ที่มา มติชน
คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12
โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ
เรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. ซึ่งไม่เป็นเรื่องไม่รู้ทำกันอีท่าไหนกลายเป็นเรื่องจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับรัฐบาล
ทั้ง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ และ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ซึ่งเป็นตัวเลือกล้วนแล้วแต่เหลืออายุราชการอยู่แค่ปีเดียว
ผบ.ตร.ปีเดียวจะทำอะไรได้นักหนา เป็นเมื่อก่อนเขาไม่ตั้งกันด้วยซ้ำ เพราะจะทำให้งานเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเร็วเกินไป ไม่ต่อเนื่อง
รัฐบาลนี้เกิดคิดจะตั้งคนที่เหลืออายุราชการปีเดียวขึ้นมาเป็นใหญ่ จึงเป็นธรรมดาที่คนทั่วไปย่อมคิดได้ว่าน่าจะมีอะไรที่เป็นเบื้องหน้าเบื้องหลัง
แต่ถึงจะมีเบื้องหลังอย่างไรก็ควรจะคุยกันรู้เรื่อง
หากจับความตามข่าว เรื่องนี้เกิดจากรองนายกรัฐมนตรีสุเทพ เทือกสุบรรณ และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ไปกระซิบบอกให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล และคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ กตช.อีกหลายคนเลือกตั้ง "พล.ต.อ.จุมพล"
แต่พอถึงวันประชุม กตช. นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้เอกสิทธิ์ประธาน กตช.เสนอชื่อ พล.ต.อ.ปทีป
รองนายกฯสุเทพเป็นผู้จัดการรัฐบาล ทำหน้าที่ประสานทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาล เลขาธิการนายกรัฐมนตรีนิพนธ์ทำหน้าที่ประสานงานกับข้าราชการหรือบุคคลต่างๆ แทนนายกฯอภิสิทธิ์
คนก็เลยงงว่า เอาอย่างไรกันแน่
ที่สุดนายกฯอภิสิทธิ์ต้องสั่งเลื่อนการประชุมออกไปก่อน เพื่อเคลียร์กัน
ข่าวที่ออกมากลับกลายเป็น "พรรคภูมิใจไทย" ขัดแย้งกับ "พรรคประชาธิปัตย์" จนกระทั่งมีข่าวว่านายกฯอภิสิทธิ์ใช้เป็นเหตุผลไม่ตีตกเรื่องที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พรทิวา นาคาศัย เสนอแต่งตั้ง "นายยรรยง พวงลาภ" เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแก้แค้นที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยชวรัตน์ไม่โหวตให้ พล.ต.อ.ปทีป
แถม ส.ส.หนุ่มออกมารวมตัวถล่มพรรคภูมิใจไทยเสียเละ
เลอะเทอะกันไปขนาดนั้น
ทั้งที่เรื่องนี้เริ่มต้นจากรองฯสุเทพและเลขาฯนิพนธ์ซึ่งเป็นคนของประชาธิปัตย์
หัวหน้าพรรคที่เป็นนายกฯไปทาง เลขาธิการพรรคที่เป็นรองนายกฯไปอีกทาง
ขบวนการหาข้อมูลใหม่จึงเกิดขึ้นโดยมีเลขาฯนิพนธ์ทำหน้าที่
หลังได้ข้อมูลมารายงานนายกฯ ปรากฏว่า นายกฯบอกว่า ตัวเองมีข้อมูลอีกด้านที่น่าจะเป็นจริงมากกว่า
ข่าวเบื้องหน้าไม่มีการเปิดเผยว่า ข้อมูลอีกด้านของนายกฯมาจากไหน แต่เบื้องหลังพอรู้ๆ กันอยู่ว่า "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ฟังมาจากใคร
เป็นอันว่าข้อมูลสองด้านที่ได้มา นายกฯเลือกที่จะไม่ฟังข้อมูลของ "นิพนธ์"
"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เลือกที่จะเสนอชื่อ "พล.ต.อ.ปทีป" อีกครั้ง
ยืนยันว่าต้องเป็น "พล.ต.อ.ปทีป" เท่านั้น
เลขาฯนิพนธ์เจ้าของข้อมูลอีกด้านซึ่งกลายเป็นผู้ไม่ได้รับความเชื่อถือจากนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ได้แต่มองตาปริบๆ แม้กระทั่งผู้จัดการรัฐบาลสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็พูดอะไรไม่ออก
ไม่รู้จะบอกพรรคร่วมรัฐบาลว่าอย่างไร
ผบ.ตร.ปีเดียว ทำให้เกิดความอึดอัดภายในรัฐบาลมากมายอย่างไม่น่าจะเป็น
ยิ่งไปกว่านั้นคือความตึงเครียดกระจายไปทั่ว เพราะห่วงว่าความเสียหายจะใหญ่หลวงมากกว่านี้
ทุกคนที่ได้ฟังเรื่องราว ได้แต่สั่นหัว ส่ายหน้า
ส่ายหน้ากับ "ความเด็ดขาด" ของนายกรัฐมนตรี
"ความเด็ดขาด" ที่น่าหวั่นใจว่า "ผิดเรื่อง ผิดเวลา"