ที่มา ประชาไท
วันนี้ (17 มิ.ย. 52 ) เวลา 10.00 น. ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีประมาณ 40 คน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาม่วง และตำบลห้วยสามพาด ในพื้นที่โครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ร้องให้ชี้แจงการไปดูงาน การทำเหมืองแร่โปแตชที่ประเทศเยอรมัน พร้อมทั้งแนบประเด็นคำถามเรื่องความรู้ที่ได้จากการไปดูงานดังกล่าวจากชาวบ้าน นักวิชาการ และนักพัฒนาเอกชน ให้นายก อบต.ทั้งสองตอบข้อข้องใจดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และคณะ ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดอุดรธานี จำนวน 38 คน ไปดูงานการทำเหมืองแร่โปแตช ที่ประเทศเยอรมัน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้ทำการยื่นหนังสือเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากผู้ว่าฯ ขอให้เปิดเผยรายชื่อคณะผู้ดูงาน และนำเสนอผลการดูงานมาก่อนหน้านี้ (10 มิ.ย. 52) แต่ยังไม่มีการชี้แจงที่ชัดเจน จึงได้มายื่นคำถามต่อนายก อบต.ทั้ง 2 ตำบล ในฐานะตัวแทนของท้องถิ่นที่ได้ร่วมไปในคณะดูงานครั้งนั้นด้วย
เวลาประมาณ 10.00 น. ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือ และชุดคำถาม ณ ที่ทำการ อบต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี แต่ไม่พบนายก อบต.มีเพียง ร.ต.สมชัย จันทร์ศรี ปลัด อบต.ออกมารับหนังสือ และกล่าวตอบเพียงสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงและท่าทีอึดอัด
“ตนได้ไปศึกษาดูงานการทำเหมืองที่ประเทศเยอรมันมาจริง กับคณะของผู้ว่าฯ แต่ที่ไปนั้นมันมีคำสั่งมาจากข้างบน ถ้าจะให้ตอบว่า ทำเหมืองมีผลกระทบ ข้อดีข้อเสียอย่างไร ตนไม่สามารถพูดได้ เพราะเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ซึ่งหากว่าผู้ใหญ่สั่งมาอย่างไรตนต้องปฏิบัติตาม ฉะนั้นต้องให้ผู้ใหญ่เป็นผู้มาพูด” ว่าที่ร.ต.สมชัยกล่าว
หลังจากนั้นเวลา 13.00 น. กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้เดินทางต่อไปยัง ที่ทำการ อบต.ห้วยสามพาด โดยได้พบและยื่นหนังสือกับ นายประจักษ์ อุดชาชน นายก อบต.ห้วยสามพาด ที่ออกมาให้การต้อนรับและรับหนังสือด้วยตัวเองพร้อมชี้แจงว่าได้ไปดูงานมาจริงและโดยไปดูมา 2 เหมืองแต่จำชื่อไม่ได้ มีทั้งเหมืองที่ดำเนินการอยู่ และเหมืองที่ถูกปิดไปแล้ว แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดไม่ได้เพราะไปดูแค่ผิวเผิน และไม่ได้เข้าไปดูในเขตเหมืองหรือโรงงานอะไร
“ผมไปดูเหมืองมาจริงๆ โดยใช้งบประมาณของราชการไป แต่ถ้าจะให้พูดถึงว่าการทำเหมืองนั้นมันดีหรือไม่ดี ผมตอบไม่ได้เพราะว่าไม่ได้ไปเห็นในส่วนที่มันเกิดผลกระทบ และเขาก็นำเสนอแต่ด้านดี ด้านที่ไม่ดีเขาก็ไม่พาไปดู และคำถามทั้งหมดที่พี่น้องนำมา ผมจะตอบเป็นลายลักษณ์อักษร และยืนยันว่าในเรื่องการทำเหมืองในพื้นที่บ้านเรานั้นผมก็เป็นคนหนึ่งที่รักหวงแหนแผนดินบ้านเรา แต่ในตำแหน่งหน้าที่แล้วผมก็จะขอวางตัวเป็นกลาง” นายประจักษ์กล่าว
ด้านนางมณี บุญรอด รองประธานกลุ่มอนุรักษ์ฯ กล่าวว่า “เป็นที่น่าแปลกใจที่ข้าราชการที่ไปดูเหมืองเหมืองที่เยอรมันมาตั้งแต่นายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.อุดรฯ ก็ตอบไม่ได้ว่าไปดูที่ไหน เอาเงินจากไหนไป หมดไปเท่าไหร่ หรือมีรายชื่อใครไปบ้างก็ไม่ตอบ ยิ่งทำให้เกิดความสงสัยว่าการไปดูงานในครั้งนี้ที่ใช้งบมหาศาลเอาเงินราชการส่วนไหน ทำไมต้องไปเยอรมัน แล้วไปดูที่ไหนบ้าง มีใครไปบ้าง ไปแล้วมา มีความเข้าใจต่อการทำเหมืองมากน้อยเพียงไร ก็ไม่มีคำตอบ ไม่มีใครกล้าตอบ บอกเพียงว่ารับคำสั่งให้ไป แค่เอางบภาษีของประชาชนไปล้างผลาญโดยไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา โดยใบสั่งจากไอ้โม่งที่มีอำนาจอนุมัติงบราชการไปดูเหมืองแต่เลือกดูแต่ด้านดีๆ ”