ที่มา ประชาไท
พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม กล่าวว่า เมื่อเวลา 05.45 น.วันที่ 17 เมษายน เกิดเหตุคนร้ายมากกว่า 2 คนโดยสารรถกระบะ ใช้อาวุธปืนอาก้าและเอ็ม 16 ถล่มยิงใส่รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณหน้าวัดเอี่ยมวรนุช สี่แยกบางขุนพรหม เป็นผลทำให้นายสนธิได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกยิงเข้าที่หัวไหล่และกระสุนถากคิ้ว นายอดุลย์ แดงประดับ นายวา คนขับรถของนายสนธิถูกยิงเข้าที่ลำตัวและศีรษะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และนายวายุภักดิ์ มัดสิ ผู้ติดตามนายสนธิได้รับบาดเจ็บ โดยนายสนธิและผู้ติดตามถูกส่งตัวไปรักษาที่วชิระพยาบาล ขณะที่คนขับรถถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมิชชั่น
พ.ต.อ.ขิง กล่าวต่อว่า วิถีกระสุนถูกยิงเข้าบริเวณด้านซ้ายและด้านหน้าของรถยนต์ โดยบริเวณหน้าหน้ารถมีรอยกระสุนจำนวนมาก คาดว่าคนร้ายคงเร่งความเร็วแซงหน้ารถของนายสนธิจากทางซ้าย ก่อนยิงถล่มใส่ด้านหน้า นอกจากนี้ ยางรถยนต์ของรถนายสนธิยังถูกยิงจนแบนหมดทั้ง 4 เส้นอีกด้วย
ขณะที่พยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ขณะที่รถของนายสนธิขับมาตามถนนสามเสนมุ่งมาทางบางลำภู ได้มีรถของคนร้ายขับตามประกบ เป็นรถปิกอัพ โตโยต้าวีโก้ 2 ประตู สีบรอนซ์ทอง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มือปืนซึ่งอยู่ด้านหลังของรถกระบะได้ยิงใส่ล้อรถนายสนธิเพื่อให้ยางแตก ก่อนที่จะระดมยิงเข้าใส่รถของนายสนธิ นับ 100 นัด จากนั้นจึงขับรถหลบหนี โดยใช้เส้นทางถนนเทเวศร์
โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล เตรียมเดินทางมายังสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ถ.พระอาทิตย์ เพื่อดำเนินรายการ “Good Morning
‘สนธิ’ ปลอดภัยแล้ว สามารถสื่อสารรู้เรื่อง แพทย์ให้ญาติเข้าเยี่ยม
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งได้รับบาดเจ็บกระสุนฝังศีรษะ จากเหตุคนร้ายถล่มยิงรถยนต์ส่วนตัว ได้ออกจากห้องผ่าตัดวชิระพยาบาลแล้ว โดยมีอาการปลอดภัยและสามารถสื่อสารพูดคุยรู้เรื่อง ขณะนี้แพทย์อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 8.30 น. น.พ.วันชัย เจริญโชคทวี ผอ.วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพ และวชิรพยาบาล แถลงความคืบหน้าการรักษา นายสนธิ ลิ้มทองกุล อายุ 61 ปี เจ้าของสื่อในเครือผู้จัดการ และแกนนำพันธมิตรฯ ว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 3 ราย มารักษาตัวที่ รพ.วชิระ 2 ราย คือ นายสนธิ และนายวายุภักดิ์ มัลคละสินธุ์ อายุ 40 ส่วนอีกคนเป็นคนขับรถอยู่ รพ.มิชชั่น สำหรับอาการผู้ได้รับบาดเจ็บ นายวายุภักดิ์ มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้า หูข้างขวา มีบาดแผลถลอกเล็กน้อยบริเวณหน้าแข้ง ขาทั้งสองข้าง รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง อาการไม่น่าเป็นห่วง หากรักษาแผลเสร็จก็กลับบ้านได้
น.พ.วันชัย กล่าวว่า สำหรับนายสนธิ นั้นมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใบหน้าด้านขวายาว 3 ซม. บาดแผลฉีกขาดเล็กน้อยทั่วไปบริเวณข้อมือขวา และบาดแผลถลอกเล็กน้อยทั่วไปบริเวณลำตัวด้านข้างแถบขวา รู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ทั้งนี้บาดแผลที่ศีรษะจากการเอ็กซเรย์พบเศษโลหะฝังอยู่ในกะโหลกลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร กะโหลกแตก มีเลือดออกเหนือชั้นเหยื่อหุ้มสมองมีปริมาณมากพอสมควร
