ที่มา บางกอกทูเดย์
เห็นด้วยอย่างยิ่งสำหรับคำกล่าวของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ยืนยันเป็นเด็ดขาดว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ กับผู้ก่อการร้ายใน3 จังหวัดภาคใต้ซึ่งก็แปลไทยเป็นไทยได้ว่าจนกว่าจะแพ้ชนะกันไปข้าง..เห็นด้วยเพราะว่า..หากเจรจากับผู้ก่อการภาคใต้..อีกไม่นานก็จะต้องเจรจากับผู้ก่อการอื่นๆในภาคอื่นๆ อีก..เป็นแบบนั้นประเทศมันก็เล็กลงทุกวันแต่ไหนๆ จะรบกันให้มันเบ็ดเสร็จลงไป..ก็ไม่ใช่เลี้ยงไข้อยู่แบบนี้..เพราะปีละกว่า20,000 ล้านบาท ที่เป็นงบลับและเงินสดนั้นสหรัฐอเมริกาแพ้เวียดนามมาแล้วเพราะหาดอลลาร์มาใช้รบไม่ไหว..ขอไปสภาก็ขัดข้องและประชาชนเบื่อหน่ายกับการคอยรับศพ...คนหนุ่มก็หนีตายไม่ยอมเป็นทหาร..ไม่มีพื้นที่ทางทหารแผ่นดินใด..ที่ฝ่ายหนึ่งจะยื่นเข้าไปในการโอบล้อมของอีกฝ่ายหนึ่ง. แต่ใน3 จังหวัดภาคใต้นั้น..พื้นที่ดินระหว่างชายแดนไทยกับมาเลเซีย..เป็นประโยชน์ให้กับผู้ก่อการ..เพราะเป็นเขตเลือกตั้งที่พรรคฝ่ายค้านมีอิทธิพลเหนือประชาชน การไปพึ่งพาโดยการเจรจากับรัฐบาลในกัวลาลัมเปอร์..จึงไม่ได้ผลประเทศไทยจึงจำต้องพึ่งพาตนเอง..เป็นหลักก่อนอื่นประเทศไทยต้องตัดทางถอยของผู้ก่อการร้าย..มิให้เข้าไปอาศัยแผ่นดินเพื่อนบ้าน..ถนนเลียบชายแดนในด้านที่มีปัญหาจึงจะต้องเกิดขึ้นมาก่อน..วิธีการปกติตั้งแต่โลกนี้มีทหารและการสู้รบ..ก็คือการตัดท่อน้ำเลี้ยง..และปิดทางถอย..แต่รบกันมาถึงวันนี้..ไม่มีใครพูดถึง..แลนด์บริดจ์..ที่ทอดผ่าน..ระหว่าง 2 ฝั่งมหาสมุทร..ที่ช่วยย่นระยะเดินทาง..รถไฟจะขนทั้ง ค อ น เ ท น เ น อ ร์แ ล ะ เ รือ เ ดิน ส มุท ร . .ขึ้นบก..กับท่อส่งน้ำและน้ำมัน..จะพลิกเศรษฐกิจให้ 3 จังหวัดภาคใต้ของไทย..และสร้างงานปริมาณมหาศาลให้กับประชาชนสงครามจะเป็นเรื่องไร้สาระ..ประเทศไทยจะร่ำรวยขึ้นอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..วานศึกษาดูที..ประเทศนี้มันรวยแน่ๆ แค่ได้นายกรัฐมนตรีดีๆ สักคน■