WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, April 15, 2009

ม็อบเสื้อแดงสนามหลวงเปลี่ยนใส่สีอื่น-เชียงใหม่ไม่เลิก "เยาวเรศ"อัดสื่อไม่เป็นธรรมกับตระกูล"ชินวัตร"

ที่มา มติชนออนไลน์

ม็อบเสื้อแดงสนามหลวง ผู้ชุมนุมเปลี่ยนใส่สีอื่น กลุ่มรักเชียงใหม่ไม่เลิกปลุกระดมโจมตีสื่อ-รบ. "เยาวเรศ"ติงสื่อไม่ให้ความเป็นธรรมครอบครัว"ชินวัตร"ยัน"สมชาย-เยาวภา"ยังอยู่เมืองไทย "วีระ"อ้างถูกใส่ร้าย-ไร้กระบอกเสียงสู้ กลับไปตั้งหลักต่อสู้ใหม่ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมซึมเศร้า-ร้องไห้ "เหนือ-อีสานแตก มีทั้งลุย-เลิก!

ม็อบเสื้อแดงสนามหลวง ผู้ชุมนุมเปลี่ยนใส่สีอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการบรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวง ภายหลังกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงบางส่วนได้เคลื่อนการชุมนุมไปปักหลักชุมนุมบริเวณดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น พบว่า ยังคงมีผู้ชุมนุมประมาณ 10 คน ยังปักหลักอยู่บริเวณดังกล่าว โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ชุมนุมทุกคนได้เปลี่ยนเสื้อจากสีแดงมาใส่เสื้อสีอื่น นอกจากนี้ในช่วงคืนที่ผ่านมาได้มีผู้ชุมนุมบางส่วนได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัยบริเวณรอบพื้นที่ เพื่อป้องกันมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์


ทั้งนี้บริเวณรอบท้องสนามหลวงฝั่งวัดพระแก้วมรกต ได้มีชาวต่างชาติเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมและท่องเที่ยวตามปกติ ส่วนสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงมหาดไทย กระทวงกลาโหมและกระทรวงสำคัญต่างๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนราชดำเนินยังคงมีกำลังทหารตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยอยู่

กลุ่มรักเชียงใหม่ไม่เลิกปลุกระดมโจมตีสื่อ-รบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีวิทยุชุมชนกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยังคงปลุกระดมชาวเชียงใหม่ให้ออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย ทั้งนี้ นักจัดรายการวิทยุชุมชนยังกล่าวโจมตีสื่อมวลชน ที่บิดเบือนข่าวและยังกล่าวโจมตีว่า รัฐบาลว่าจ้างกลุ่มบุคคลออกมาสร้างสถานการณ์


ด้านพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ตนได้สั่งให้ตำรวจจับตาคลื่นวิทยุชุมชนในจังหวัดเชียงใหม่ 3-4 คลื่นอย่างใกล้ชิดว่า มีการนำไปใช้ผิดกับวัตถุประสงค์ของวิทยุชุมชนหรือไม่ หากยังมีการใช้วิทยุชมชนปลุกระดม จะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการทันที ตอนนี้ได้รับรายงานว่า มีวิทยุชุมชนถอนตัวออกจากกลุ่มเสื้อแดงไปแล้ว 1 คลื่น ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดเชียงใหม่นั้น ยังไม่มีเหตุการณ์ที่น่าเป็นห่วง และได้จัดกำลังตำรวจตั้งด่านตรวจค้นการขนคนเสื้อแดงเข้า-ออกในพื้นตามถนนสาย หลักอย่างเคร่งครัด และทางตำรวจก็ได้มีการเตรียมกำลังเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้ตลอด 24 ช.ม.

"เยาวเรศ"ติงสื่อไม่ให้ความเป็นธรรมครอบครัว"ชินวัตร"

นางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (15 เม.ย.) ว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา ภรรยา ยังคงอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่สื่อมวลชนไทยรายงาน โดยยืนยันคนตระกูลชินวัตร ส่วนใหญ่ ยังอยู่ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เห็นว่า สื่อมวลชนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับคนในตระกูลชินวัตร ทำให้ ครอบครัว เกิดความเสียหาย


อย่างไรก็ตาม นางเยาวเรศ ได้ปฏิเสธตอบคำถามที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้งปฏิเสธให้ความเห็นกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ พร้อมให้เหตุผลว่า ขอไม่พูดเรื่องการเมือง