นพ.วันชัย กล่าวว่า ขณะนี้คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมประสาทกำลังทำการผ่าตัดโดยเข้าห้องผ่าไปเมื่อเวลา 09.00 น.และจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงในการผ่าตัดรักษา คาดว่าคนไข้น่าจะปลอดภัยซึ่งกรณีที่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะถือว่าอันตรายทุกรายทางคณะแพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ เมื่อนายสนธิปลอดภัยแล้ว จะออกมาแถลงข่าวด้วยตนเอง
น.พ.วันชัย กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการในการักษาความปลอดภัยนั้นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ส่งตำรวจมาดูแลความปลอดภัยและวางมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ ทั้งนี้หลังผ่าตัดแล้วต้องพักฟื้นที่ห้องไอซียู ดูอาการเนื่องจากคนไข้อายุมากอาจมีโรคแทรกซ้อนตามมาจึงต้องดูอาการอย่างมใกล้ชิด ส่วนผู้ที่ต้องการเข้าเยี่ยมให้กำลังใจนั้นต้องขอความกรุณาว่าอย่าเพิ่งเดินทางมาที่โรงพยาบาลในช่วงนี้เนื่องจากจะทำให้ตำรวจทำงานลำบากเพราะไม่ทราบว่าใครเป็นใครและผู้ป่วยจะไม่ได้รับความปลอดภัย
คนขับรถเมล์เผยผู้ติดตาม ‘สนธิ’ ซิ่งรถยิงโต้คนร้ายจนหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสภาพรถคันดังกล่าว พบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามอาก้า และเอ็ม16 กระจกด้านหน้าเป็นรูพรุน 27 รู ฝากระโปงหน้า 8 รู กระจังหน้ากันชน 7 รู บริเวณซันลูปด้านบนของรถเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ กระจกด้านหลังแตกทั้งบาน กระจกด้านหน้าซ้ายแตกทั้งบาน ยางรถทั้ง 4 ถูกยิงแตก น้ำมันเครื่องไหลนองพื้นถนน
พบปลอกกระสุนปืนอาก้าและเอ็ม 16 กว่า 100 ปลอก ขณะที่รถโดยสารประจำทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (ขสมก.) สาย 53 หมายเลขทะเบียน12-0283 กรุงเทพมหานคร โดนกระสุนปืนลูกหลงเข้าด้านหน้ามุมขวารถ
นายจำนงค์ เผ่าก้อน อายุ 49 ปี คนขับรถ ขสมก. สาย 53 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุขับรถมาถึงหน้าวัดเอี่ยมวรนุช เห็นรถกระบะสีน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับแซงรถคันเกิดเหตุไปจอดด้านหน้า ก่อนที่คนร้ายที่นั่งกระบะท้าย 2 คน จะลุกขึ้นนั่งและใช้อาวุธสงครามใส่รถคันดังกล่าว จากนั้นได้มีรถยนต์เก๋ง สีดำที่ขับตามมา ขับแซงขึ้นมาใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับคนร้าย ทำให้คนร้ายหลบหนีไป
นายกฯ กำชับ ตร.เร่งดำเนินคดี
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงเหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาว่า จะกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลเรื่องนี้ โดยเฉพาะเร่งรัดการดำเนินคดี นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยที่โรงพยาบาลซึ่งนายสนธิ รักษาตัวด้วย
ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลเรื่องคดีให้เร็วที่สุดด้วย
ทั้งนี้ ในการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ได้มีการเพิ่มทีมรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากกองพันทหารสารวัตรที่ 11 มณฑลทหารบกที่ 11 ชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด เจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ ชุดปฏิบัติการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือราชินี) และเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 1 ชุด เช่นเดียวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เพิ่มหน่วยรักษาความปลอดภัยระหว่างปฏิบัติภารกิจ
