WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, June 19, 2009

สะเปะสะปะ

ที่มา ไทยรัฐ

ไม่รู้ว่าพลาดหรือคิดอย่างนั้นจริงๆ กับกรณีที่ นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาพูดในรายการวิทยุว่า การกู้หนี้ยืมสินของรัฐบาลนั้น ประชาชนไม่ต้องใช้หนี้ แต่รัฐบาลจะเป็นผู้ใช้หนี้เอง

ประชาชนไม่ได้กินแกลบกินรำ

ผมคงไม่ต้องอธิบายซ้ำเติมอะไรมาก แต่เกรงว่าจะกระทบต่อ วุฒิผู้นำและวิสัยทัศน์ ของท่านนายกฯ อย่างที่ผมเคยเกริ่นเอาไว้บ้างแล้วว่า การเมืองยุคนี้คิดจะเป็นนายกฯไม่ใช่เรื่องยาก ขอให้มีเส้นมีทุนทหารหนุนก็พอ แต่การจะเป็นผู้นำประเทศเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา

ด้วยมาตรฐานคนเป็นผู้นำที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำเอาไว้ ทำให้ประชาชนหูตาสว่างขึ้นเยอะ เอาเถอะ เรื่องอย่างนี้พิสูจน์ได้ไม่ยาก ดังจะนำข้อมูลด้านเศรษฐกิจจากคณะเศรษฐศาสตร์ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูปมหาวิทยาลัยรังสิตโดย ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ มาเสนอ

"จากกรณีที่เศรษฐกิจโลกติดลบเกือบร้อยละ 2 ชี้เศรษฐกิจไทยจะเจอกับภาวะเงินฝืด เข้าสู่เศรษฐกิจถดถอยหรือ Technical Recession แล้วตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 คาดว่าคนตกงานสูงกว่าตัวเลขประมาณการของทางการอย่างมาก จะว่างงานไม่ต่ำกว่า 1.4 ล้านคน

คาดว่าเศรษฐกิจจะกระเตื้องในไตรมาส 4 แต่ก็จะเจอกับปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นอุปสรรคในการฟื้นตัว การแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมจะทำให้เกิดวิกฤติทางการเมืองรอบใหม่

ราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในระดับ 60-90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อัตราดอกเบี้ยจะทรงตัวในระดับต่ำ แต่ต้นทุนการกู้ยืมเงินจะสูงขึ้นจากเงินเฟ้อที่ติดลบและอาจจะเกิดสภาวะกับดักสภาพคล่อง

ทางการควรเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทที่แข็งค่าเนื่องจากดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่อง ดัชนีหลักทรัพย์มีโอกาสทดสอบระดับ 680-700 จุด และจะมีการปรับตัวครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี

ประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย อาทิ สหรัฐฯการขยายตัวติดลบร้อยละ 3.5 ยุโรปติดลบร้อยละ 3.3 ญี่ปุ่นติดลบมากหน่อยร้อยละ 5.8 ส่วนในเอเชีย อัตราการเจริญเติบโตในจีนกลับเป็นบวกร้อยละ 7 อินเดียบวกร้อยละ 6 โดยรวมเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นในรูปตัว V ตกจนถึงจุดต่ำสุดก็จะขึ้นมาทันที

ส่วนเศรษฐกิจบ้านเราน่าจะติดลบทั้งปีระหว่างร้อยละ 2.5-3.5 ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจก็คือการบริโภคและการลงทุน ทั้งปีจะติดลบมากกว่าร้อยละ 17.5 อัตราการขยายตัวของภาคส่งออกในปีนี้จะติดลบที่ร้อยละ 18.5 ซึ่งต่างจากเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ ค่อนข้างมาก"

ข้อมูลเหล่านี้น่าจะเป็นคำตอบให้รัฐบาลได้คิดว่าควรจะวางยุทธศาสตร์ด้านการค้ากับประเทศใดแค่ไหน ที่ไปกู้ไปยืมมาแล้วหวังว่าเอาเงินภาษีที่คิดว่าจะเก็บได้มากขึ้นไปใช้หนี้เป็นไปได้หรือไม่ แล้วที่ชาวรากหญ้าตกงานว่างงานจะทำอย่างไร เอะอะก็จะแจกเช็คท่าเดียว สะเปะสะปะ เหมือนเด็กเล่นขายของ ใช่ไม่ใช่.

"หมัดเหล็ก"