"เสื้อแดง"ประกาศยุติชุมนุม


กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ประกาศยุติการชุมนุมแล้ว หลังชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ลาออก โดยเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย เนื่องจากมีผู้ไม่ประสงค์ดีแอบแฝงมาอยู่ในกลุ่มเสื้อแดง ขณะที่รัฐบาลประกาศให้วันที่ 16-17 เมษายน เป็นวันหยุดราชการอีก 2 วัน โดยอ้างว่า เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนโดยรวม และเพื่อบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ


ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 เมษายน นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ปราศรัยบนเวทีที่สะพานชมัยมรุเชฐว่า "เราจะประกาศขอให้ยุติการชุมนุมก่อน เพราะขณะนี้มีผู้ไม่ประสงค์ดีได้แอบแฝงมาอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงด้วย อีกทั้งเราก็ยังไม่มีสื่อไว้สื่อสารด้วย จึงจำเป็นต้องยุติการชุมนุมไว้ก่อน เพราะหากยังชุมนุมต่อไปก็เสี่ยงที่จะมีกองกำลังทหารเตรียมเข้าสลายการชุมนุม ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยจึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้แยกย้ายกันไปก่อน และหลังจากนี้จะมีตำรวจพาผู้ชุมนุมแยกย้ายกลับภูมิลำเนา เพื่อความปลอดภัย และหากมีการดำเนินคดีแกนนำก็เตรียมพร้อมต่อสู้ทุกคดี อย่างไรก็ตาม การยุติการชุมนุมครั้งนี้ก็เพื่อตั้งหลักต่อสู้ใหม่ แต่ไม่ได้ยกเลิกการต่อสู้อย่างสิ้นเชิง"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทราบว่าจะยุติการชุมนุม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมีอาการซึมเศร้าและบ่นว่าไม่น่ายุติการชุมนุมในขณะนี้ บางคนร้องไห้ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนก็เริ่มเก็บข้าวของกลับเพื่อกลับภูมิลำเนาแล้ว ส่วนแกนนำหลายคนมีใบหน้าโศกเศร้าเมื่อมีคำสั่งให้ยุติการชุมนุม


หวั่นถูกทหารบุกสลายม็อบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายวีระจะประกาศยุติการชุมนุม ได้มีทหารจำนวน 2 กองร้อยพร้อมอาวุธปืนเอ็ม 16 ประจำอยู่บริเวณโรงเรียนแผนที่ทหาร ถนนราชดำเนินนอก และเจ้าหน้าที่เทศกิจ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้นำรถยก 2 คัน มายกรถเมล์ ขสมก.ที่ถูกกลุ่มเสื้อแดงเผาเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันกลุ่มเสื้อแดงที่ประจำอยู่บนสะพานมัฆวานรังสรรค์ ประมาณ 30 คน เริ่มนำกำลังมาตั้งแถวหน้ากระดานอยู่หลังแผงเหล็ก เพื่อเตรียมรับมือทหารในการเข้าสลายการชุมนุม


คนเสื้อแดงเหนือ-อีสานแตก มีทั้งยุติชุมนุม-ลุยต่อไม่เลิก!


กลุ่มเสื้อแดงหลายจังหวัดผิดหวังที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.)ประกาศยุติการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 14 เมษายน โดยนางสดศรี ฉันทะ ประธานชมรมฌาปณกิจสงเคราะห์ลูกเสือชาวบ้าน จ.ตราด แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่เคยชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดตราด ระบุว่า รู้สึกเสียใจ แต่สอบถามแกนนำแล้วระบุว่าแค่ยุติลงชั่วคราวก่อน เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาใหญ่ และเกิดการบาดเจ็บล้มตายของผู้ชุมนุม


ส่วนกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ ในนามสมาพันธ์ชาวเหนือเพื่อประชาธิปไตย จ.เชียงใหม่ ประมาณ 100 คน ที่เปิดเวทีปราศรัยย่อยบริเวณสนามหญ้าหน้าศาลากลางจังหวัด ยอมสลายการชุมนุมทันที แต่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งรวมตัวกันที่หน้าโรงแรมแกรนด์วโรรสพาเลซ อ.เมืองเชียงใหม่ นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ยังประกาศไม่ยอมแพ้ พร้อมเชิญชวนผ่านสถานีวิทยุชุมชนให้มารวมตัวกันสู้ต่อ โดยจะเดินทางไปชุมนุมที่ท้องสนามหลวงแทน


ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายพิทยา พลเยี่ยม ข้าราชการบำนาญ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงกาฬสินธุ์ ยังคงปลุกระดมให้คนเสื้อแดงมารวมตัวที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัด จนทำให้เกิดกระแสข่าวว่าคนเสื้อแดงอาจสร้างความไม่สงบในกิจกรรมวันสงกรานต์ของเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ส่งผลให้นายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ต้องสั่งการฝ่ายปกครองระดมกำลัง อส.กว่า 100 นาย เข้าไปดูแลขบวนแห่


จ.สระบุรี เวลา 12.20 น. กำลังทหารจำนวน 1 กองร้อย พร้อมอาวุธครบมือ และรถฮัมวี่ติดอาวุธ 11 คัน รถสายพานลำเลียง 4 คัน รถบรรทุกกำลังพล และรถจี๊ปอีกจำนวนหนึ่ง มาตั้งฐานเตรียมพร้อมบริเวณหน่วยบริการตำรวจทางหลวงทับกวาง ริมถนนมิตรภาพ กม.15-16 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เนื่องจากทราบว่ามีกลุ่มม็อบเสื้อแดงภาคอีสานใช้รถบัสกว่า 30 คันเป็นพาหนะจะบุกเข้ากรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าทั้งหมดถูกสกัดไว้ได้เสียก่อน บริเวณใกล้เขื่อนลำตะคลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา


เวลา 13.30 น. นางซาบีน่า ซาห์ ประธานชมรมคนเสื้อแดงขอนแก่น พร้อมสมาชิกประมาณ 30 คน ประชุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น จากนั้นสรุปสลายการชุมนุมชั่วคราว แล้วทุกคนก็พากันเล่นน้ำสงกรานต์ เก็บสิ่งของ และเวทีปราศรัยทำความสะอาดสถานที่ชุมนุมให้กลับอยู่ในสภาพเดิม แล้วพาเขน-องเดินทางกลับบ้าน


ขณะเดียวกัน นายอาเด็ฟ โซ๊ะโก เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยสมาชิกเครือข่ายประมาณ 50 คน พากันเดินรณรงค์ประณามการใช้ความรุนแรงในการก่ออาชญากรรมโดยรัฐต่อประชาชน ไปตามถนนสายสำคัญในเขตเทศบาลนครขอนแก่น

เวลา 10.00 น. ทหารจำนวน 2 กองร้อย เริ่มเคลื่อนพลมายังหน้าสหประชาติ (ยูเอ็น) ก่อนเคลื่อนขบวนเข้าไปประจันหน้ากับกลุ่มเสื้อแดง ห่างกันประมาณ 30 เมตร กลุ่มเสื้อแดงจึงรวมตัวกันตั้งแถวหน้ากระดานยกมือทั้งสองข้างไว้บนศีรษะ ขณะที่ผู้ชุมนุมบางคนก็ถือธงชาติไทยไว้ในมือ และยืนเผชิญหน้ากันประมาณ 15 นาที ทหารจึงยอมถอยหลังไป 5 เมตร


เวลา 10.30 น.แกนนำ นปช.ที่อยู่บริเวณเวทีชมัยมรุเชฐ ได้ปรึกษาหารือถึงสถานการณ์ และมีมติยุติการชุมนุม พร้อมให้นายวีระขึ้นเวทีประกาศยุติการชุมนุม โดยนายวีระกล่าวว่า หากยังคงปักหลักชุมนุมต่อไปจะถูกสลายการชุมนุมได้ และจะทำให้พี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุมเสียชีวิตและบาดเจ็บได้ "ผมยินดีรับผิดชอบทุกเรื่องการชุมนุมครั้งนี้ จะยุติลงเพื่อสวัสดิภาพของทุกคน ขอให้ระงับควมรู้สึกเอาไว้"


อ้างถูกใส่ร้าย-ไร้กระบอกเสียงสู้


เวลา 11.00 น. นายวีระขึ้นปราศรัยบนเวทีอีกครั้งว่า ได้เจรจากับเจ้าหน้าตำรวจแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม และการถอนออกไปจะไม่รีบร้อน ทางเราได้จัดรถบัสไว้ไปส่งพี่น้องแล้ว และอีกสาเหตุที่ยุติการชุมนุมก็ไม่อยากหลงกลอุบายของฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากที่ผ่านมาเสื้อแดงถูกใส่ร้ายมาตลอด ถูกใส่ร้ายว่าเผารถประจำทาง สื่อของเราสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นก็โดนปิด เราไม่มีสื่อกระบอกเสียงแล้วจะเอาอะไรไปสู้ แกนนำเจ็บช้ำทุกคน และไม่มีประโยชน์ที่จะไปกระโดดหน้าผาตาย


