ที่มา ไทยรัฐ
ด้วยข้อหาพาม็อบเสื้อแดงบุกโรงแรม ยื่นหนังสือ ล้มโต๊ะประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ทำให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสียหน้าในเวทีโลก ภาพพจน์ประเทศไทยเสียหายยับเยิน นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำม็อบ ถูกบุกชาร์จจับถึงในบ้าน ใส่กุญแจมือไพล่หลัง
หิ้วตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปสอบสวนในกองบังคับการตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร จังหวัดเพชรบุรี
อีกมุมหนึ่งแกนนำม็อบพันธมิตรฯที่มีคดีก่อการร้ายสากล พาม็อบเสื้อเหลือง
ยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปิดล้อมสนามบินดอนเมือง บุกยึดทำเนียบรัฐบาลนานหลายเดือน ได้รวมตัวครบเซ็ต แถลงข่าวจี้ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับม็อบเสื้อแดง
เสนอให้โละ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ที่หน่อมแน้ม ไม่กล้าตัดสินใจ ให้ย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. โทษฐานตำรวจใส่เกียร์ว่าง ให้ปลด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่กั๊กๆไม่เต็มสูบ ไม่เว้นแม้แต่ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. ที่โดนข้อหาลอยตัว ไม่เต็มสูบกับคนเสื้อแดง
ขู่ระดมม็อบเสื้อเหลืองออกมาชน ถ้ารัฐบาลจัดการม็อบเสื้อแดงไม่ได้
กลายเป็นหัวเชื้อ ชนวนเร้าให้แนวร่วมคนเสื้อแดงออกมาล้นถนน ไม่สนรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขั้นร้ายแรง ล้อมกรอบทุบรถเบนซ์ประจำตำแหน่งนายกฯอภิสิทธิ์ คุมตัวทหารหน่วยรักษาความปลอดภัย ล็อกตัวรุมสกรัมนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกฯ
ในอารมณ์ของฝูงชนเสื้อแดงที่ไม่กลัวรถถัง ขับแท็กซี่ขวางรถหุ้มเกราะ เดินหน้าล้อกระสุนปืน
ปิดถนน ก่อจลาจลกลางเมือง
ช่วงข้ามคืนรุ่งเช้ามืด ตีสี่วันที่ 13 เมษายน ทหารได้เริ่มปฏิบัติการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดถนนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง
เสียงปืนปังแรกจากปลายกระบอกปืนของทหารดังขึ้น
ตามสัญญาณที่นายกฯอภิสิทธิ์ระเบิดอารมณ์ใส่บิ๊กกองทัพ นายตำรวจใหญ่ ถ้าไม่ขยับจะสั่งย้าย ขณะที่ “เทพเทือก” บังคับแกมขอร้องให้เจ้าหน้าที่กล้าลุยกับคนเสื้อแดง
ประกาศพร้อมรับผิดชอบเอง
แน่นอน พลันมีเสียงปังจากปลายกระบอกปืนทหาร เหตุการณ์สลายม็อบเสื้อแดงที่สามเหลี่ยมดินแดงมีคนถูกยิง โดนแก๊สน้ำตา บาดเจ็บกว่าครึ่งร้อย เลือดประชาชนไหลจากการปราบปรามของฝ่ายถืออำนาจรัฐ
รัฐบาลมือเปื้อนเลือด
ข้อหาใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชนยากจะเลี่ยงได้
และโดยมาตรการที่เข้มสูงสุด นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล ออกอากาศสดทางทีวีพูล แถลงคำสั่งนายกฯ ตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินมอบหมาย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด นั่งเป็นผู้อำนวยการ เพื่อควบคุมจุดเสี่ยงที่ผู้ชุมนุมจะป่วนสถานการณ์ ห้ามปิดถนน เส้นทางสำคัญ
ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ที่ยืนเคียงข้าง แถลงข่าวคู่กัน ชี้แจงสถานการณ์ อ้างกระสุนปืนถูกยิงมาจากมือมืดเข้าใส่ฝูงชน ไม่ใช่ปืนจากทหารที่ยิงขึ้นฟ้า
ปัดข้อหาทำร้ายประชาชน
แต่ในอารมณ์ม็อบเสื้อแดงที่เตลิดเปิดเปิง เพลิงแค้นที่เดินมาถึงจุดทหารปราบประชาชน เร้าด้วยเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินมาปลุกใจให้สู้
สงกรานต์ปีใหม่ไทย กลายเป็นสงกรานต์เลือดโดยปริยาย
เสียงปืนทหาร เสียงโห่ร้องขู่ผู้ชุมนุม แกนนำม็อบประกาศบนรถปราศรัย ขอร้องทหารอย่ายิงประชาชน ม็อบขับรถเมล์ ขับแท็กซี่ขวางถนน ยึดรถแก๊สเตรียมก่อวินาศกรรม เผารถเมล์ เผายางรถยนต์
กรุงเทพฯกลายเป็นแดนมิคสัญญี
ในมุมมองของสื่อต่างประเทศวิเคราะห์ รัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ อาจมีการรัฐประหารเกิดขึ้น
ขณะที่นักวิชาการในเมืองไทย จี้ให้รัฐบาลยุบสภา เพื่อสกัดเหตุ นองเลือดจากแนวโน้มการยกระดับการปราบปรามของฝ่ายรัฐบาล และการตอบโต้จากฝ่ายม็อบเสื้อแดง
แรงกันขนาดนี้ “อภิสิทธิ์” จะให้มือเปื้อนเลือดกว่านี้หรือ.
“แม่ลูกจันทร์”