ที่มา Thai E-News
"กรณีที่นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยแพร่เมื่อ8ก.ค.2552 เรื่องในหลวงทรงตั้งสมเด็จพระบรมฯเป็นพระรัชทายาทสืบราชบัลลังก์ เป็นการพูดที่ไม่ถูกกาลเทศะตามโบราณราชประเพณี ไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันในเวลานี้ ดังนั้นจะคอยจับตาดูว่า สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร ผมไม่อยากให้เกิด 2 มาตรฐานในเรื่องนี้ เพราะหากกลับกัน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนพูด ก็จะถูกรุมวิพากษ์โขกสับกล่าวหาทันทีว่า พูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทันที"-จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดงให้สัมภาษณ์ไว้ในวันที่ 11 กรกฎาคม2552
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
13 พฤศจิกายน 2552
กระแสพลิกกลับเมื่อสัจจะเอาชนะความเท็จ หลังจากเปิดบทสัมภาษณ์ของแม้วกับTHE TIMESทุกถ้อยคำแล้วพบว่าไม่มีคำไหนหมิ่นเบื้องสูง แถมกล่าวยกย่องเชิดชูสถาบันไม่ขาดปาก สำทับด้วยไทม์สการันตีไม่หมิ่นมีแต่จงรักภักดี ทำให้กระบอกเสียงรัฐบาลหุ่นเชิดหันมาเล่นบท"หมาป่ากับลูกแกะ"ว่าถึงจะไม่หมิ่นแต่ทำร้ายจิตใจคนไทยเนื่องจากพูดเรื่องการสืบสันตติวงศ์ช่วงในหลวงประชวร ซึ่งก็ปรากฎว่าศรย้อนเข้าปักร่างอภิสิทธิ์ เนื่องจากมาร์คเคยเปิดทำเนียบให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กเรื่องนี้ชัดเจนมาก่อน จนเคยถูก"ตู่-จตุพร"ออกมาดักคอเรียกร้องสังคมและสื่ออย่าเงียบเฉย เพราะหากเป็นแม้วพูดเรื่องเดียวกันจะโดนรุมกระทืบยับ สุดท้ายจตุพรสุดแม่น ภาษาชาวบ้านว่า"ซื้อหวยทำไมไม่ถูกอย่างนี้"!?
กระแสข่าวป้ายสีด้วยวิธีการโหมโฆษณาชวนเชื่อแบบขาวเป็นดำ(black propaganda)ตีกลับเสียแล้ว หลังจากมีการเปิดเผยคำให้สัมภาษณ์ของทักษิณ ชินวัตร กับTIMES ONLINEแบบคำต่อคำแล้ว(อ่านข่าว:สัจจะชนะความเท็จ:ทุกเม็ดทุกคำแม้วสัมภาษณ์TIMESไม่หมิ่น ความจริงเชิดชูสถาบันไม่ขาดปาก ) ซึ่งไม่มีถ้อยคำหรือเจตนาหมิ่นเบื้องสูงเลย แถมยังมีการกล่าวเชิดชูสถาบันอยู่ไม่ขาดปาก และTIMESยังได้เขียนบทบรรณาธิการยืนยันว่าทักษิณไม่ได้หมิ่น แต่ตรงกันข้ามกับถวายพระเกียรติยกย่องตลอดเวลาให้สัมภาษณ์(อ่านข่าว:TIMESการันตีแม้วไม่หมิ่นซักคำ สื่อไทยเฉยหลังรุมตื้บหนำใจ แถมละเว้นมาร์คจ้อสื่อนอกหนักกว่า )
หลังกระแสตีกลับ และสัจจะชนะความเท็จ รัฐบาลหุ่นเชิดได้ส่งกระบอกเสียงออกมาเล่นบท"หมาป่ากับลูกแกะ"เบี่ยงประเด็นไปอีกเรื่อง โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กระบอกเสียงระบอบรัฐบาลหุ่นเชิด กล่าวว่า กรณีที่สำนักข่าวไทม์สออนไลน์เขียนบทบรรณาธิการเรื่อง “ วิวาทะแห่งสยาม ” โดยคัดค้านกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย มองว่าน่าจะมีเจตนากลบเกลื่อนสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์มากกว่า
