ที่มา มติชนออนไลน์
โฆษกรบ.แจงทั่วโลก ยกเลิก"พาสปอร์ตแม้ว"ทุกฉบับ เพราะทำปท.เสียหาย รัฐบาลสั่งการ ให้บัวแก้วดำเนินการ มีผลตั้งแต่ 12 เม.ย. บังคับบินกลับไทยสถานเดียว เว้นแต่ใช้พาสปอร์ตเดินทางของชาติอื่น ชี้ชื่อ"แม้ว" ขึ้น"หมายแดง" ประสานองค์การตำรวจสากลตามตัว เหตุยุยงม็อบเสื้อแดงล้มประชุมอาเซียน
คลิกอ่าน ไขปริศนา!! ทำไม "สมชาย-สมพงษ์"หัวหดไม่กล้าแตะต้อง"ทักษิณ"-"พาสปอร์ตแดง"คืออะไร โฆษกแจง ยกเลิก"พาสปอร์ตแม้ว"เพราะทำปท.เสียหาย นายปณิธาน วัฒนายากร ในฐานะปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการถอดถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านรายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้"ทางช่อง 3 เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 15 เมษายนว่า กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ได้ทำการเพิกถอน หรือยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ หมดแล้ว โดยเล่มสีแดงได้ยกเลิกไปก่อนหน้านี้นานแล้ว ส่วนเล่มสีน้ำตาลนั้น ยกเลิกเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา
นายปณิธานกล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศ ปี 2548 มาตรา 23 วรรค 7 กระทรวงการต่างประเทศ สามารถเรียกคืนหนังสือเดินทางของผู้ที่อยู่ต่างประเทศ และทำความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งจะส่งผลทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางต่างประเทศในฐานะคนไทยได้ลำบาก ไม่สามารถเดินทางไปประเทศไหนได้ แต่ก็ยังคงสัญชาติไทยได้ตามปกติ ดังนั้น หากพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย ก็สามารถไปที่สถานทูตไทยในต่างประเทศ เพื่อขอเดินทางกลับประเทศไทยได้
เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า ตอนนี้มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เป็นพลเรือนกิตติมศักดิ์ของประเทศ นิการากัว สามารถใช้พาสปอร์ตของประเทศอื่นได้หรือไม่ นายปณิธานตอบว่า "พูดง่ายๆ พาสปอร์ตในฐานะคนไทย คุณทักษิณทำไม่ได้แล้ว ต้องกลับประเทศไทยอย่างเดียว แต่ถ้าไปใช้เป็นพลเมืองของประเทศอื่นก็เป็นสิทธิ์ ที่คุณทักษิณจะทำได้ แต่ทุกฝ่ายเห็นว่า คุณทักษิณ น่าจะเดินทางกลับมาในประเทศไทย เพื่อต่อสู้คดีความต่างๆ ตามกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย และยืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมของเราไม่สามารถแทรกแซงได้"
ผู้ดำเนินรายการถามว่า ในเว็บไซต์ "มติชนออนไลน์" ระบุว่า มีการประสานไปยังองค์การตำรวจสากล (Interpol) ให้ติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถูกรัฐบาลออกหมายจับ เพื่อส่งกลับมาดำเนินคดีในไทย โดยได้ขึ้นบัญชี "หมายแดง" หรือ Red Notice ไว้ในเว็บไซต์ขององค์การตำรวจสากลแล้ว นายปณิธานตอบว่า เรื่องนี้ เป็นขั้นตอนที่ดำเนินการตามปกติ ที่กระทรวงการต่างประเทศ จะให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ประสานงานไปยังตำรวจสากล เพื่อให้ติดต่อบุคคลที่มีคดีความ หรือถูกตัดสินว่ากระทำความผิด เพื่อส่งตัวกลับมารับโทษในประเทศไทย โดยเฉพาะประเทศที่มีข้อตกลงกับประเทศไทยอยู่ โดยเฉพาะบุคคล ที่กระทำการให้ประเทศชาติเสียหาย หรือดำเนินการล้มล้างรัฐบาล บัวแก้วประสานทั่วโลก แจ้งถอนพาสปอร์ต"แม้ว"แล้ว เมื่อวันที่ 15 เมษายน นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลไทย ประสานและแจ้งไปยังรัฐบาลทั่วโลก โดยกระทรวงการต่างประเทศได้สั่งยกเลิกหนังสือเดินทางธรรมดาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน ตามนโยบายรัฐบาลยกเลิกหนังสือเดินทางธรรมดา (พาสปอร์ตเล่มสีแดงเลือดหมู) ภายหลังเกิดเหตุกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง บุกเข้าไปยังโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ทำให้รัฐบาลต้องยกเลิกการประชุม
