ที่มา ไทยรัฐ
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
ย้ำความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ระบุไม่ติดใจป๋าเปรมไม่ได้เข้าลาบวชเพราะไม่ว่าง อาจเป็นความเข้าใจคาดเคลื่อน ยอมรับป๋าเป็นคนรักชาติบ้านเมืองน่ารักมาก เคยโทรศัพท์อวยพรวันเกิดทุกปีไม่เคยลืม....
วันนี้(18 ต.ค.)เวลา 08.00 น.ที่วัดโพธิ์โกลน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางไปทอดกฐินที่วัดโพธิ์โกลน ต.บางปลากด อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ถึงปัญหาความระหองระแหงกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว ท่านไม่มีอะไร เราจำเป็นจะต้องรับฟังผู้หลักผู้ใหญ่ท่านอบรมสั่งสอนก็จะต้องรับฟัง ส่วนการตัดสินใจอยู่พรรคเพื่อไทย ตนบอกหลายครั้งแล้วว่า จะต้องมีจุดยืนทางการเมือง ไม่ใช่อยู่ที่ไหน หรืออยู่ข้างนอกแล้วมาทำการเมืองคงไม่ได้ จะต้องมีฐานะทางการเมือง การตัดสินใจที่มาอยู่พรรคเพื่อไทย เพราะพี่น้องประชาชนเลือกให้ ทั้งนี้ได้พูดกับหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้วว่า ไม่ต้องการที่จะมาเป็นอะไรในพรรค แต่หากจะมีดำเนินงานอะไรก็จะต้องใช้กรรมวิธีของพรรค ทั้งมวลชน และมหาชนแบบขั้นตอน ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาไม่มีอะไรมากมาย
ส่วนกรณี พล.อ.เปรม อาจจะเข้าใจผิด จึงได้ระบายความรู้สึกออกมา โดยเฉพาะเรื่องการทรยศต่อชาตินั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่มี แต่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่เป็นห่วง การที่ พล.อ.เปรม แสดงความเป็นห่วงออกมาด้วยวาจา ที่ค่อนข้างจะสะท้อนถึงจิตใจที่เป็นห่วงมากก็จะต้องเข้าใจอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าท่านจะมาว่าเรา ทั้งนี้เมื่อท่านพูดหนักๆ พูดแรงๆ แสดงว่าท่านห่วงเรามาก ท่านยิ่งพูดหนัก พูดแรง แสดงว่าท่านยิ่งห่วงใยเรา แต่ยอมรับไม่ค่อยสัมพันธ์กันนานแล้ว เพราะไม่มีโอกาสได้เข้าไป แต่คนสัมพันธ์กันไม่จำเป็นจะต้องไปอยู่ใกล้กัน โทรศัพท์คุยกันก็ได้ หรือแม้ว่าจะห่างกันข้ามฝากฟ้า จิตใจกันก็ยังอยู่กันได้เป็นเรื่องธรรมดา
พล.อ.ชวลิต ยังกล่าวยืนยันไม่รู้สึกเจ็บปวดที่ถูกกล่าวหาว่าทรยศต่อชาติ เพราะตนไม่ได้ทำอะไรเลย พล.อ.เปรม เป็นคนที่เสียสละทำงานให้กับบ้านเมืองมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน จนถึงวันนี้อายุจนจะ 90 ปีแล้ว ท่านยังไม่ทิ้ง และตนยังไม่ถึง 80 ปี จะทิ้งได้อย่างไร ดังนั้นจะต้องทำงานให้กับบ้านกับเมือง จะต้องเข้าใจว่า คนที่เสียสละทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมืองมา ไม่ให้ความรัก ความเคารพกับท่านได้อย่างไร จะพูดอะไรต่าง ๆ อาจจะฟังไม่ถนัด หรือ ท่านอาจจะไม่ได้หมายความว่า อย่างนั้นอย่าไปคิด ส่วนเรื่องการขอเข้าพบเพื่อขอลาบวช แต่ พล.อ.เปรม ไม่ให้เข้าพบนั้น คงเกิดจากความเข้าใจผิดกัน แต่เรื่องนี้ ตนได้ติดต่อผ่านไปยัง พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่ พล.ร.อ.พะจุณณ์ คงจะกราบเรียน พล.อ.เปรม ไป แต่ พล.อ.เปรม อาจจะไม่ได้คิดอะไรมาก เห็นว่าจะมีคนเข้าพบอีกแล้ว แต่ไม่ว่าง โดยที่ พล.อ.เปรม เขียนหนังสือเป็นตัวแดงออกมาว่าไม่ว่าง
"เวลามีอะไรก็จะโทรศัทพ์ติดต่อ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ช่วยพี่หน่อยเถอะลูก พะจุณณ์ ก็น่ารัก เรียกผมว่าครูมีอะไร เดี๋ยวผมติดต่อให้ ซึ่ง พะจุณณ์ รับใช้ป๋าเปรมมาตั้งนานแล้ว ซึ่งเป็นคนดีเมื่อ พะจุณณ์ รับเรื่องแล้วก็ทำหนังสือกราบเรียนป๋าเปรม ว่ามีเรื่องอะไร แต่ป๋าไม่ได้ดูอะไรมาก ท่านคงคิดว่า ใครจะมาเข้าพบธรรมดามั้ง ซึ่งท่านก็ไม่ว่าง เรื่องที่เกิดขึ้นคงเข้าใจผิดกัน"ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าว.