ที่มา ไทยรัฐ
ประชุมสภาผู้แทนฯ ถกพรก.กู้ 4 แสนล้าน ใช้เวลากว่า 13 ชม. สิ้นสุดลงเมื่อเวลา 24.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. รัฐชนะขาด 248 ต่อ 128 เสียง "มิ่งขวัญ"แนะรัฐออกพันธบัตร แทนกู้ธนาคารเอกชน หวั่นถูกครหา นายกฯยันใช้หนี้ได้...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรอภิปราย ร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ในวงเงิน 400,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. สิ้นสุดเมื่อเวลา 24.00 น. หลังประชุมนานกว่า 13 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้อนุมัติ พ.ร.ก. กู้เงินดังกล่าว โดยมีมติเห็นชอบ 248 เสียง ไม่เห็นชอบ 128 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 17 เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 396 เสียง
ก่อนหน้านี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอภิปราย ว่า นโยบายการกู้เงินของรัฐบาลอทำให้ฝ่ายค้านไม่มั่นใจว่าการกู้เงินจะช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นจริงหรือไม่ เพราะเมื่อดู 6 เดือน พบว่ารัฐบาลบริหารงานเศรษฐกิจผิดพลาด จากกรณีเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท ที่ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง และงบกลางปี 1.1 แสนล้านบาทที่ให้กับ 3 กระทรวง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้งบประมาณรวมกันแค่หลักพันล้านบาท ทั้งที่เป็นกระทรวงเส้นเลือดใหญ่นำรายได้มหาศาล จึงเสนอแนะนำให้รัฐบาลกู้เงินโดยการออกพันธบัตรให้ประชาชนซื้อโดยตรงแทนการ กู้เงินจากสถาบันการเงินเอกชนเพราะอาจถูกครหาช่วยเหลือนายทุนพรรคร่วมรัฐบาลได้
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พร้อมรับข้อท้วงติงของฝ่ายค้านนำไปแก้ไข ส่วนกรณีนำนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมามาดำเนินการเพราะเป็นไปตามนโยบายการสร้างสมานฉันท์ และไม่ต้องการรื้อโครงการในกระทรวงเศรษฐกิจให้เกิดความวุ่นวาย ยืนยันว่ารัฐบาลได้พิจารณาถึงร่าง พ.ร.ก. ดังกล่าวอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว โดยเห็นว่าทุกโครงการที่ได้เสนอและบรรจุใน พ.ร. ก.มีความคุ้มค่าและเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ มั่นใจว่าจะสามารถดูแลและจัดการชำระหนี้สาธารณะที่ก่อขึ้นได้ภายในระยะเวลา ที่กำหนด