ทั้งนี้ การยกเลิกหนังสือเดินทางดังกล่าว อาศัยอำนาจตามระเบียบ กระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ในหมวด 8 ว่าด้วยการยกเลิกหนังสือเดินทาง ข้อ 23(7) ซึ่งระบุว่า สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้ เมื่อปรากฎภายหลังว่า " ....พิจารณาเห็นว่า หากให้ผู้ถือหนังสือเดินทางยังคงอยู่ในต่างประเทศต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศได้" ไม่มีพาสปอร์ตต้องกลับไทย เว้นใช้ของชาติอื่น
ผลจากการยกเลิกหนังสือเดินทางธรรมดา เท่ากับเป็นการบังคับให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเดินทางกลับประเทศไทยเท่านั้น โดยต้องขอให้สถานทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในประเทศนั้นๆ เอกสารการเดินทางชั่วคราวหรือที่เรียกว่าซีไอ ซึ่งเป็นเอกสารแสดงตนที่ใช้สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย เว้นแต่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะใช้หนังสือเดินทางของประเทศอื่นๆ ที่มีอยู่ในความครอบครองตามที่เคยประกาศไว้ ชื่อ"แม้ว"ขึ้น"หมายแดง"ให้ตำรวจสากลตามตัว รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของไทยได้ประสานไปยังองค์การตำรวจสากล (Interpol) โดยไทยเป็นสมาชิกอยู่ด้วย เพื่อให้ติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหลบหนีคดีทุจริตที่ดินรัชดาภิเษก มาถึงกรณีล่าสุด ถูกรัฐบาลออกหมายจับ ข้อหายุยง ส่งเสริมให้เกิดเหตุรุนแรง นำไปสู่ข้อหาการล้มล้างรัฐบาล โดยถูกขึ้นบัญชี "หมายแดง" หรือ Red Notice ไว้ในเว็บไซต์ขององค์การตำรวจสากลแล้ว ย้อนรอยถอนพาสปอร์ตทุกประเภทของอดีตนายกฯ ก่อนหน้านี้ ช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ารับตำแหน่ง และแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีการเรียกร้องให้พิจารณายึดหนังสือเดินทางธรรมดาของ พ.ต.ท.ทักษิณก่อนหน้าแล้ว แต่ยังไม่มีการตัดสินใจดำเนินการใด และได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ไม่มีการตอบกลับมา เนื่องจากฝ่ายกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ ให้เหตุผลด้วยว่าหากถอนหนังสือเดินทางทุกประเภทแล้ว จะถือว่าขัดต่อสิทธิเสรีภาพในการเดินทางของบุคคลหรือไม่ ซึ่งได้หารือกับรองอัยการสูงสุดแล้ว ก็เห็นด้วย แต่ในเวลานั้น มีการถกเถียงกันว่า การยกเลิกหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลตัดสินใจหรือมอบหมายให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตัดสินใจได้เลยหรือไม่ สุดท้ายเพียงยกเลิกหนังสือเดินทางอื่นๆ เว้นแต่หนังสือเดินทางธรรมดา ส่วนการดำเนินการอื่นๆ กระทรวงการต่างประเทศ ใช้วิธีประสานงานพูดคุยกับรัฐบาลประเทศอื่นเป็นการส่วนตัว ในการ ขอความร่วมมือเป็นการปฏิบัติต่างตอบแทน ที่ไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณ หรือบุคคลใดใช้พื้นที่ในประเทศเป็นเวทีทางการเมือง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายภายในประเทศนั้นๆ ด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ก็ได้ท้าทายรัฐบาลให้ยกเลิกหนังสือเดินทางของตน พูดตอนหนึ่งว่า "...ได้ข่าวว่าผู้ก่อการร้ายสากลที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศบอกว่า จะมาเอาพาสปอร์ตผมคืน มาเลยพาสปอร์ตราคาพันกว่าบาทเอาไปเลย..." "นพดล"ชี้ออกหมายจับ"แม้ว"ไม่กระเทือนเดินทางตปท.
นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันที่ 15 เมษายนว่า การที่รัฐบาลออกหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีเกี่ยวข้องการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในการก่อเหตุวุ่นวายและรุนแรงนั้น คงไม่ใช่ เพราะอดีตนายกรัฐมนตรีแค่วิดีโอลิ้งก์ และโฟนอินเข้ามาพูดคุยกับผู้ชุมนุม ส่วนการออกหมายจับนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องนำหมายไปจับกุมตัวในต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หมายจับคงไม่มีผลกระเทือนต่อการเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ "ในเร็วๆ นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำหนังสือชี้แจง ส่งไปยังสำนักข่าวต่างประเทศต่างๆ หรืออาจเป็นแถลงการณ์ลงในเว็บไซต์อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ผมก็ไม่รู้ว่าท่านพำนักอยู่ที่ไหน" นายนพดล กล่าว