ที่มา บางกอกทูเดย์
“ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2552 ไปจนถึงปลายปี 2552 ถือว่าเป็นช่วงเคราะห์ร้ายหนัก”คำทำนายของ อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทำนายชะตา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีของการจัดตั้งรัฐบาลเพราะจากคำทำนายดูเหมือนจะเข้ากับสถานการณ์ทางการเมืองของรัฐบาล ที่กำลัง “ดวงตก” ทำงานอะไรก็ติดปัญหาไปหมดแม้แต่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553ที่ผ่านความเห็นชอบของสภาไปแล้ว ยังถูก ส.ส.เพื่อไทยยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่หรือแม้แต่ 44 ส.ส.ที่หุ้นสัมปทานรัฐและในบริษัทสื่อที่ กกต.ซื้อเวลามาแล้วหลายเดือน เลื่อนไปแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้ 9 ก.ย.จะฟันธงหรือไม่ยังไม่ชัวร์รวมทั้งประเด็นเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาทที่ถูก สารวัตรเฉลิม อยู่บำรุง แฉกลางสภาในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่กำลังอยู่ระหว่างการหาพยานหลักฐาน
ของ กกต.และสำทับด้วยประเด็นคลิปเสียงสั่งการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ที่กำลังมีปัญหากันอยู่ว่า...ตกลงแล้วเป็นของจริงหรือปลอม หรือเป็นคลิปตัดต่อเสียงนายกฯซึ่งประเด็นนี้เป็นชนวนเหตุให้แนวร่วมคนเสื้อแดงกลับมาฮึกเหิมอีกรอบ แต่ระดับแกนนำยังไม่รู้ว่าคึกคักหรือไม่หลังมีกระแสข่าวขัดแข้งขัดขากันเองแต่อย่างน้อยประเด็นเหล่านี้ก็ลดความเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรีลงได้อย่างมาก ไม่ต่างจากคำทำนายที่บอกว่า“นายกฯ” ยังอยู่ในช่วงเคราะห์ร้ายขณะที่ อ.ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสหรือนักโหราศาสตร์จีน ประธานสถาบันศาสตร์แห่งชีวิตแห่งประเทศไทยเคยทำนายดวงชะตานายกฯ คนปัจจุบันไว้ว่า “ตามตำราโหราศาสตร์จีน ดวงชะตานายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เกิดปีมะโรงเดือนมะแม วันวอก ยามเถาะ ธาตุไม้ พื้นฐานดวงดี เป็นช่วงมังกรคะนองน้ำ แสดงถึงความเป็นคนฉลาด วิสัยทัศน์ยาวไกลมีผู้ใหญ่ให้ความเกื้อหนุน แต่มีนิสัยดื้อเงียบ หัวรั้นแต่ไม่แสดงออก”ปี 2552 เป็นปีฉลู ธาตุดิน มีดวงที่ไม่ส่งเสริมกับนายอภิสิทธิ์เท่าใดนัก อาจเรียกได้ว่าปีดังกล่าวเป็นปีที่มีเคราะห์ก็ว่าได้แต่ไม่ร้ายแรงนักเนื่องจากปี 2552 เป็นธาตุดิน และนายอภิสิทธิ์เป็นธาตุไม้ ถือว่ามีส่วนเกื้อหนุนกันจากการตรวจสอบพื้นชะตาของนายอภิสิทธิ์ในปี 2551 ไปจนถึงเดือนเมษายน 2552 การดำเนินงานบริหารประเทศอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ได้รับความนิยมจากประชาชนแต่พอเริ่มเข้าสู่เดือนเมษายน ดวงนายอภิสิทธิ์จะเริ่มร้อนมีเคราะห์และอุปสรรคในการทำงาน การบริหารประเทศเริ่มวุ่นวาย และจะหนักมากในเดือนสิงหาคมประกอบกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับนายกฯ จะเกิดปัญหาใหญ่ร้ายแรง ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างหนักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอาจเกิดความพลิกผัน!หากไม่ทำการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่
อาจทำให้รัฐนาวาของพรรคประชาธิปัตย์พังทลายลงได้ดวงนายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพถือว่ามีความเกี่ยวพันกัน หากนายสุเทพหรือรัฐมนตรีคนใดเกิดปัญหา ย่อมส่งผลโดยตรงกับนายกฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในช่วงปลายปีรัฐบาลจะมีเคราะห์ร้าย ต้องปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ มาร์ค 2 มาร์ค 3 เพื่อให้เกิดความสมดุลต่อการทำงานหาไม่แล้วคงจะไปไม่รอดอย่างแน่นอนส่วน “โหร คมช.” อ.วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรชื่อดังแห่งสำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะออกมาเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ ว่ากลุ่มต่างๆ ที่จะออกมาเคลื่อนไหว จะไม่มีผลกระทบต่อการบริหารประเทศของนายอภิสิทธิ์ แม้ว่ารัฐบาลจะมีการปรับเปลี่ยนภายในพรรคร่วมรัฐบาลบ้างก็ตาม แต่จะไม่ถึงขั้นยุบสภาหรือลาออก ทั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องช่วยกันประคองบ้านเมืองให้พ้นวิกฤติ“จะไม่มีเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549ที่ผ่านมา และนายสุเทพยังคงทำหน้าที่ในตำแหน่งเดิม และความสัมพันธ์ก็ยังคงมีความแนบแน่นกับกองทัพ โดยเฉพาะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่จะยังคอยดูแลกัน”ขณะที่มีความเห็นจากฝ่ายความมั่นคง โดย พ.อ.ธนาธิปสว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ออกมาระบุว่า“ศอ.รส.ประเมินว่า หากมีการชุมนุมในวันที่ 5 ก.ย.นี้ของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่น่าจะมีความรุนแรง และเชื่อว่าน่าจะเป็นเป้าลวงเพื่อกดดันการทำงานของรัฐบาล แต่อาจจะมีการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย.นี้ ซึ่ง ศอ.รส.มีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่หากรัฐบาลเห็นว่า มีความจำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง”ความเห็นนี้จะสอดคล้องกับคำทำนายของ “โหร คมช.”หรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ 19 ก.ย.นี้ นายอภิสิทธิ์จะบินไปประชุมที่สหประชาชาติหรือยูเอ็น เหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรสถานการณ์ 19 ก.ย.จึงน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่าบ้านเมืองจะเกิดอะไรขึ้นและจะกลายเป็นช่วงเคราะห์ร้ายของรัฐบาลดั่งคำทำนายหรือไม่... ยังต้องติดตาม ■