เวลา 12.00 น. นายวีระ นายสุพร อัตถาวงศ์ เดินเท้าเข้าเจรจากับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ที่บริเวณแยกมิสกวัน โดยมีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 100 คน เดินทางตามมาให้กำลังใจและคุ้มกัน ซึ่งภายหลังการเจรจากันประมาณ 20 นาที พล.ต.อ.พัชรวาทได้กล่าวกับนายวีระ ว่าให้แกนนำพาผู้ชุมนุมกลับบ้านไป แล้วอย่ากลับมาอีกนะ และเมื่อส่งผู้ชุมนุมขึ้นรถบัสหมดแล้ว แกนนำ นปช.ทั้งหมดก็เดินทางร่วมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท ไปยัง บช.น.เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา


ข่าวแจ้งว่า ก่อนที่จะประกาศยุติการชุมนุม กลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้วางเพลิงเผารถประจำทางยูโรสาย 509 ใกล้โรงพยาบาลมิชชั่น ถนนพิษณุโลก ได้รับความเสียหายทั้งคัน


บ.ข.ส.จัด60คันส่งผู้ชุมนุมกลับ


นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.) กล่าวว่า บ.ข.ส.ได้รับการประสานงานจาก บช.น. และกำลังทหาร เพื่อขอรถจาก บ.ข.ส.ให้มารับกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งในเบื้องต้น บ.ข.ส.ได้เตรียมรถจำนวน 60 คัน โดยเป็นรถของ บ.ข.ส. 30 คัน และรถร่วมบริการเอกชนอีก 30 คันสำรองไว้ โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. สามารถนำส่งผู้ชุมนุมเดินทางออกจาก กทม.ได้ทั้งหมดประมาณ 3,000 คน เบื้องต้น บ.ข.ส.จะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อน ส่วนจะเรียกเก็บคืนจากรัฐบาลได้หรือไม่จะต้องมีการหารือกัน ทั้งนี้เส้นทางที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เดินทางกลับคือ สายอีสาน สายอุดรธานี เกือบ 20 คัน หรือไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ที่เหลือก็เป็นจังหวัดอื่นในภาคอีสาน และสายเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย อุตรดิตถ์ แพร่ เป็นต้น และหลังจากนี้รถ บ.ข.ส.ก็จะรอที่สถานีปลายทางเพื่อรองรับการเดินทางกลับเข้า กทม.ในช่วงหลังเทศกาลด้วย


ประกาศจะกลับมารวมพลังอีก


นายสุพรกล่าวว่า การหยุดต่อสู้ตอนนี้ก็เพื่อรักษาชีวิตประชาชนไว้ เพราะประชาชนถูกยิงได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้ตนและนายวีระไม่ได้มอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะยังไม่มีหมายจับ แต่เพียงต้องการออกจากพื้นที่เท่านั้น เพื่อรักษาผลประโยชน์กลุ่มผู้ชุมนุม


"พี่น้องที่ต่อสู้กันมา 20 วันกำลังเหนื่อยล้าและอ่อนแรง และกลุ่มผู้ชุมนุมก็ถูกสกัดทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้พี่น้องมาร่วมชุมนุม ทำให้พี่น้องที่อยู่ในที่ชุมนุมขณะนี้มีกำลังลดน้อยลงไป และบางส่วนมีถูกยิงได้รับบาดเจ็บและถูกฆ่าไปมากมาย ดังนั้น ขวัญกำลังใจของกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนก็เสียไปด้วย เราจึงไม่อยากให้มีการสูญเสียชีวิตของพี่น้อง แต่อุดมการณ์และแนวทางการต่อสู้ของเรายังคงเดินหน้าต่อไป" นายสุพรกล่าว และว่า การสลายการชุมนุมเพื่อรักษาผลประโยชน์แล้วค่อยมารวมพลังกันใหม่ได้ ประชาธิปไตยยังไม่ได้จบสิ้นวันนี้ ต่อจากนี้เรายังมีแนวทางการต่อสู้อยู่