ที่มา ประชาไท
โดย จีรนุช เปรมชัยพร
ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ใช่เพียงเนื่องมาจากการที่นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่เป็นภาวะฉุกเฉินที่ร้ายแรงอันเนื่องมาจากการรับรู้ข่าวสารที่ต่างมุม ต่างอารมณ์
ความรู้สึกของคนในสังคม จึงมีทั้งคนที่มองเห็นการกระทำของคนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการความวุ่นวายและสร้างความไม่สงบ ตามที่มีการรายงานโดยต่อเนื่อง รวมถึงการออกสื่ออย่างเข้มข้นของผู้มีอำนาจในฝ่ายรัฐบาล ขณะที่แทบไม่เห็นการรายงานเรื่องราวและความคิดเห็นจากมุมของคนเสื้อแดงที่ชุมนุมรวมตัวกันเป็นจำนวนมากที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล และกระจายเป็นกลุ่มย่อยๆ อยู่ในจุดต่างๆ ของกรุงเทพฯ และอีกทั่วประเทศ
สำหรับคนเสื้อแดง สายธารข่าวเช่นนี้นำมาซึ่งความรู้สึกโกรธแค้นที่เพิ่มมากขึ้น ยิ่งชัดเจนว่ามีการปิดกั้นการเข้าถึงข่าวสารในฝ่ายของคนเสื้อแดง แม้อาจจะไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการกระทำโดยรัฐหรือโดยใคร แต่แน่นอนที่สุด ผลลัพธ์ที่ได้ คือความรู้สึกโกรธแค้นที่ทับทวีขึ้น
การประกาศที่จะนำความสงบคืนมาสู่ประเทศไทยให้ได้ภายใน 3-4 วันของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยการตัดสินใจล้อมปราบประชาชน
และเรายังหวังว่า สื่อมวลชนและกลุ่มต่างๆ ในสังคม จะไม่ดูดาย เพิกเฉย และอาจเกินเลยไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความชอบธรรมในการล้อมปราบ
ความอดทน และสันติในใจของทุกฝ่ายเท่านั้นที่จะนำความสงบคืนมาได้