ที่มา มติชนออนไลน์
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 เมษายน 2552 ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงาน กว่า 50 คน รดน้ำอวยพรให้นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช และนางอุไรวรรณ เทียนทอง ที่บ้านพักนายเสนาะ เทียนทอง หลังเก่า บริเวณสี่แยก แซร์ออก หลังปั้มน้ำมัน ปตท. อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว
ต่อมานายเสนาะ เทียนทอง ได้ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับสถานการณ์ประเทศไทยในขณะนี้ว่า กลุ่มคนที่มีปัญหา เราไม่อยากบอกว่า มีกี่สี แต่วิฤติการณ์ บ้านเมืองในขณะนี้ มันเกิดความแตกแยกนับวันที่จะมากขึ้น ๆ จนในที่สุด ก็มาถึงขั้นวิกฤติ ในขณะนี้ ในกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล เราก็ต้องมาใช้มาตรการภาครัฐ ในการที่จะประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งก็ถือว่า เป็นวิกฤติ รุนแรงมากจึงใช้มาตรการตัวนี้ออกมา เพราะฉะนั้นรัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน จะยังไงก็แล้วแต่ จะปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากประชาชน แต่ขั้นตอนนั้น เป็นขั้นตอนที่ไม่ค่อยจะถูกต้องมากนัก เพราะว่า มาในท่ามกลางที่ เหมือนกับว่า มันมีการที่จะผลักดันขึ้น โดย สิ่งที่ไม่ค่อยถูกต้อง แต่ยังไงก็แล้วแต่ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน นายก ฯ เองก็ เป็นนักประชาธิปไตยยู่พรรค และเป็นพรรคหลักพรรคหนึ่ง ที่มีอายุยืนยาวที่สุด ในประเทศไทย และก็มาใช้มาตรการในการที่จะปราบประชาชน ซึ่งพูดกันตรงแล้วก็ปราศจากอาวุธ แล้วก็ใช้มาตรการรุนแรง ที่จะนำพาไปสู่ความแตกแยก ถ้าขืนปล่อยไว้ จะเสียใจ "ผมเองในฐานะที่เป็นคนชายแดน โดยเฉพาะวันนี้เป็นวัน ขึ้นปีใหม่แบบไทย ๆ ของเรา ครบรอบพอดี วันนี้ คือวันที่ 13 เป็นวันที่จะต้อง เวียนศักราช ตามจารีตประเพณี ของโบร่ำโบราณ คือ วันสงกรานต์ ก็อยากจะเรียนว่า ถ้าหาก ท่านนายกฯ ก็ดี รัฐบาลก็ดีหรือว่า ทางกองทัพก็ดี ฝ่ายข้าราชการที่ได้ถูกสั่งการให้มา ที่เกี่ยวกับมาตรการตามกฎหมาย ก็ต้อง คิดกันดี ๆ แล้วก็ คิดให้ไกล ๆ มองให้ไกล ๆ เพราะประเทศชาติของเรานั้นไม่เคยมีวิกฤติเช่นนี้มา ผมอายุ 75 ปี แล้วไม่เคยมีแบบนี้ "นายเสนาะกล่าว นายเสนาะกล่าวว่า หากมองไปข่างหน้าว่า ถ้าเราปราบประชาชน แล้วก็สร้างความแตกแยก ร้าวฉานหนักกว่านี้ ถึงแม้เราจะปราบประชาชนได้วันนี้ ถามว่ารัฐจะบริหารประเทศชาติอย่างไร เพราะความแตกร้าวตรงนี้ นั้นไม่ใช้เฉพาะใส่เสื้อสีนั้นสีนี้ มาเผชิญหน้ากันแต่ว่า มันลงไปถึงความรู้สึกของคนทั้งชาติแล้วขณะนี้ ในเมื่อมันร้าวลึกอยู่ในหัวใจ แล้วจะทำยังไง ในการที่จะแก้ไขปัญหา ฉะนั้นก็ฝากไปยังท่านนายก ฯ ก็ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แล้วก็มีโอกาสได้ขึ้นมา เป็นผู้นำประเทศ บริหารประเทศชาติ ก็อยากจะฝากว่า ท่านต้องคิดให้ดี ว่าท่านเป็นนายกฯ ระบอบประชาธิปไตย ท่านต้องไปสัมผัสกับประชาชน อีกมากมาย เพราะท่านอายุยังน้อยมาก ฉะนั้น จะทำอะไร ก็ยังไม่สาย ในการที่จะแก้ปัญหาตรงนี้ ให้ถูกทิศถูกทาง การจะประกาศอะไรนั้น ผมก็คิดว่า ท่านนายกฯ น่าที่จะ ใช้ช่วงตรงนี้
