ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
ประเด็นการพูดมีอยู่หลากหลาย แต่จุดที่น่าสนใจน่าจะเป็นการตั้งข้อสังเกตถึงแผนกู้เงินของรัฐบาล ทั้งพ.ร.ก. และพ.ร.บ. ของรัฐบาลที่รวมกันถึง 8 แสนล้านบาท
หากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ไม่เป็นไปตามที่คาด จะเกิดอะไรตามมา!?
ประเทศไทยจะมีหนี้เพิ่มขึ้นมหาศาลถึง 8 แสนล้านบาท โดยไม่นับรวมหนี้เก่าๆ ที่ก่อเอาไว้อย่างยาวนาน
และสิ่งที่จะตามมาอีกก็คือเครดิตของประเทศจะถูกลดอันดับลง เพราะอย่าว่าแต่ประเทศเลย แค่คนทั่วๆ ไป หากเรารู้ว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวก็คงไม่ไว้วางใจเท่าใดนัก
แน่นอนว่านี่คือการมองในภาพลบอย่างยิ่ง
ฟากรัฐบาลเองย่อมมองในด้านตรงข้าม เพราะเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าหากได้เงิน 8 แสนล้านบาทมาใส่กระเป๋า จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจหรือประคองประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจโลก
สมมติ...สมมติ จริงๆ นะ หลังได้เงิน 8 แสนล้านมาใส่กระเป๋าแล้ว บรรดารัฐมนตรี หรือส.ส.ผู้มีอำนาจใช้งบประมาณเกิดต่อมสำนึกผุดขึ้นมาพอดี
ทุกคนใช้เงินอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีเม้มเข้ากระเป๋าตัวเองแม้แต่บาทเดียว
ถ้าทุกอย่างที่รัฐบาลคาดคิดเป็นไปตามที่คาดหวัง ก็คงไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อเศรษฐกิจเฟื่องฟู ย่อมสามารถมีเงินภาษีมาชำระหนี้ที่ติดเอาไว้ได้
แต่หากวิกฤตเศรษฐกิจของไทย เกิดไม่คลี่คลายไปอย่างที่คาดไว้เล่า!?
หรือหากดีขึ้นแต่ไม่ดีถึงขนาดที่รัฐบาลวาดฝันเอาไว้
และหากเลวร้ายสุดๆ เกิดปัญหาอีกระลอกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก หรือราคาน้ำมันที่เริ่มแพงทะลุทะลวงขึ้นเรื่อยๆ
ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร!?
รัฐบาลชุดต่อๆ ไป จะทำงานอย่างไร เพราะต้องรับภาระหนี้ก้อนมหาศาล ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันก่อเอาไว้
เปรียบไปก็คงเหมือนกับก่อนปี"40 ที่แบงก์ชาติเทเงินหมดหน้าตักพยายามตรึงค่าเงินบาทเอาไว้ โดยหวังว่าจะสู้กับผู้ที่โจมตีค่าเงินอยู่ในขณะนั้น
แต่ปรากฏว่าเกิดผิดพลาด วิกฤตต้มยำกุ้งจึงเกิดขึ้น
ในครานี้ก็เช่นกันรัฐบาลไม่ต่างจากกำลังกระโจนเข้าสู่โต๊ะพนัน โดยมีเงิน 8 แสนล้านบาทอยู่ที่หน้าตัก และหวังว่าจะชนะในเกมนี้
โดยมีอนาคตของประเทศเป็นเดิมพัน!?