รับเหตุลอบยิง มีผลต่อการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ด้าน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เหตุลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ช่วงเช้าที่ผ่านมามีผลกระทบต่อการพิจารณายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่แต่เดิมจะมีการพิจารณาในระหว่างการประชุมครม.นัดพิเศษที่จะมีขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.00 น.วันนี้ แน่นอน ขณะนี้นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานด้านความมั่นคงได้รับรายงานเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และในการประชุมคณะรัฐมนตรีคงจะมีรายงานที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องส่งมาให้ที่ประชุมได้พิจารณาเป็นระยะๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
รศ.ดร.ปณิธาน ยอมรับว่า กำหนดการเดินทาง รวมทั้งสถานที่ที่นายกรัฐมนตรีจะไปปรากฏตัวนั้น ทั้งหมดจะยังอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของหน่วยงานด้านความมั่นคงต่อไป และจะยังไม่เป็นที่เปิดเผย เนื่องจากยังคงหวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัยอยู่
มาร์คห่วงใยเหตุยิงสนธิ ให้ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยที่ รพ.
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวก่อนเข้าเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงเหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใย พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลเรื่องนี้ โดยเฉพาะเร่งรัดการดำเนินคดี
ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลเรื่องคดีให้เร็วที่สุดด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลความปลอดภัยที่โรงพยาบาลซึ่งนายสนธิรักษาตัวด้วย
ผบช.น.ตั้ง 2 ปมฆ่า ‘สนธิ’ เจอกระสุนเอ็ม79 แต่ไม่ระเบิด
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนเป็นการด่วนเพื่อติดตามคนร้าย ที่ใช้อาวุธถึง 4 ชนิด หนึ่งในนั้นมีอาวุธ เอ็ม 79 ตกในที่เกิดเหตุใกล้กับรถเมล์สาย 53 จำนวน 1 นัด แต่ไม่ระเบิด จุดยิงกับจุดที่กระทบระยะสั้นทำให้ไม่ทำงาน ส่วนสาเหตุการลอบยิงครั้งนี้ตำรวจได้ตั้งไว้ 2 ประเด็น เรื่องความเคลื่อนไหวทางการมือง และความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดในเบื้องต้น นอกจากนี้ ผบช.น. ได้สั่งให้มีการตรึงกำลังรอบโรงพยาบาลวชิระ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ ทำเนียบรัฐบาล
ตร.ฟันธงคนร้ายหวังปลิดชีพ ‘สนธิ’ ยังไม่ตัดทุกประเด็น
พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงถึงเหตุถล่มยิงรถยนต์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 คน รวมไปถึงนายสนธิด้วยว่า เหตุการณ์นี้ตำรวจไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยได้ตั้งข้อสังเกตไว้ 2 ประเด็น คือความขัดแย้งธุรกิจส่วนตัว และประเด็นทางการเมือง
สำหรับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ มีทั้งปลอกกระสุนอาก้า 64 นัด กระสุนปืน HK 17 นัด M 16 จำนวน 3 นัด และพบกระสุนชนิด M79 ไม่ทำงาน บนรถร่วมบริการอีก 2 นัด ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 4 คนและชำนาญด้านการใช้อาวุธสงครามเป็นอย่างดี
