ที่มา ประชาไท
แม้จะเคยบรรยายภาพพลาด แต่ภาพอดีตการ์ดพันธมิตรฯ จิกหัวสาวเสื้อแดงช่วงปราบปรามวันสงกรานต์จากไทยรัฐ ก็ได้รางวัลภาพยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย นายกสมาคมเผยได้รางวัลเพราะภาพได้อารมณ์ไม่ต้องบรรยาย กรรมการเทคะแนนเอกฉันท์ ด้าน ‘มาร์ค’ เตรียมเป็นประธานงานมอบรางวัล 18 มิ.ย.
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 15 มิถุนายน 2552 หน้าหนึ่ง คำบรรยายภาพเขียนว่า “ภาพยอดเยี่ยม นายวิชัย วลาพล นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนฯ ชี้ให้ดูภาพข่าวชื่อ “ทนไม่ไหว” ฝีมือถ่ายของนายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม นสพ.ไทยรัฐ ที่ได้รับรางวัลภาพข่าวยอดเยี่ยมแห่งปี
ภาพหนุ่มเสื้อเหลืองจิกหัวสาวเสื้อแดงลากพื้นได้รางวัลภาพยอดเยี่ยมแห่งปี
ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 14 มิ.ย. และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 15 มิ.ย. พาดหัวข่าว “ไทยรัฐคว้า ภาพยอดเยี่ยม” โดยมีเนื้อหาเป็นการรายงานข่าวสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ประกาศผลการตัดสินรางวัลภาพข่าวสื่อมวลชนยอดเยี่ยม ครั้งที่ 13 ประจำปี 2551-2552 ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว เมื่อ 14 มิ.ย.
โดยปีนี้มีผู้ส่งภาพเข้าประกวด 600 ภาพ และภาพข่าวทีวี 46 เรื่อง แบ่งออกเป็น 35 รางวัล รวมมูลค่าประมาณ 7 แสนบาท ซึ่งผลการตัดสินปรากฏว่า ภาพข่าวยอดเยี่ยมในปีนี้ได้แก่ภาพชื่อ 'ทนไม่ไหว' เป็นภาพเหตุการณ์วันที่ 13 เม.ย. เป็นภาพผู้หญิงเสื้อแดงชื่อ น.ส.มินตรา โสรส ถูกนายกวีไกร โชคพัฒนาเกษมสุข อดีตการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตรงเข้าไปดึงผมจนล้ม หลังบุกเข้ามาด่าทหารที่เข้าสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่บริเวณถนนราชปรารภ ฝีมือลั่นชัตเตอร์โดยนายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าวอาชญากรรม น.ส.พ.ไทยรัฐ ได้รับถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล 1 แสนบาท
ส่วนรางวัลภาพข่าวโทรทัศน์ยอดเยี่ยม ในปีนี้ตกเป็นของภาพข่าว 'ฮีโร่ผดุง' จากโมเดิร์นไนน์ทีวี ได้รับรางวัล 5 หมื่นบาท ภาพข่าวโทรทัศน์ชนะเลิศ ได้แก่ภาพ 'นาทีวิกฤติ-นายกรัฐมนตรี' ของทีมข่าวทีวีสีช่อง 7 ได้ถ้วยเพชรใหญ่และเงินรางวัล 3 หมื่นบาท รางวัลโทรทัศน์สารคดีเชิงข่าวชนะเลิศตกเป็นของภาพชื่อ 'สำรวจพื้นที่ป่าสวนผึ้ง' ของทีมข่าวสามมิติ ทีวีสีช่อง 3 รางวัลภาพข่าวพระราชกรณียกิจชนะเลิศ ได้แก่ภาพชื่อ 'ทรงสาธิตหว่านต้นกล้า' น.ส.พ.เดลินิวส์ รางวัลภาพข่าวการเมืองสังคมทั่วไปชนะเลิศ ได้แก่ภาพ 'ช่างภาพอินเตอร์' น.ส.พ.ข่าวสด รางวัลภาพข่าวกีฬาชนะเลิศได้แก่ภาพ 'ท่าสวย' ของ น.ส.พ.สยามกีฬารายวัน ส่วนรางวัลภาพข่าวเศรศฐกิจชนะเลิศเป็นของภาพ 'โอกาสในวิกฤติ' น.ส.พ.โพสต์ทูเดย์
