ที่มา บางกอกทูเดย์
ยังร่ายยาวกันต่อไป..มหากาพย์แห่งวิกฤติการณ์..การต่อสู้ระหว่างแสนยานุภาพกับจิตใจ..ที่ไร้วันจบสิ้นมาลองดูกันใหม่..ถ้ายอมรับรายจ่ายในงบประมาณแผ่นดิน ว่าค่าใช้จ่ายที่ใช้ไปในแต่ละวันในแต่ละปีนั้น..เป็นค่าใช้จ่ายในสงคราม..และธงชาติคลุมศพนั้น..ยืนยันว่ามันคือสงครามปัตตานี 12 อำเภอ นราธิวาส 13 อำเภอและยะลา 8 อำเภอ..ใน 33 อำเภอของ 3 จังหวัดนั้น..มี 1 กองพันของทหารไทยเข้าไปคุ้มครองให้ความปลอดภัยกับประชาชน..อำเภอละ 1 กองพัน..ให้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกับผู้บังคับกองพันในการทำสงครามและเข้าถึงมวลชน33 กองพันกับกองกำลังทหารอาสาสมัครของเขา..จะทำให้ประชาชนในอำเภอนั้นอบอุ่นขึ้นมาได้หรือไม่..จะทำให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยขึ้นมาได้หรือไม่..
เมื่อแต่ละอำเภอได้รับการดูแล..เครือข่ายของผู้ไม่ประสงค์ดีจะเผยแพร่อิทธิพลได้หรือไม่..โยงใยที่แยบยลจะถูกจำกัดลงหรือไม่..ทหารอาสาสมัครที่รับเข้ามาจากลูกหลานชาวบ้าน..จะนำความอบอุ่นจากกองทัพกลับไปสู่บ้านเขาได้หรือไม่..ที่ต้องถามวันนี้..เราใช้กองทัพใหญ่เกินไปหรือไม่ในสงครามที่ต้องใช้หัวใจและการเข้าถึงเป็นอาวุธ..และจะดีกว่าหรือไม่..ถ้าเราจะทำให้กองทัพนั้นเล็กลง แต่เพิ่มความรับผิดชอบให้มากขึ้นทหารหนุ่มที่ผ่านการคัดเลือกเข้าไปทำหน้าที่มีอนาคตที่จะต้องรักษา..มีอุดมการณ์ที่ยังไม่แกะกล่อง..จะยุติเหตุร้ายในพื้นที่ได้อย่างไร..1 ใน33 ของผู้โดดเด่นในการบังคับบัญชา..จะเป็นยอดทหารของกองทัพในอนาคตข้างหน้าทั้งบู๊ทั้งบุ๋นประเทศมีทหารหนุ่มมากมายที่กระหายจะแสดงฝีมือ..แต่เรากลับใช้ทหารชราเข้าไปรบในสงครามที่ยืดเยื้อและเรื้อรังกองทัพใช้กำลังพลที่แก่เกินไปในการทำหน้าที่บังคับบัญชา และใช้กำลังพลที่อ่อนเกินไปในสงครามที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญคนที่เหลืออีก 2 ปี จะเกษียณอายุราชการกับคนที่ถูกเกณฑ์มาเป็นพลทหารแค่ปี..นั่นใช่หรือไม่..กองทัพไทยในสงครามใต้หมดไปแล้ว 100,000 ล้าน..สงครามมีแต่ใหญ่ขึ้น..เราจะใช้ 1 ล้านล้าน เพื่ออะไร..สงครามเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์..และทั้งศาสตร์และศิลป์มันเปลี่ยนแปลงไปทุกวี่ทุกวัน..เราจะเอาชนะสงครามในยุค 3 จี..ได้อย่างไร..จากการศึกษาการรบในใบข่อย..ที่ถอยหลังไปหลายร้อยปี..ในตำราที่นโปเลียนและฮันนิบาลยังมีชีวิตอยู่ ■