ส่วนเบาะแสคนร้ายนั้น พล.ต.ต.สุพร กล่าวต่อว่า บริเวณที่เกิดเหตุวัดเอี่ยมวรนุช ในที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ตำรวจพยายามจะตรวจสอบจากเบาะแสอื่นๆ เช่น อาศัยจากพยานบุคคล หากล้องวงจรปิดตั้งแต่รถของนายสนธิเดินทางออกมาจากถนนสุโขทัย ตามเส้นทาง วิถีกระสุนและเส้นทางเดินทางของนายสนธิ จากการตรวจสอบทราบว่าคนร้ายหนีไปทางเทเวศร์ แต่ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนพยานเพื่อหาข้อเท็จจริง ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มาก เพื่อผลประโยชน์ต่อการสอบสวน
ทั้งนี้มีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอารักขาดูแลความคุ้มครองที่รพ.แล้ว
"ตำรวจจะพยายามรักษาความสงบเรียบร้อย เราอยากให้เกิดความสงบในบ้านเมือง ไม่อยากให้มองว่าเป็นการแก้แค้นซึ่งกันและกัน เราจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดไม่ว่าจะเป็นผู้ใด หลังจากเกิดเหตุผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นครบาล 1 ก็ได้ไปร่วมตรวจสอบด้วยตนเอง ทั้งนี้ หากแกนนำพันธมิตรฯ คนอื่นตกเป้าหมายชัดเจนหรือมีการร้องขอมา เราจะไปดูแลให้และจะเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น" พล.ต.ต.สุพร กล่าว
พล.ต.ต.สุพร กล่าวด้วยว่า ขณะนี้นายสนธิอยู่ในการดูแลของแพทย์ แต่เมื่อสามารถให้การได้ จะขอรับทราบปากคำต่อไป
‘ปานเทพ’ คาดฝีมือ ‘คนมีสี’ ยิงสนธิ เผยรู้ตัวก่อนแล้ว
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางช่อง 3 ถึงเหตุคนร้ายถล่มยิงรถยนต์นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า คนร้ายมีอย่างน้อย 2 คน ใช้อาวุธสงครามปืนอาก้าและเอ็ม16 ยิงล้อรถทั้ง 4 ล้อให้ยางแตก ก่อนลงรถมากราดยิงใส่ พบปลอกกระสุนปืนในจุดเกิดเหตุอย่างน้อย 100 ปลอก เบื้องต้นคนขับรถและคนติดตามได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลมิชชั่น
นายปานเทพ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ในที่ประชุมข่าวเอเอสทีวีช่วงเช้าทราบว่าจะมีเหตุลอบยิงนายสนธิอย่างต่อเนื่อง แต่นายสนธิไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะเป็นเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่การต่อสู้กับรัฐบาลที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขว้างระเบิด ยิงสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี จึงเป็นเรื่องคาดไม่ถึง เชื่อว่าการยิงประกบยิงครั้งนี้ เป็นมืออาชีพ เนื่องจากคนร้ายสวมชุดสีขาวกางเกงลายพราง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า เหตุดังกล่าวสะท้อนว่า วิถีการแสดงความคิดเห็นของภาคประชาชนถูกคุกคามอย่างหนัก รุนแรงผิดปกติ เพราะใช้อาวุธสงคราม เข้าข่ายเป็นภัยความมั่นคงของชาติ ไม่ได้เพียงมุ่งหมายข่มขู่ สื่อมวลชน แกนนำภาคประชาชน เท่านั้น แต่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของนานานชาติ รัฐบาลต้องติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เชื่อว่า ไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดา และถูกฝึกมาอย่างดี สังเกตจากการใช้อาวุธ อาจเป็นคนในแวดวง ทหารหรือตำรวจทางใดทางหนึ่ง
เตรียมประชุมแกนนำ พธม. ทั่วประเทศ 24 เม.ย.นี้