สำหรับ 'ไทยรัฐ' นอกจากได้รางวัลภาพข่าวยอดเยี่ยม ยังสามารถคว้ารางวัลอื่นๆ รวม 4 รางวัล 2 ชมเชย ได้แก่ ภาพข่าวต่อเนื่องชนะเลิศ ชื่อภาพ 'ม็อบเดือด' ถ่ายโดยนายสรวิทย์ จำนงค์ฤทธิ์ ได้ถ้วยเพชรใหญ่พร้อมเงินรางวัล 5 หมื่นบาท ภาพข่าวอาชญากรรมชนะเลิศ ได้แก่ภาพ 'เหยื่อระเบิด' ถ่ายโดยนายจิตติศักดิ์ ตรีเดชี ได้ถ้วยเพชรเล็กพร้อมเงินรางวัล 3 หมื่นบาท และภาพ 'เหยื่อระเบิด' ยังสามารถคว้ารางวัลภาพข่าวต่อเนื่อง รองชนะเลิศอีก 1 รางวัล ได้ถ้วยเพชรเล็กพร้อมเงินรางวัล 1.5 หมื่นบาท ส่วนภาพ 'นาทีระทึก' ของนายพิสันต์ ใจการุณ ได้ภาพข่าวอาชญากรรมชมเชย และภาพ 'ไม่ครบยก' ถ่ายโดยนายชาติชาย จันทรวัติ ได้ภาพกีฬาชมเชย ได้ถ้วยเพชรเล็กและเงินรางวัล 5 พันบาท
นายกฯ สมาคมเผยได้รางวัลเพราะภาพได้อารมณ์ไม่ต้องบรรยาย ‘มาร์ค’ เตรียมมอบรางวัล
นายวิชัย วลาพล นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนฯ กล่าวว่า คณะกรรมการตัดสินการให้รางวัลด้วยความยุติธรรมโปร่งใสทุกขั้นตอน ภาพ 'ทนไม่ไหว' ที่คว้ารางวัลยอดเยี่ยมในปีนี้ เพราะกรรมการเห็นว่ามีความโดดเด่นและองค์ประกอบของภาพครบจากเหตุการณ์ความชุลมุนวุ่นวาย ในภาพจะเห็นว่ามีช่างภาพยืนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ช่างภาพที่ถ่ายภาพนี้ยืนในจุดที่ต่างจากคนอื่น จึงลั่นชัดเตอร์ได้เพียงคนเดียว ภาพนี้จึงได้อารมณ์ของภาพโดยไม่ต้องบรรยาย กรรมการทุกคนเห็นแล้วต่างลงคะแนนให้ชนะเป็นเอกฉันท์
สำหรับงานมอบรางวัลจะมีขึ้นวันที่ 18 มิ.ย. ที่ รร.โซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานและจะมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี เวลา 16.30-18.30 น.
สำหรับสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ที่มีนายวิชัย วลาพล เป็นนายกสมาคมนั้น ถือเป็นสมาคมดังกล่าวเป็นองค์กรสมาชิกของสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยซึ่งประกอบด้วย 10 สมาคมวิชาชีพสื่อสารมวลชน โดย น.ส.นาตยา เชษฐโชติรส นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีตำแหน่งเป็น ประธานสมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ส่วนนายวิชัย วลาพล นายกสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย มีตำแหน่งเป็นรองประธานสมาพันธ์ด้วย
ภาพ “ทนไม่ไหว” โดยนายประสิทธิ์ นิเวศน์ทอง ผู้สื่อข่าวอาชญากรรมหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่ 14 เมษายน 2552 หน้าหนึ่ง คำบรรยายภาพเขียนว่า "ทนไม่ไหว หลังจากม็อบเสื้อแดงงัดยุทธวิธีขับรถบรรทุกแก๊สไปจอดบริเวณอุโมงค์ดินแดงจะจุดระเบิด สร้างความไม่พอใจแก่ชาวแฟลตดินแดง ถึงขั้นยกพวกออกมาลุยม็อบเสียเอง"
ภาพที่รวบรวมโดยคุณ mcu51 ในกระดานข่าวพันทิพ ห้องราชดำเนิน ทำให้พบว่าเหตุการณ์จิกหัวหญิงเสื้อแดงเมื่อ 13 เม.ย. ไม่ได้เกิดที่ย่านดินแดง แต่เกิดที่ถนนราชปรารภ ใกล้กับย่านประตูน้ำ (ที่มา: รวบรวมโดย คุณ mcu51 กระข่าวพันทิพ ห้องราชดำเนิน, 16 เม.ย. 2552)
ภาพนายกวีไกร โชคพัฒนเกษมสุข ขณะถกเถียงกับ น.ส.มินตรา โสรส เมื่อ 13 เม.ย. 52 ที่ถนนราชปรารภ (ภาพบน คนซ้ายมือสวมเสื้อเขียว) เทียบกับภาพใน Hi5 ของนายกวีไกร ขณะชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในสนามบินสุวรรณภูมิ (ล่าง)
เผยภาพรางวัลยอดเยี่ยมไทยรัฐ เคยบรรยายภาพพลาด
สำหรับภาพข่าว ‘ทนไม่ไหว’ ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่ได้รับรางวัลภาพข่าวสื่อมวลชนยอดเยี่ยมประจำปี 2551-2555 นั้น เป็นภาพที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐตีพิมพ์ลงหน้าหนึ่ง ในฉบับวันที่ 14 เมษายน 2552 ซึ่งประชาไทเคยนำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ว่ามีการรายงานคำบรรยายภาพใต้ภาพผิดพลาด โดยในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับดังกล่าวเขียนว่า
"ทนไม่ไหว หลังจากม็อบเสื้อแดงงัดยุทธวิธีขับรถบรรทุกแก๊สไปจอดบริเวณอุโมงค์ดินแดงจะจุดระเบิด สร้างความไม่พอใจแก่ชาวแฟลตดินแดง ถึงขั้นยกพวกออกมาลุยม็อบเสียเอง"
โดยหลังจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐตีพิมพ์ภาพและคำบรรยายภาพดังกล่าว ต่อมาเมื่้อ 16 เม.ย. ทั้งใน กระดานข่าวพันทิพ ห้องราชดำเนิน ลำดับที่ P7756828 และเว็บบอร์ดประชาไท ลำดับที่ 796863 ฯลฯ ได้มีผู้ตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว และพบว่าเหตุการณ์ที่มีชายชุดเขียวจิกศีรษะผู้หญิงเสื้อแดงนั้น เกิดขึ้นที่ ถ.ราชปรารภ ย่านถนนราชปรารภ 12 ซึ่งอยู่ห่างจากย่านแฟลตดินแดงเป็นระยะทางไกลมาก
โดยในวันดังกล่าว ไม่เพียงแต่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐจะรายงานว่าเป็นเหตุการณ์ที่ชาวแฟลตดินแดงออกมาทำร้ายสตรีเสื้อแดงเพราะไม่พอใจที่มีการนำรถบรรทุกแก๊สไปจอดบริเวณอุโมงค์ดินแดงแล้ว สื่อมวลชนหลายสำนักยังรายงานคาดเคลื่อนเช่นกัน รวมถึงรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ดำเนินรายการและประกาศข่าวโดย นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา และ น.ส.กฤติกา ศักดิ์มณี ซึ่งออกอากาศเมื่อเช้าวันที่ 14 เม.ย. 52 ด้วย
นอกจากนี้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตยังมีการสืบค้นและพบว่าชายชุดเขียวที่จิกศีรษะ น.ส.มินตรา ดังกล่าว คือนายกวีไกร โชคพัฒนเกษมสุข อายุ 30 ปี เคยเป็นการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา น.ส.อัญชะลี ไพรีรักษ์ ผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์ ASTV ยังได้สัมภาษณ์นายกวีไกรทางโทรศัพท์ถึงสาเหตุที่นายกวีไกรกระทำการดังกล่าวในเหตุการณ์เมื่อ 13 เม.ย. ที่ผ่านมาด้วย
มติชนออนไลน์ ยังได้เผยแพร่บันทึกของนายกวีไกร ที่ประกาศไว้ใน Hi5 ของเขาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "ผมไม่สงสารตัวเองกับคนที่มาด่าประณามผมเพราะผมควรที่จะได้รับ ... แต่ยอมรับว่าผมไม่รู้สึกที่จะขอโทษผู้หญิงคนนั้นหรือสงสาร" และนายกวีไกรเคยสอบถามไปยัง สน.พญาไท ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุว่า น.ส.มินตรา ไปแจ้งความหรือไม่ โดยเขาประกาศว่าหากมีการไปแจ้งความเมื่อไหร่เขาจะไปมอบตัวทันที