ที่มา ไทยรัฐ
นับตั้งแต่รัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 ต่อด้วยม็อบพันธมิตรฯยึดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ มาถึงคิวม็อบเสื้อแดงบุกโรงแรมล้มโต๊ะงานประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาเซียน
ถึงนาทีนี้ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในเมืองไทย
ยับเยินจนมันไม่เหลือคำว่า “เสียหาย” ให้พูดถึง
ฉะนั้น มันคงไม่มีความหมาย ไม่มีน้ำหนักอะไร กับประโยคเข้มๆของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี “บนความเสียหายของประเทศชาติ ไม่ว่าใครประกาศชัยชนะ ผมถือว่ากลุ่มคนนั้น เป็นศัตรูของประเทศไทย”
แค่ลีลา พูดจาได้น่าฟังเหมือนเดิม
แต่โดยสัญญาณที่นายกฯอภิสิทธิ์ ก็น่าจะหนาวๆร้อนๆมาตั้งแต่ขบวนรถ “สร.1” ติดไฟแดง กลางเมืองพัทยา เปิดช่องให้ม็อบคนเสื้อแดงล้อมกรอบนายกฯอภิสิทธิ์ เกือบโดนรุมสกรัมคาสี่แยก ตำรวจถูกคนของพรรคประชาธิปัตย์สงสัยใน “พฤติกรรมแฝง”
เป็นใจให้คนเสื้อแดง “ตบหน้า” นายกฯ
มาถึงรายการที่ม็อบ นปช.บุกเข้าถึงโรงแรม ล้มโต๊ะการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ล้อมกรอบ นายกฯอภิสิทธิ์ ผู้นำต่างประเทศต้องหนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ลงเรือเร็ว กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง ท่ามกลางการอารักขาแบบหลวมๆของทหารตั้งแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่ง
ท่าทางกั๊กๆ แหยงๆ
ตำรวจใส่เกียร์ว่าง ทหารลุยไม่เต็มสูบ
ไปๆมาๆสถานการณ์ก็ไหลกลับซ้ำร้อยยุคของอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช และสมัยของอดีตนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์มีอำนาจ แต่บริหารไม่ได้
หนีม็อบหัวซุกหัวซุน
หมดราศีของผู้นำประเทศไทย
และในความเหมือนที่แทบไม่แตกต่าง ในยุคของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร มาถึงคิวอดีตนายกฯสมัคร และสมัยของอดีตนายกฯสมชาย ที่ต้องผจญกับม็อบเสื้อเหลือง ก็เป็นผู้กำกับฉากที่ชื่อ “เนวิน ชิดชอบ” ที่ปรากฏชื่ออยู่เบื้องหลังกำกับฉากบู๊ “ม็อบชนม็อบ”
ปั่นเกมเลือดแลกเลือด โหมไฟม็อบ
มาถึงคิวของนายกฯอภิสิทธิ์ ก็เป็นผู้กำกับที่ชื่อ “เนวิน” คนเดิม ที่ถูกแฉว่าอยู่เบื้องหลังการจัดตั้งม็อบเสื้อน้ำเงินมาชนกับม็อบเสื้อแดง ยั่วจนสถานการณ์เดือด
ล่าสุดตำรวจบุกรวบตัวนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำม็อบเสื้อแดงที่บุกเวทีประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนจนต้องล่มกลางคัน
ส่งผลให้สถานการณ์ม็อบเสื้อแดงบานปลาย จนนายกฯอภิสิทธิ์ ต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ใช้กำลังทหารเคลื่อนรถถังออกมารักษาความสงบ
ประกาศปฏิบัติการแตกหักกับ “ม็อบเสื้อแดง”
สถานการณ์จะไหลไปถึงจุดไหน ต้องลุ้นระทึก
และก็เป็นอะไรที่ได้ทีบี้ตามเกม โดยอาการของ “บิ๊กเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่จับสัญญาณผ่านจากนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวฯ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมาจี้ให้แก้รัฐธรรมนูญ
เคลียร์โทษดองเค็มให้กับกลุ่ม 220 นักเลือกตั้ง ที่ไม่มีความผิด
“บรรหาร” ดึงเกมเข้าสภาฯ บี้ให้แกนนำอย่างพรรคประชาธิปัตย์ แก้รัฐธรรมนูญปลดล็อกนักเลือกตั้งอาชีพ แทนที่จะดึงเกมปฏิรูปการเมืองยื้อเวลาหายใจ ในขณะที่ม็อบเสื้อแดงบุกไปกดดันหน้าบ้านจรัญสนิทวงศ์ ให้พรรคชาติไทยพัฒนาถอนตัว
เร่งปฏิกิริยาให้รีบตัดสินใจ
แต่ที่แน่ๆ ในสถานการณ์เมืองไทย หนึ่งประเทศ 2 สี ไม่มีทางที่นายกฯอภิสิทธิ์จะลากเกมยื้ออยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป
ต้องไต่บันไดลงทางใดทางหนึ่ง
ภายใต้เงื่อนไขบังคับ อำมาตย์ ทหาร พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีทางปล่อยให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะรู้อยู่ว่าลงสนามวันนี้โดยกระแสคนเสื้อแดงในภาคอีสานกับภาคเหนือ ยังไงพรรคเพื่อไทยก็เข้าวิน
ยากที่จะปล่อยให้อำนาจรัฐกลับไปอยู่ในมือของ “ทักษิณ”.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน