV สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่บริหารโดยฝ่ายนิยมเจ้าอย่างสนธิ ลิ้มทองกุล กลับไม่เคยถูกปิดเลย ในสมัยที่ทักษิณยังมีอำนาจ เขาเองก็พยายามกีดกันสนธิออกจากสถานีโทรทัศน์ แต่ฝ่ายเสื้อแดงก็พยายามกลบเกลื่อนความจริงแง่นี้ของอดีตนายกรัฐมนตรี
ทักษิณมักเอาผลประโยชน์ทางธุรกิจส่วนตัวมาปนกับการบริหารประเทศของรัฐบาล คุกคามสื่อมวลชน และสงครามต่อต้านยาเสพย์ติดของเขาสำเร็จด้วยต้นทุนที่กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนบอกว่า มีการฆ่าตัดตอนไปหลายร้อยคน
“ทักษิณเป็นแค่เรื่องเล็กในความคิดของผม ประเด็นใหญ่คือประชาธิปไตยต่างหาก” นายสมชาย หลวงตัน (Somchai Luangtant) วัย 49 ปี อาชีพขายเสื้อครุยรับปริญญาในกรุงเทพฯ กล่าว “ทุกคนควรรู้ว่า ประชาชนไทยต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่อย่างที่เรามีอยู่ตอนนี้”
ที่มา: แปลจาก THOMAS FULLER, “Thai Protests Reveal Deep Divisions,” New York Times; Seth Mydans ร่วมรายงานข่าว http://www.nytimes.com/2009/04/15/world/asia/15bangkok.html?_r=3&hp=&pagewanted=print; April 15, 2009.