ที่มา บางกอกทูเดย์
ลุ้นระทึก...ศึกเลือกตั้งซ่อมสกลนคร-ศรีสะเกษ ที่แม้จะมีแค่ 2 ที่นั่ง...แต่ทว่า กลับเป็นตัวชี้ขาด“อำนาจบารมี” ระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” กับ “พรรคภูมิใจไทย”ใครล่ะ? จะสามารถเข้าไปจับจองครองใจคนอีสานบ้านเฮา…หาก “พรรคเพื่อไทย” เจ้าถิ่น “ชนะ”...นั่นก็หมายความว่า“สมาคมคนรักทักษิณ” ยังคงเหนียวแน่น…อนาคต “พรรคเพื่อไทย” ก็ยังคงดำรงอยู่ต่อไปหาก “พรรคภูมิใจไทย” ผู้ท้าชิง “ชนะ”...นั่นก็หมายความว่า “กราฟแรงศรัทธาดำดิ่ง” และย่อมแสดงให้เห็นถึงอนาคตข้างหน้าของ “พรรคเพื่อไทย”อาจจะ “ริบหรี่” ดับแสง...และแสงใหม่ที่จะเจิดจ้าแทนที่ก็คือ “พรรคภูมิใจไทย”ที่แม้จะเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2551 โดยมีจุดประสงค์เพียงเพื่อรองรับการ “ยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย”และอายุอานามก็แค่ 6 เดือนเพียงเท่านั้นต้องบอกว่าใหม่สดซิงๆ จริงๆ…ทั้งยังไม่มีใครคาดคิดว่า จะสามารถแผ่ขยายกิ่งก้านไพศาลรวดเร็ว จนเมื่อ...“กลุ่มเพื่อนเนวิน” ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2552 “พรรคภูมิใจไทย” จึงถูกจับตาในทันที...เนื่องเพราะมี “นายเนวิน ชิดชอบ” คนสนิทแนบ“พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” เป็นแกนนำ “พรรคภูมิใจไทย”จึงได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะมี ส.ส.ในคาถา ถึง 32 คนฉะนั้น มิว่าพรรคน้อย พรรคใหญ่ ย่อมหวั่นเกรง...หวั่นเกรงการเติบใหญ่ของ “พรรคภูมิใจไทย” ในอนาคต...ที่บัดนี้กำลัง “สำแดงเดช” ผูกมัดใจ ส.ส.ต่างพรรค และชาวรากหญ้าอย่างขะมักเขม้นดังจะเห็นได้จาก “เรียลลิตี้โชว์” ที่บรรจงสร้าง...บรรจงสร้างขึ้นที่ “พรรณานิคม” ถิ่นนายเก่า ด้วยการเฮโลขนเหล่าแกนนำและสมาชิกของพรรคลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างใกล้ชิดใกล้ชิดขนาดไหน คงได้เห็นกันจะจะตาแล้ว...
แถมยังนำนโยบายประชานิยมสังคมเป็นสุขมาเรียกคะแนนนิยม ด้วยการประเดิม 2 นโยบายหลัก กล่าวคือนโยบาย “1 อบต. 1 ธนาคารข้าว 1 โรงสี” ที่มุ่งแก้ไขปัญหาจากรากเหง้าของปัญหา ด้วยการสร้าง “ธนาคารข้าว”เป็นระบบการจัดเก็บข้าวของชาวนาและมีการสร้าง “โรงสี” เพื่อการแปรรูปข้าว เพื่อให้ชาวนาสามารถกำหนดราคาในการขายข้าวเปลือกและข้าวสารของตนเองได้อย่างเป็นระบบโดยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เป็นผู้บริหารโครงการอย่างเป็นระบบ ถือว่าคนท้องถิ่นตัวแทนของชาวบ้านเป็นผู้ให้บริการชาวนา และสอดคล้องกับการกระจายอำนาจการปกครองท้องถิ่นและนโยบาย “โฉนดคาร์บอนเครดิต” ขายอากาศที่ดีให้แก่ภาคอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งเป็นนโยบายในการออกโฉนดคาร์บอนเครดิต เพื่อเป็นเอกสารสิทธิแก่ประชาชนเจ้าของป่าเศรษฐกิจ จะทำให้เกิดการซื้อขายคาร์บอนเครดิตตามมาตรฐานสากลที่ดำเนินการอยู่โดยประชาชนจะเป็นผู้รักษาป่าและได้รับประโยชน์จากการดูแลป่าตามแนวทางสากลเหล่านี้ คือ รายละเอียดที่ถูกเขียนไว้...ในขณะที่พรรคเพื่อไทยยังคงคอนเซ็ปต์เดิม คือ นำทักษิณกลับบ้านมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ช่วยเหลือคนจนแล้วอะไรล่ะที่จะโดนใจรากหญ้ามากกว่ากัน... ■