WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, December 11, 2009

แนวโน้ม "ขออภัยโทษ" ทางเดียวช่วย "ศิวรักษ์" สะท้านสะเทือน รบ.ไทย

ที่มา มติชน



หลังจากศาลกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พิพากษาว่า "ศิวรักษ์ ชุติพงษ์" วิศวกรไทยบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด หรือแคทส์ บริษัทในเครือสามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ...มีความผิดจริง

กรณี "สอดแนม" นำข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างเดินทางเยือนกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ให้กับสถานทูตไทย

ถือเป็นความผิดร้ายแรง ที่เป็นการละเมิดต่อความมั่นคงแห่งชาติของกัมพูชา

ต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับเป็นเงิน 10 ล้านเรียล หรือ 85,000 บาท

ในกรณีดังกล่าว ไม่ว่า "ศิวรักษ์" จะทำไปโดยเจตนา หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ตาม

แต่ ณ วันนี้ ต้องยอมรับว่า ทุกอย่างสิ้นสุดแล้ว ตามคำพิพากษาของศาลกัมพูชา

การหา "ข้อเท็จจริง" ต้องเป็นสเต๊ปต่อไปว่า "ใครกันแน่" ที่อยู่เบื้องหลังในการขอข้อมูลตารางการบินจาก "ศิวรักษ์"

ผ่านเลขานุการเอกประจำสถานทูตไทยในกัมพูชา ที่ชื่อ "คำรบ ปาลวัฒน์วิไชย"

เพราะข้อมูลตำรวจกัมพูชาระบุชัดว่า "นายคำรบขอข้อมูลตารางการบิน เพื่อเตรียมนำเครื่องบินเอฟ 16 ควบคุมเครื่องบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ลงจอดขณะบินผ่านน่านฟ้าไทย"

เวลานี้ สิ่งที่ รัฐบาล และ ฝ่ายค้าน ในฐานะคนไทย ควรพึงกระทำอย่างยิ่งก็คือ หาทางช่วยเหลือ "ศิวรักษ์"

จงอย่าเอากรณี "ศิวรักษ์" มาเป็น "เหยื่อ" แห่งเกมอำนาจ ที่โยนความผิดให้ศัตรูคู่อาฆาต กันไปมา

ฝ่ายรัฐบาลควร "หยุด" ที่จะมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ รับเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชา และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางไปกัมพูชา

เช่นกัน ฝ่ายค้านก็ควร "หยุด" ที่จะมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะการตั้ง "กษิต ภิรมย์" เป็น รมว.ต่างประเทศ และรัฐบาลไทย มีคำสั่งให้ไปเอาตารางการบินมาดู

เพราะไม่ว่า ใครจะโทษใคร หรือ ใครจะกล่าวหาใคร ว่าเป็น "ต้นตอแห่งปัญหา"

ก็ไม่สามารถกลับคำพิพากษาได้

"ศิวรักษ์" ต้องรับโทษ

ซึ่งนับจากนี้ มี 2 ทางเลือกที่จะช่วยให้ได้รับอิสรภาพ

หนึ่ง ยื่นอุทธรณ์ตามขั้นตอนปกติของศาล

สอง ยอมรับในการกระทำความผิด เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ

หากแต่การยื่นอุทธรณ์ตามขั้นตอนปกติของศาล อาจต้องใช้เวลานาน

และระหว่างการอุทธรณ์ "ศิวรักษ์" ก็ยังต้องถูกจองจำ

ตรงจุดนี้ ทำให้ผู้เป็นแม่ "สิมารักษ์ ณ นครพนม" เลือกใช้วิธี "ขอพระราชทานอภัยโทษ" มากกว่าการ "อุทธรณ์"

เพราะเชื่อว่า จะได้ผลตอบรับที่ดีกว่า โดยขอความช่วยเหลือผ่าน พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ที่มีสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชา

ซึ่ง "สิมารักษ์" ก็รู้ดีว่า หากเธอเลือกหนทางดังกล่าว จะต้องถูกมองว่า เป็นตัวเอกในละครเรื่องดังที่ถูกสร้างขึ้นโดย "ทักษิณฮุน เซน"

แต่สำหรับ "หัวอก" คนเป็นแม่ ก็จะต้องเลือกทางที่ดีที่สุดให้ลูก

ซึ่งเธอก็อ่านเกมออก

"กระทรวงการต่างประเทศมีความขัดแย้งกับรัฐบาลกัมพูชา เกรงว่าจะเป็นอุปสรรคที่จะทำให้คดีเกิดความล่าช้าได้ แต่เราก็ไม่ทิ้งความช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศ"

เป็นความรู้สึก "ยากลำบาก" อย่างยิ่งของคนเป็นแม่

ที่คงไม่ได้สนใจว่า จะตกเป็นเครื่องมือของสมเด็จฯฮุน เซน และ พ.ต.ท.ทักษิณ

คงไม่ได้สนใจว่า จะตกเป็นเครื่องมือของเลขานุการเอก และคนในรัฐบาลไทย

เพียงแค่ขอช่วยให้ลูกชายได้รับ "อิสรภาพ"

ก็เท่านั้น...

จริงอยู่หาก "สิมารักษ์" เลือกการขอพระราชทานอภัยโทษ

เท่ากับว่า "ยอมรับความผิด" ที่เกิดขึ้น..?

หากแต่ "ผล" คงไม่กระทบกระเทือนต่อครอบครัว "ศิวรักษ์" มากเท่ากับ "ผลกระทบ" ที่จะเกิดขึ้นกับรัฐบาลไทย

เพราะนั่นเท่ากับเป็นการ "ยืนยัน" ว่า การกระทำของเลขานุการเอกสถานทูตไทยประจำกัมพูชา ในการขอดูตารางการบิน...เป็นเรื่องจริง

และยังเท่ากับ "ยืนยัน" ว่า การดูตารางการบิน เพื่อเตรียมนำเครื่องบิน เอฟ 16 ควบคุมเครื่องบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ลงจอด ขณะบินผ่านน่านฟ้าไทย...ก็เป็นเรื่องจริง

จุดนี้เป็น "หน้าที่" ของรัฐบาล ที่จะต้องอธิบายต่อสังคมทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ ในอนาคต

แต่ ณ เบื้องหน้า เวลานี้ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านมีภารกิจร่วมกันที่สำคัญคือ ช่วยเหลือ "ศิวรักษ์"

ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ โดยใช้สายสัมพันธ์ส่วนตัวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต มีต่อผู้นำกัมพูชา หรือการช่วยเหลืออย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทย ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ

ทุกฝ่ายต้องหยุดเล่นเกมการเมือง เพื่อช่วยเหลือ "ศิวรักษ์" อย่างเต็มที่

"ศิวรักษ์" ที่เป็น "เหยื่ออันโอชะ" ทางการเมืองของทั้งสองฝ่าย

"เหยื่ออันโอชะ" ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ในฐานะ "คนไทย" เฉกเช่น "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" และ "ทักษิณ ชินวัตร"