กระบอกเสียงระบอบหุ่นเชิดกล่าวด้วยว่า เรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์หนังสือไทมส์ไม่ใช่เรื่องที่ต้องตีความว่าจะผิดหรือไม่ผิดกฎหมายหมิ่นฯ เพราะถึงไม่ผิดแต่ก็เกิดความกระทบกระเทือน จิตใจของประชาชนในประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่เหนือกว่ากฎหมายหมิ่น
จะเห็นได้ว่ากระบอกเสียงระบอบรัฐบาลหุ่นเชิดพยายามเบี่ยงกระแสออกไป หลังจากหลักฐานคำให้สัมภาษณ์เต็มและบทบรรณาธิการของTIMESปรากฎชัดว่า"ไม่หมิ่น" โดยอ้างว่าถึงไม่หมิ่นแต่ก็กระทบกระเทือนจิตใจคนไทย เมื่อถามต่อไปว่าตรงไหนที่กระทบกระเทือน คำตอบก็คือเพราะทักษิณพูดให้สัมภาษณ์เรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ช่วงที่ในหลวงทรงพระประชวร
ซึ่งการเล่นบท"หมาป่ากับลูกแกะ"แบบนี้ว่าไปแล้ว จะย้อนศรไปกระทบต่อหัวหน้าระบอบรัฐบาลหุ่นเชิด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมากกว่า เพราะนายอภิสิทธิ์เคยเปิดทำเนียบรัฐบาลให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กมาก่อนนี้ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2552 และได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวันที่ 8 กรกฎาคม
จตุพรซื้อหวยทำไมไม่แม่นอย่างนี้ เคยดักคอมาร์คไว้พูดแบบนี้ไม่ผิด หากแม้วโดนยำเละ
ต่อมาในวันที่ 11 กรกฎาคม 2552นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดงได้กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เรื่องในหลวงทรงตั้งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร เป็นพระรัชทายาทสืบราชบัลลังก์ว่า เป็นการพูดที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกกาลเทศะตามโบราณราชประเพณี คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีควรจะต้องระมัดระวังคำพูดมากกว่านี้ เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันในเวลานี้ ดังนั้นจะคอยจับตาดูว่า สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไรกับคำพูดดังกล่าวของนายอภิสิทธิ์
"ซึ่งผมไม่อยากเกิด 2 มาตรฐานในเรื่องนี้ เพราะหากกลับกัน พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนพูด ก็จะถูกรุมวิพากษ์โขกสับกล่าวหาทันทีว่า พูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทันที"นายจตุพรให้สัมภาษณ์เอาไว้ในวันที่11กรกฎาคม
เปิดหลักฐานมาร์คสัมภาษณ์บลูมเบิร์กเรื่องสืบสันตติวงศ์ หนักกว่าแม้วลงTIMESทีแบบนี้ไม่ผิด!?
สื่อกระแสหลัก และบรรดานักสร้างประชามติสาธารณะทั้งหลาย พากันออกมาประณามอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตรว่า มิบังควรที่ให้สัมภาษณ์กับTIMES ONLINE ในเรื่องเกี่ยวกับการสืบพระราชสันตติวงศ์ ขณะที่ในหลวงยังทรงพระประชวรอยู่
อย่างไรก็ดีน่าประหลาดใจว่าในเรื่องเดียวกันนี้ แต่คนพูดคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวที่มีชื่อเสียงระดับโลกคือสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี้ สื่อกระแสหลักและบรรดานักสร้างประชามติสาธารณะต่างเงียบเฉย...
