เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2552 สำนักข่าวฟรองซ์ 24 ของฝรั่งเศส ได้เผยแพร่คลิปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงในไทยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนายออเรเลียง กอลลี ผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศสของฟรองซ์ 24 ประจำกรุงอาบูดาบีในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางไปสัมภาษณ์ทักษิณ ด้วยตนเองที่นครดูไบ พร้อมระบุว่าขณะนี้อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยอยู่ระหว่างลี้ภ้ย
นายกอลลีสอบถามว่า ทักษิณอยู่เบื้องหลังการชุมนุมประท้วงรัฐบาลของกลุ่มคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ ซึ่งทักษิณตอบว่า ตนมิได้ให้ความสนับสนุนอย่างเป็นทางการ แต่ได้ส่งกำลังใจแก่ผู้ที่สนับสนุนตนอยู่เป็นระยะ และระบุด้วยว่าผู้ชุมนุมที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลบางคนอาจถึงขั้นไม่ชอบหน้าตน แต่ก็ออกมารวมตัวกับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงเพราะต้องการเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริง ขณะที่กองทัพไทยใช้กำลังรุนแรงปราบปรามผู้ชุมนุม ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก และกล่าวเสริมว่าสื่อโทรทัศน์ของไทยเสนอข่าวอย่างบิดเบือน
นำเสนอแต่ภาพที่ผู้ชุมนุมเสื้อแดงใช้ความรุนแรงเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวแย้งว่าไม่มีหลักฐานยืนยันการเสียชีวิตของผู้ชุุมนุมจำนวนมากตามที่อ้าง ทักษิณก็ได้ยกสุภาษิตไทยขึ้นมาว่า "ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิดไม่มิด" และยืนยันว่าข้อเท็จจริงของการสลายการชุมนุมจะต้องถูกเปิดเผยออกมาในไม่ช้า แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือกระบวนการดำเนินคดีตามกฎหมายของไทยมี 2 มาตรฐาน และมีการเลือกปฏิบัติต่อแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง
ทักษิณได้กล่าวด้วยว่ากองทัพไทยแทรกแซงการเมืองมาตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี สิ่งที่ผู้ชุมนุมต้องการคือประชาธิปไตยที่ปราศจากการแทรกแซงจากกองทัพ องคมนตรี และกลุ่มชนชั้นนำที่มีอิทธิพลทางการเมือง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเพิิ่มเติมว่าหากได้กลับไปเมืองไทยจริงจะวางมือจากการเมืองอย่างไร ทักษิณตอบว่าตนจะยุติบทบาททั้งหมด และคอยให้กำลังใจแก่ผู้เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยอยู่ห่างๆ เท่านั้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงบทบาทของสถาบันกษัตริย์ไทย และทักษิณได้ขอพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณายุติปัญหาวุ่นวายทางการเมือง เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้เดียวที่จะก้าวเข้ามายุติเหตุการณ์นี้ได้ มิฉะนั้นความรุนแรงอาจขยายขอบเขตกว้างขึ้น นำไปสู่โอกาสที่จะเผชิญหน้าปะทะกันมากขึ้น
ขณะที่เว็บไซต์ขององค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน “ฮิวแมนไรท์วอทช์” สำนักงานใหญ่ประจำนครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลไทยควรตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นโดยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของผู้ประท้วงกลุ่มเสื้อแดง หรือการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ประท้วงรัฐบาลไทย 2 ชุดก่อนเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนนายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำภูมิภาคเอเชีย ระบุการประท้วงสิ้นสุดลงแล้ว จึงถึงเวลาที่รัฐบาลไทยกับแกนนำผู้ประท้วงต้องเจรจากันเพื่อหาข้อตกลงต่อสาธารณชน และต้องให้ความมั่นใจว่าจะจัดการแก้ไขปัญหาความรุนแรงโดยสืบสวนสอบสวนและกำหนดบทลงโทษอย่างเหมาะสมเป็นธรรม เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงจนไม่อาจทำลืมหรือเพิกเฉยไปได้โดยง่าย
นายอดัมกล่าวเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่รักษากฏหมายของไทย รวมถึงกองกำลังทหารแสดงให้เห็นถึงความอดทนอดกลั้นต่อแรงยั่วยุจากกลุ่มผู้ประท้วงตามคำสั่งที่ให้เลี่ยงใช้อาวุธร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ผลสรุปเบื้องต้นของฮิวแมนไรท์วอทช์กลับพบว่า บางครั้งทหารก็ใช้กระสุนจริงเพื่อสลายการชุมนุมทั้งที่ไม่มีความจำเป็น จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยสืบสวนต่อไปว่าใครเป็นผู้สั่งให้ยิงกระสุนจริงและสั่งให้ยิงภายใต้สถานการณ์ใด พร้อมกันนี้ ฮิวแมนไรท์วอทช์ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย.