ที่มา Thai E-News
ความต่าง-ขณะที่สื่อกระแสหลักของไทยนำเสนอข่าวบิดเบือนตามรัฐบาลว่าไม่มีผู้ชุมนุมบาดเจ็บล้มตาย แต่มีทหารบาดเจ็บจำนวนมากตามที่รัฐบาลต้องการบิดเบือน แต่สำนักข่าวต่างประเทศมืออาชีพอย่างBBCนำเสนอพาดหัวข่าวว่า"ทหารไทยกราดปืนใส่ฝูงชน"
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
13 เมษายน 2552
สมาคมสื่อทรราชแถลงการณ์โยนบาปทักษิณ
นอกจากการนำเสนอข่าวบิดเบือนให้ร้ายผู้ชุมนุมเสื้อแดง และยั่วยุประชาชนให้เกลียดชังผู้ชุมนุม ยุแหย่ให้รัฐบาลใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมแล้ว สมาคมสื่อต่างๆยังได้ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งในวันนี้ โดยมีเนื้อหาที่โยนบาปไปให้ทักษิณว่าเป็นผู้จุดชนวนความรุนแรง
โดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมกับองค์กรต่าง ๆ 7 องค์กร ออกแถลงการณ์ร่วมกัน 5 ข้อ ( คลิ้กดูรายละเอียดที่นี่ )
โดยขอให้รัฐบาลใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขวิกฤติของประเทศ อันเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ที่มีความรุนแรงขึ้นจนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ผู้อำนวยการบริหารสถาบันอิสรา กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลและกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินควรใช้กำลังเจ้าหน้าที่เท่าที่จำเป็น อย่าใช้เพื่อในการปราบปรามหรือสลายการชุมนุม และขอให้แกนนำ นปช.ยุติการใช้ความรุนแรงและกีดขวางการทำงานของสื่อ
อีกทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องยุติการยั่วยุและปลุกระดม ซึ่งเห็นว่าหากเกิดความรุนแรงไปมากกว่านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องรับผิดชอบ
พร้อมกันนี้ยังขอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาโดยใช้มาตรการทางกฎหมายด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และควรเปิดการเจรจากับนปช. พรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองอื่น เพื่อหาทางออกร่วมกันในเวทีของสภาผู้แทนราษฎร
ยอดผู้อ่านไทยอีนิวส์สื่อทางเลือกพุ่งเฉียดแสนคลิ้ก
ประชาชนจำนวนมากได้หันไปหาข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงกับสำนักข่าวต่างประเทศแทนสื่อกระแสหลักของไทย เช่น CNN BBC REUTERS AP AFP รวมทั้งสื่อทางเลือกต่างๆ
สำหรับไทยอีนิวส์มียอดผู้เข้าเยี่ยมชมมากกว่า87,000คลิ้กในเหตุการณ์วันที่ 12 เมษายนเพียงวันเดียว จากปกติที่มีผู้เยี่ยมชมอยู่ระหว่าง35,000-55,000คลิ้กต่อวัน ซึ่งสะท้อนว่าประชาชนต้องการแสวงหาข่าวสารจากสื่อทางเลือกมากขึ้น
ไทยอีนิวส์ก่อตั้งขึ้นภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร19กันยายน โดยภาคพลเมืองที่ต้องการนำเสนอข่าวทางเลือก และมีจุดยืนฝ่ายประชาธิปไตย ถึงปัจจุบันมีผู้เข้าเยี่ยมชมรวม 9 ล้านคลิ้ก