ที่มา MCOT News
กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – กกต.กลางถกเลือกตั้งซ่อม เขต 3 สกลนคร เผยเหตุสถานีตำรวจไม่กล้าเก็บรักษาหีบบัตร เพราะมีคำสั่งจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดห้ามไว้ เตรียมทำหนังสือร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้พิจารณาโทษ ขณะเดียวกันเตรียมทำหนังสือถึงนายกฯ กำชับทุกหน่วยงานร่วมมือกับ กกต. พร้อมยอมรับ มีการขนคนลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าจริง มีภาพเป็นหลักฐาน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงภายหลังการประชุม กกต.วันนี้ (16 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายงานผลการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ส.ส.เขต 3 สกลนคร โดยได้รับรายงานถึงเหตุที่กรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง (กต.เขต) ต้องใช้รถขังผู้ต้องหาในการเก็บรักษาหีบบัตรแทนสถานีตำรวจ เนื่องจาก พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร มีหนังสืออย่างกะทันหัน ลงวันที่ 12 มิถุนายน แจ้งไปยังสถานีตำรวจภูธรทั้ง 5 แห่งในเขตเลือกตั้งว่า หากได้รับการประสานจาก กกต. กรณีขอความร่วมมือให้เก็บหีบบัตรไว้ที่สถานีตำรวจ ให้ผู้กำกับสถานีแจ้งกับเจ้าหน้าที่ กกต.ว่า มีเหตุขัดข้อง ไม่สามารถใช้สถานที่เพื่อเก็บรักษาหีบบัตรได้
“ตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหีบบัตร ก็มีหนังสือถึง กต.เขต อย่างกะทันหัน วันที่ 13 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าว่า ขอลาออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่รักษาหีบบัตร เนื่องจากมีหน้าที่ต้องปฎิบัติงานนอกหน่วย อีกทั้งสถานีตำรวจก็ไม่รับรักษาหีบบัตร หากยังได้รับการแต่งตั้ง ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ทำให้ กต.เขต แก้ปัญหาด้วยการมีคำสั่งยกเลิกการเก็บรักษาหีบบัตร และมีคำสั่งใหม่เกี่ยวกับการควบคุมดูแลการรักษาหีบบัตร โดยใช้รถควบคุมผู้ต้องหา และนำไปจอดไว้ที่หน้าที่ว่าการอำเภอแทน จัดเจ้าหน้าที่ดูแลแบ่งเป็น 3 ผลัด ๆ ละ 5 คน มีตัวแทนของพรรคการเมืองพรรคละ 2 คนต่อผลัด เฝ้าสังเกตการณ์” นายสุทธิพล กล่าว
นายสุทธิพล กล่าวว่า กกต.จึงมีมติทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการกรณีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ปฎิเสธการรักษาหีบบัตร และการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอลาออก จากการเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหีบบัตรอย่างกะทันหัน เพื่อให้ดำเนินการ และประธาน กกต.จะมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอให้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับ กกต.ในการจัดการเลือกตั้งวันที่ 21 มิถุนายนนี้ รวมทั้งกำชับให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่จะมีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจใช่หรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า หน่วยราชการจะดำเนินการเอง ถ้ามีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดวินัยต่างๆ เพราะโดยปกติแล้ว กกต.ไม่มีสิทธิไปลงโทษ แม้ตามกฎหมายจะกำหนดให้หน่วยงานร่วมมือกับ กกต. แต่ครั้งนี้ เราไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจน และเป็นการมีหนังสือแจ้งอย่างกะทันหัน อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าจากการประสานงาน คงจะไม่ทำให้ปัญหาในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในวันเลือกตั้ง
นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ชุดปฎิบัติการป้องปรามการทุจริตเลือกตั้งของส่วนกลาง มี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต. ด้านสืบสวนฯ เป็นหัวหน้าชุด ได้รายงานให้ที่ประชุม กกต.รับทราบว่า ในการเลือกตั้งล่วงหน้า มีการใช้รถกะบะจำนวน 6 คัน ซึ่งไม่ใช่รถของส่วนราชการ หรือรถรับจ้างสาธารณะ ขนคนครั้งละ 9 - 10 คน ไปยังสถานที่เลือกตั้งกลางเกินกว่า 1 รอบ มีภาพถ่ายรถคันดังกล่าวและเลขทะเบียนรถอย่างชัดเจน ถือว่าการกระทำดังกล่าวจงใจฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ฯ มาตรา 55 ประกอบมาตรา 145 กกต.จึงมีมติให้ส่งข้อมูลให้ กกต.จังหวัดไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตาม ในรายงานไม่ได้มีการระบุชื่อของผู้กระทำผิด หรือความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง หรือสมัคร ส.ส.
เลขาธิการ กกต. กล่าวต่อว่า กกต.ยังจะมีหนังสือไปถึง กกต.จังหวัดให้ปฎิบัติตามกฎกติการอย่างเคร่งครัด และในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ จะมีการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับ กกต.จังหวัด กต.เขต เพื่อรับฟังสถานการณ์และกำชับให้เร่งรัดเรื่องการส่งสำนวนสืบสวนมายัง กกต.กลางโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการรายงานถึงความผิดปกติของการขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ นายสุทธิพล กล่าวว่า ยังไม่มี แต่มีการระบุว่ามีผู้มาขอใช้สิทธิจำนวนมาก ซึ่งทางกรรมการประจำหน่วย จะตรวจสอบการกรอกแบบฟอร์มใบแสดงเจตจำนงการขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งกรณีที่มีผู้ถือใบขอแสดงการใช้สิทธิมาจากบ้าน ไม่อาจถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะแบบฟอร์มดังกล่าวสามารถโหลดจากเว็บไซต์ของ กกต.ได้ อีกทั้ง ในวันแรกที่มีผู้มาใช้สิทธิจำนวนมาก เมื่อกรอกใบขอใช้สิทธิในเบื้องต้น แล้วเห็นว่าต้องรออีกนาน จึงนำใบดังกล่าวกลับบ้าน และนำกลับมาขอใช้สิทธิในอีกวันหนึ่ง จึงไม่ถือว่าน่าจะผิด เพราะจะต้องมีการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ก่อน อย่างไรก็ตาม กกต.ได้ให้สำนักงานไปศึกษาว่า หากมีการแก้ไขกฎหมาย จะเสนอให้มีการแก้ในส่วนของการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัด ว่า จะต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้า เช่นเดียวกับการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดได้หรือไม่.- สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-06-16 18:38:16