ที่มา บางกอกทูเดย์
ผมพูดภาษาไทยเป็นมาตั้งแต่เกิด และดูเหมือนจะเป็นภาษาเดียวที่ผมคิดว่าผมฟังรู้เรื่องมากที่สุดแต่มาวันนี้ผมชักลังเล!!ลังเลว่า...ผมอาจไม่เข้าใจภาษาไทยอย่างจริงจังหรือ พอจะมั่นใจว่าผมฟังภาษาไทยรู้เรื่องพูดภาษาไทยได้หรือแม้กระทั่งเขียนหนังสือไทยเป็น??คนที่ทำให้ผมสูญเสียความมั่นใจตัวเองในเรื่อง“ภาษาไทย” ไม่ใช่ใครที่ไหน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรียอดนักกู้แห่งประเทศไทยนี่เองอภิสิทธิ์ใช้สมองส่วนไหนคิดผมไม่ทราบกับการออกมายืนยันว่าการกู้เงินเกือบจะล้านล้านแล้วนั้น ไม่ใช่การ “สร้างหนี้”!!แต่เป็นการกู้เงินมาลงทุน!!หัวใจมาร์คทำด้วยอะไร?? ถึงพูดออกมาได้เต็มปากคุยโวโดยไม่อายผีสาง นี่เป็นการเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ประเทศ แถมเชื่อว่าจะกระตุ้น
เศรษฐกิจ-สร้างงานได้ถึง 2 ล้านคนผมก็เหมือน คุณเสนาะ เทียนทอง เหมือนคนไทยอีก 60 กว่าล้านที่กังวลใจว่า แล้วจะไปหาเงินที่ไหนมาใช้คืน??เมื่อวันแรกๆ ที่อภิสิทธิ์แต่งตั้ง กรณ์ จาติกวณิชเข้ามาเป็น “ขุนคลัง” ทุกคนก็ห่วงว่ารัฐมนตรีคลังคนนี้จะเอาประสบการณ์ที่ไหนในการบริหารจัดการการเงินมาบริหารประเทศ ในภาวะที่โลกกำลังมีปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโดยเฉพาะประเทศเศรษฐีอย่างสหรัฐอเมริกาแต่...ทุกคนผิดคาด!! เมื่อรัฐมนตรีกรณ์เพื่อนเกลออภิสิทธิ์ กลับเป็นรัฐมนตรีคลังที่หาเงินได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ารัฐมนตรีคลังทุกคนที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์คือ เดินหน้ากู้มาอย่างเดียวกู้ทุกอย่างที่ขวางหน้า กู้ไม่ได้เพราะ “เพดานการกู้” มันเต็ม ก็ออกกฎหมายมาเป็นเครื่องมือในการกู้เงินมันเหมือนข่มขืนหรือมัดมือชก!!เมื่อวานนี้ รัฐบาลได้ขอความร่วมมือจากสมาชิกสภาช่วยผ่าน กฎหมาย 3 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2553 ร่าง พ.ร.ก. และร่าง พ.ร.บ.ขออำนาจให้รัฐบาลกู้เงินนายกรัฐมนตรีที่ชื่ออภิสิทธิ์คิดได้อย่างไร ที่กล้าหาญชาญชัยออกมาพูดกับคนไทยเจ้าของประเทศด้วยถ้อยคำที่ “ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครในโลกคิดจะพูด” กับคำว่า“รัฐบาลก่อนเน้นแต่เอาเงินไปให้กู้ แต่เรื่องโครงสร้างพื้นฐานถูกละเลย!!”ผมลังเลครับ!! ภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาเดียวที่ผมพูดได้ ตอนนี้ชักไม่มั่นใจว่าผมรู้เรื่องภาษาไทยจริง โดยเฉพาะภาษาไทยแบบอภิสิทธิ์!! ■