รายงานข่าวและบทสัมภาษณ์ที่บลูมเบิร์กนำเสนอนี้ ตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 8 กรกฎาคม 2552 ชื่อบทความดั้งเดิมในภาษาอังกฤษถือเป็นเรื่อง"มิบังควรอย่างยิ่ง"ในวัฒนธรรมการเมืองแบบไทย เพราะน่าจะ"หนักกว่า"ชื่อบทความที่Timesตีพิมพ์บทความล่าสุดที่สัมภาษณ์ทักษิณเสียอีก ไทยอีนิวส์จึงแปลให้ดูสละสลวยเข้ากับวัฒนธรรมทางการเมืองแบบไทยๆเสียว่า "การเปลี่ยนผ่านรัชกาลไม่ได้สร้างความกังวลให้เซียนหุ้นที่ชื่อนาย"เฟเบอร์"หยุดชะงักการลงทุนเล่นหุ้นในประเทศไทย"ซึ่งมีความสำคัญบางตอนกล่าวถึงการสืบพระราชสันตติวงศ์ โดยเป็นการสัมภาษณ์พิเศษนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดังต่อไปนี้
....................
อภิสิทธิ์:"ในหลวงทรงโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมฯเป็นพระรัชทายาทสืบต่อพระราชบัลลังก์"
ในการสัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฯอภิสิทธิ์ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระราชโอรส พระราชธิดา4พระองค์ และพระราชนัดดา11พระองค์ ได้ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้พระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวเป็นพระรัชทายาทขึ้นสืบต่อพระราชบัลลังก์แล้ว
"สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฎราชกุมารทรงเป็นพระรัชทายาทที่จะสืบราชบัลลังก์"อภิสิทธิ์กล่าว
8 กรกฎาคม 2552 (สำนักข่าวบลูมเบิร์ก)--นายกรัฐมนตรีของไทยต้องหยุดชะงักการตอบข้อซักถามและฝืนพูดต่ออย่างยากลำบากต่อคำถามที่ว่า เพื่อนร่วมชาติของเขาจะเผชิญต่อชะตาอนาคตอย่างไร หากว่าชีวิตของพวกเขาซักวันใดวันหนึ่ง ไม่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก เป็นร่มโพธิสมภารแก่พสกนิกร
"ผมไม่ได้แสร้งพูด--มันจะเป็นช่วงเวลาที่ลำบากยากยิ่งสำหรับพวกเราคนไทยทั้งมวล"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกล่าว เขาเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลผสมเมื่อเดือนธันวาคมปีกลาย และยังก้าวเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ยังคงอยู่ในวังวนปัญหาให้กับประเทศเป็นรายที่5ในรอบเพียง4ปี
(July 8 (Bloomberg) -- Thailand’s prime minister pauses briefly and swallows hard as he addresses the question few of his compatriots dare contemplate: life without King Bhumibol Adulyadej, the world’s longest-reigning monarch.
“I am under no illusion -- it will be a very difficult time for all of us,” says Abhisit Vejjajiva, who in December patched together a multiparty coalition government and became troubled Thailand’s fifth prime minister in four years.)
ในการสัมภาษณ์ในทำเนียบรัฐบาลที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอิตาลีเมื่อ5วันก่อน อภิสิทธิ์ได้เปิดเผยว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระราชโอรส พระราชธิดา4พระองค์ และพระราชนัดดา11พระองค์ ได้ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระรัชทายาทสืบทอดราชบัลลังก์แล้ว
"สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามกุฎราชกุมารทรงเป็นพระรัชทายาทที่จะสืบราชบัลลังก์"อภิสิทธิ์กล่าว
(ต้นฉบับของบลูมเบิร์กคือIn an interview at his Italianate office in Government House in Bangkok five days later, Abhisit discloses that Bhumibol, who has 4 children and 11 surviving grandchildren, has already endorsed his only son as the next king.
“The crown prince is the designated heir,” Abhisit says. )