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวถึงเหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ จนทำให้นายสนธิได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า คนพวกนี้กำลังเล่นใต้ดินและติดตามทำร้ายแกนนำมานานแล้ว พวกเรารู้และพยายามดูแลตัวเอง แต่คนที่ซุ่มมีโอกาส ก็เผลอบ้าง เราได้รับข้อมูลมาตลอดว่ามีการตั้งเป้ากับแกนนำมาโดยตลอด แต่โอกาสจังหวะไม่มี ทั้งนี้ เอเอสทีวีก็โดนเอ็ม 79 การชุมนุมก็โดนตลอด พวกนี้ไม่ใช่พวกต้องการประชาธิปไตย แต่เป็นกองโจร
เมื่อถามว่า รถยนต์ได้ติดกระจกกันกระสุนหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่มีเงินติดกระจกกันกระสุน เพราะราคาหลาย 10 ล้านบาท เมื่อถามว่า มีการป้องกันตัวตลอดหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกคนบอกให้ระวังตลอด เพราะเราเป็นตัวจักรทำลายระบอบทักษิณ ความอาฆาตก็มีโดยตลอด แต่พวกเราเสียเปรียบและเผลอได้ ถือเป็นความอหังการท้าทายอำนาจมาก รัฐบาลต้องเข้มงวดกวดขันต่อไป เราไม่ได้ตกใจและกลัว เพราะเราต้องนำไปสู่ประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป
เมื่อถามว่า พันธมิตรฯจะออกมาชุมนุมหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันที่ 17 เมษายนนี้ จะมีการจัดคอนเสิร์ตที่ จ.ภูเก็ต พันธมิตรฯ จะเดินหน้าตามแผนและไม่มีอะไรวิตกกังวล โดยวันที่ 24 เมษายนนี้ จะมีการประชุมแกนนำทั่วประเทศ
เมื่อถามว่า ช่วงที่นายสนธิพักฟื้น ใครจะดูแลแทนนายสนธิ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พวกเรา 4 คน คุยกันและสามารถติดต่อกันได้ตลอด เพราะนายสนธิมีสติตลอด และตอนนี้มีอาการปลอดภัยแล้ว เมื่อถามว่าคนร้ายรู้เวลานายสนธิได้อย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า "เขารู้ว่านายสนธิหลุดไปหลายวัน และรู้ว่าวันนี้จะมา จะต้องพิจารณากันต่อไป"
การ์ดพันธมิตรฯ คุมเข้มที่ทำการ ‘เอเอสทีวี’ ยังไร้เงาตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.50 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นอาคารที่ทำการ หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้มีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยมีการ์ดพันธมิตรฯ คุ้มกันอย่างหนาแน่นทั้งภายในและภายนอกอาคาร แต่ไม่ปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในบริเวณทั้งภายในและภายนอกตัวอาคารแต่อย่างใด ขณะที่ภายในบ้านพระอาทิตย์ในเวลานี้ก็ยังไม่มีการประชุมร่วมกันของบรรดาแกนนำพันธมิตรฯ คนอื่นๆ แต่อย่างใด
เสธ.แดงเชื่อ ‘สนธิ’ ปราศรัยพาดพิงทำศัตรูเยอะ ฝีมือรัฐสั่งเก็บ
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เพราะไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร แม้ก่อนหน้านี้ จะมีการเคยเตือนให้พันธมิตรฯ ระวังจะมีคนจองกฐินอีกจำนวนมาก เชื่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือคนของรัฐ เพราะการก่อเหตุไม่มีมือปืนที่ไหนใช้รถกระบะ เนื่องจากสภาพการจราจรติดขัด ดังนั้น การใช้รถกระบะได้ ต้องมั่นใจว่า ต้องมีคนช่วยพาหลบหนีต่อ อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คงไม่ทำ เพราะทุกวันนี้ ไม่ได้สู้กับพันธมิตรฯ แล้ว แต่สู้กับบุคคลระดับสูงและพวกอำมาตย์
พล.ต.ขัตติยะ บอกด้วยว่า เดาไม่ออกว่า กลุ่มไหนของรัฐลอบสังหาร เพราะนายสนธิปราศรัยพาดพิงคนอื่นไปทั่วทำให้มีศัตรูเยอะ และคงไม่ใช่กลุ่มเสื้อแดง มาแก้แค้น เพราะตอนนี้ ส่วนใหญ่ถูกจับกุมเกือบหมดแล้ว
.......................................
เรียบเรียงจาก มติชน คมชัดลึก ASTVผู้จัดการออนไลน์ และโพสต์ทูเดย์