WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, December 9, 2009

เปิดคำพิพากษาสั่งจำคุก"ศิวรักษ์"7 ปี ชี้เผยข้อมูลลับ"แม้ว"บิน ละเมิดการรปภ.บุคคลสำคัญของกัมพูชา

ที่มา มติชน

ศาลกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พิพากษาว่านายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ แคทส์ บริษัทในเครือสามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) มีความผิดจริง


เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 8 ธันวาคม นายเค สกาน หัวหน้าคณะผู้พิพากษาของศาลกรุงพนมเปญ อ่านคำพิพากษาระบุว่า นายศิวรักษ์มีความผิดจริงเกี่ยวกับการละเมิดความมั่นคงแห่งชาติและความปลอดภัยของสาธารณะ ที่สอดแนมข้อมูลเที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระหว่างเดินทางเยือนกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ให้กับสถานทูตไทย ข้อมูลการเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณถือว่าเป็นความลับ การนำข้อมูลไปเปิดเผยต่อผู้อื่นเป็นการฝ่าฝืนข้อปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา ถือว่านายศวิรักษ์ มีความผิด ต้องโทษจำคุก 7 ปีและปรับเป็นเงิน 10 ล้านเรียล หรือราว 85,000 บาท ซึ่งถือเป็นโทษที่ต่ำสุดสำหรับข้อหาดังกล่าว

นายเค สกาน กล่าวว่า ระหว่างนายศิวรักษ์ให้ปากคำต่อศาลได้ขอให้ศาลยกข้อหา โดยยืนยันไม่ได้จารกรรมข้อมูลตามที่ถูกกล่าวหา แม้จะโทรศัพท์พูดคุยกับ นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกของสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญจริง แต่เป็นเพียงการยืนยันว่าเที่ยวบินเช่าเหมาลำลงจอดแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่าพ.ต.ท.ทักษิณ โดยสารมาในเที่ยวบินดังกล่าว

"นายศิวรักษ์มีความผิดจริงในข้อหาสอดแนมข้อมูลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างการเดินทางเยือนกัมพูชาเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยการส่งข้อมูลเกี่ยวกับกำหนดการของเที่ยวบินให้กับสถานทูตไทย เนื่องจากข้อมูลการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าเป็นความลับ การนำข้อมูลไปเปิดเผยต่อผู้อื่นจึงเป็นการฝ่าฝืนข้อปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัยสำหรับบุคคลสำคัญ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชา ดังนั้นกัมพูชาจึงมีพันธกรณีที่จะให้การดูแลรักษาความปลอดภัยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และกำหนดการเที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรัฐบาลไทย แต่ขณะเดียวกันข้อมูลดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อ พ.ต.ท.ทักษิณได้

ดังนั้นถือว่านายศิวรักษ์มีความผิดเกี่ยวกับการละเมิดความมั่นคงแห่งชาติและความปลอดภัยของสาธารณะ ต้องโทษจำคุก 7 ปีและปรับเป็นเงิน 10 ล้านเรียล หรือราว 85,000 บาท ซึ่งถือเป็นโทษที่ต่ำสุดสำหรับข้อหาดังกล่าว แม้นายศิวรักษ์ขอให้ศาลยกข้อหา เพราะไม่ได้จารกรรมข้อมูลใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกของสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญจริง แม้จะระบุว่าเป็นเพียงการยืนยันว่าเที่ยวบินเช่าเหมาลำลงจอดแล้ว โดยที่ไม่ได้รับรู้เลยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โดยสารมาในเที่ยวบินดังกล่าว"

ก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์เวลาประมาณ 08.00 น. โดยนางสิมารักษ์ ณ นครพนม และนายพงษ์สุรีย์ ชุติพงษ์ มารดาและน้องชายของนายศิวรักษ์ รวมถึงนายชโลธร เผ่าวิบูลย์ อุปทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล และนายเขียว สัมโบ ทนายความคนใหม่ เดินทางไปร่วมฟังการพิจารณาคดีด้วย โดยมีทั้งสื่อมวลชนและเพื่อนร่วมงานนายศิวรักษ์มารอลุ้นคำตัดสินจำนวนมาก

ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. นายศิวรักษ์ให้การยืนยันว่า ไม่ได้สนิทกับนายคำรบ แค่รู้จักกันเมื่อ 2 ปีก่อน และแทบไม่ได้ติดต่อกันเลย โดยวันเกิดเหตุนายคำรบโทรศัพท์มาสอบถามว่า เที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ บินมาถึงจริงหรือไม่ ซึ่งตนมีสิทธิรับรู้ข้อมูลดังกล่าวอยู่แล้ว จึงเดินไปถามเจ้าหน้าที่ของกัมพูชาและยืนยันว่ามาจริง พร้อมเจ้าหน้าที่ได้สำเนาข้อมูลดังกล่าวให้เองด้วย จึงยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจารกรรมข้อมูลการบินแต่อย่างใด แต่ถือว่าเป็นการทำงานตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการเบิกความของนายศิวรักษ์กว่า 1 ชั่วโมง นายศิวรักษ์มีสีหน้าและกำลังใจที่ดีมาก และตอบคำถามอย่างชัดเจน ขณะที่นางสิมารักษ์ที่เข้าฟังการพิจารณาคดีด้วยนั้น มีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา