ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
ยิ่งตัวนายกฯ อภิสิทธิ์ทุกครั้งก็ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าตัวเองทำตามกฎหมาย
ยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้
นายกฯอภิสิทธิ์พยายามบอกว่าเป็นเรื่องของกฎหมายล้วนๆ โดยระบุว่าเป็น "อำนาจ" ของนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอบุคคลขึ้นเป็นผบ.ตร.เพียงชื่อเดียวให้คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) พิจารณา
เป็นการตีความกฎหมายในด้านของนายกฯอภิสิทธิ์คนเดียว
ในเมื่อก็ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายที่นายกฯจะเสนอแคนดิเดต 2 ชื่อให้ก.ต.ช.พิจารณา เพราะ"อำนาจ"การชี้ขาดว่าจะให้ใครเป็นผบ.ตร.มันขึ้นอยู่ที่การโหวตของก.ต.ช.ทั้ง 10 คน
ไม่ใช่ตัวนายกฯ!?
ฉะนั้น การรวบหัวรวบหางเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเพียงชื่อเดียว เป็นการสะท้อนถึงเจตนาการใช้"อำนาจ"ของนายอภิสิทธิ์มากกว่าเรื่องความเหมาะสม
ในเมื่อนายอภิสิทธิ์ย้ำมาตลอดเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย จึงมีคำถามย้อนกลับถึงคดีความต่างๆ ของม็อบพันธมิตร
วันก่อนเห็นตำรวจสน.ดุสิตออกหมายจับน.ส.สุนทร บุญยอด, น.ส.บุญรอด สายวงศ์ และน.ส.จิตรา คชเดช ในข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนก่อวุ่นวาย นำม็อบพนักงานไทรอัมพ์ล้อมทำเนียบเพราะไม่พอใจถูกเลิกจ้าง
รัฐบาลสั่งให้ออกหมายจับรวดเร็วทันใจจริงๆ กับม็อบฉันทนา
กลับกันคดีม็อบพันธมิตรยึดทำเนียบรัฐบาล 198 วันไปถึงไหน
คดีม็อบพันธมิตรยึด 2 สนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองคืบหน้าไปแค่ไหน
แล้วทำไมคดีแกนนำม็อบพันธมิตรโดนข้อหาก่อการร้ายจึงชะงักไปดื้อๆ ไม่รู้ไปโดน "ตอ" อะไรหรือเปล่า
ยังมีคดีสอบทุจริตอดีตตำรวจใหญ่วงเงินเฉียดๆหมื่นล้านบาท พอมาถึงรัฐบาลประชาธิปัตย์คดีกลับอืดอาดล่าช้า สงสัยจะสะดุด "ตอ" ไปด้วยมั้ง
ผิดกับเรื่อง "ตอ" คดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำม็อบพันธมิตร ที่นายกฯอภิสิทธิ์ถึงกับออกอาการเต้นผาง เข้าไปล้วงลูกล้วงคดีเองจนวุ่นวายไปหมด
อลหม่านไปทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สุดท้ายก็ไม่มีจริง "ตอ" คดีสนธิก็เป็นแค่เกมจ้องเล่นงานผบ.ตร.เท่านั้น
จนถูกวิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มว่านายกฯอภิสิทธิ์กับม็อบพันธมิตรแทบแยกกันไม่ออกแล้ว
ไม่ได้หมายความว่าต้องการให้นายกฯ เลิกสนใจคดีสนธิ ลิ้มทองกุล แต่ควรจะใส่ใจคดีหลายๆ คดีที่เป็นปัญหาด้วย
ปล่อยให้อืดอาดชักช้าอยู่อย่างนี้ ไม่เป็นผลดีแน่นอน
จะกลายเป็นมาร์ค 2 มาตรฐาน