"ไม่ใช่ว่านะ ผมใช้ความอาวุโส ประสบการณ์ และก็ได้ดูเหตุการณ์บ้านเมืองมา เรียกว่า ถึงบั้นปลายของชีวิตแล้ว อยากจะฝากลูกหลาน ไม่ว่าจะเป็น นักการเมืองหรือฝ่ายข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ต้องคิดกันดี ๆ ว่า ยังไม่สายครับ ในการที่จะ หันหน้าเขามาหากัน โดยเฉพาะนายก ฯ ต้องยอมครับ ท่านลองประกาศซิครับว่า ท่านลองประกาศไปเลยบอกว่า ผมพร้อม ๆ ที่จะ ลาออก หรือว่า สละตำแหน่ง เพื่อคงไว้ ซึ่งระบอบประชาธิปไตย ซึ่งคงไว้ความเรียบร้อยของบ้านเมือง ประกาศลาออกโดยมีเงื่อนไข ผมอยากจะเสนอแนะว่า ให้ท่านนายกฯ ประกาศลาออกโดยมีเงื่อนไขว่า ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน แล้วก็ให้สภามาจากประชาชน นั้นได้พูดได้คุยกันแล้วก็เปิดอภิปรายในสภา ทุกฝ่ายห้ามมาพูดเรื่องแตกร้าว โดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎร มาพูดกันเรื่องสร้างสรรค์ทั้งนั้น เอาทุกพรรคมาคุยกัน จับเข่าคุยกันในสภา ในรัฐสภา ไม่มาพูดกระแนะกระแหน เราจะมาร่วมกันแก้วิกฤติกันอย่างไรในฐานะที่เรามาจากประชาชน ผมว่าท่านจะเป็นฮีโร่เลย"นายเสนาะกล่าว และว่า ให้นายกฯ ลาออกแต่มีเงื่อนไข มีเงื่อนไขอย่างนี้ ให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้ามาหากัน ความสามัคคีกลมเกลียวจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนที่มาจากประชาชน ในเมื่อปัญหาเกิดขึ้นที่การเมือง อยู่ที่นักการเมืองเราก็ต้องแก้ที่ตรงนี้
นายเสนาะ กล่าวอีกว่า ตนไปให้ลูกหลานรดน้ำ คลำหัวก็อวยพรกันอย่างนี้ และก็อยากจะฝากถึงนายกฯ ลองทำสักครั้งเชื่อตนเหอะ สละตำแหน่ง ลาออกโดยมีเงื่อนไข ว่าให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน แล้วให้ประชุมรัฐสภา พูดกันเรื่องแก้ปัญหาให้กับบ้านกับเมืองเท่านั้น ไม่ต้องมาอภิปรายกันว่า คนนั้นอย่างนี้คนนี้ไม่เอา มานับหนึ่งกันใหม่ วันสงกรานต์นี้ เป็นวันขึ้นปีใหม่ ที่ บรรพบุรุษได้ สร้างบ้านแปลงเมืองไว้ให้เรา อย่าลืมว่าแผ่นดิน นี้ศักดิ์สิทธิ์ แผ่นนี้ได้มาด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของบรรพบุรุษทับถมกันมา หอกดาบและหลาวทิ่มกันมา เอาไว้ให้กับลูกกับหลานจนถึงทุกวันนี้ ท่านอย่าใช้อำนาจในฐานะที่ท่านมาจากประชาชน แล้วท่านจะเสียใจ "ถึงท่านจะชนะวันนี้ ท่านก็บริหารประเทศชาติไม่ได้ในยามนี้ ดังนั้นถือโอกาสตรงนี้ ประกาศเลย ลาออกโดยมีเงื่อนไข ผมขอเสนอแนะอย่างนี้ สำหรับคุณสุเทพฯ ก็เป็นหน้าที่ เขาเป็นรองนายกฝ่ายความมั่นคง ก็ต้องมอบหมายตรงนั้น ก็ว่ากันไปฝากถึงสุเทพด้วย ก็ยังไม่สาย และก็ไม่ต้องกลัวเสียหน้าหรอก การที่จะกลัวเสียหน้า ยามวิกฤติอย่างนี้ นั่นแหละจะเสียใจและเสียประเทศ จากเป็นที่รักของทุกคน"นายเสนาะกล่าว