ที่มา บางกอกทูเดย์
ดวลกันมาก็หลายยก แพ้-ชนะ ยังไม่ปรากฏ..มีแต่นั่งซด “ใบบัวบก”แก้ชํ้าต่างฝ่ายต่างชํ้า เพราะอีกคนหมัดเหล็ก(ชั้นเชิงสูง) อีกคนหมัดหนัก (แบ็คหนา)คนเชียร์ “ตูดไม่ติดเก้าอี้” เพราะคู่ชกแรงเกิน100 ดีกรี!ถ้าเพิ่งออกจากถํ้าก็คงไม่รู้จักมวยคู่เอก “แม้ว-มาร์ค”2 มวยคู่เอก แม้บางครั้งจะอยู่ข้างเวที แต่ก็มีขุนพลผู้
ภักดี วาดลีลาแทนนาย! ตามประสา“นายกูใครอย่าแตะ”การต่อสู้ทางการเมืองระหว่าง ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ยังไม่เคยถึงตอนจบ..แม้บางครั้งต่างฝ่ายต่าง “จุก” จนนอนกลิ้ง..แต่ให้นํ้าพักเดียวก็มีเรี่ยวแรง “ง้างหมัด”ไม่ได้ตั้งใจ! แต่ประชาชนก็ยกให้ “มาร์คอยู่เสาเหลือง” – “แม้วอยู่เสาแดง”ลั่นระฆัง “เหลือง-แดง” เจอกันก็สั่นทั้งประเทศ..แย็บซ้าย แย็บขวา มาหลายปี..สิ้นปี 2549ต้องยกให้ฝั่งมารค์ ได้เปรียบดีกีรรัฐบาลบริหารประเทศ..มีสิทธิ์วางเกม กำหนดกติกาได้โดยไม่มีใคร “กล้าขัด”ยิ่งมีผู้สนับสนุนเต็มที่ อย่างแอนตาซิล เอ๊ย!“สนธิ ลิ้มทองกุล” ทุ่มหมดตัว.. งาน
นี้มาร์คเลยคะแนนพุ่ง กรรมการกดคะแนนแทบไม่ทันฟากแม้ว! แม้จะเป็นอดีตรัฐบาล แต่ ได้ใจเพราะโดน “จวก” ทีเผลอ..ดวลยกล่าสุด!ฝ่ายเสียเปรียบด้านอำนาจ “ทักษิณ ชินวัตร”โดนโจมตีด้วยหมัดของไทม์ โฟกัสตรงเบ้าตาหวังให้ “บอดสนิท”อีกไม่นาน มวยคงเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ! หรืออาจจะได้ผู้ชนะในเร็วนี้ชัยชนะอาจจะไม่ใช่เพราะลีลา ทว่าเป็นเพราะสะดุดขาตัวเอง..ฉะนั้น มวยเอกขึ้นเวทีเมื่อไหร่ อย่ากะพริบตา!ที่สำคัญต้องดูด้วยสติ อย่าหน้ามืดมองดูแค่การต่อสู้ ชิงไหวชิงพริบบนเวทีเท่านั้น เพราะนั่นเป็นเพียงลีลาที่มองเห็น แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการแย็บ การฮุคคนไทยต้องดูอย่างเป็นกลาง
และ “ตีความ”ให้ได้ เพราะแม้เป็นนักยุทธศาสตร์ แต่การเดินหมากทางยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดก็อาจทำให้คนเดินหัวคะมำอย่างไรก็ตาม “นํ้าใจนักกีฬา” น่าจะเป็นคำตอบและทางออกที่ไม่ควรปฏิเสธเวลานี้เวียดนาม เยอรมนี เกาหลี และอีกหลายประเทศพยายามรวมชาติที่แตกแยกให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแต่ไทยกลับพยายามสวนทาง พยายามแตกแยกเป็นหลายฝ่ายในเมื่อบรรพบุรุษได้มอบมรดกความเป็นชาติให้เรา เราก็ควรส่งมอบมรดกความเป็นชาติอันมีค่าให้กับคนรุ่นต่อๆ ไปไม่ใช่มอบประเทศที่แตกละเอียดให้กับคนรุ่นหลังและให้คนรุ่นหลังมาก่นด่าได้ในภายหลังผู้ชนะที่แท้จริง คือ ผู้เสียสละ...