WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, December 7, 2009

“มันเลยไปแล้ว”เรากำลังเลยไปไหนกัน?

ที่มา โลกวันนี้

คอลัมน์
คิดเหนือข่าว
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 11 ฉบับที่ 2688 ประจำวัน จันทร์ ที่ 7 ธันวาคม 2009
โดย เรืองยศ จันทรคีรี

แม้ตัดออกมาเป็นประโยคสั้นๆผมก็ยังชอบการพูดถึงปัญหารัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ของ ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ท่านพูดเอาไว้มาร่วมเดือนกว่าได้แล้วกระมัง?...ดร.วรเจตน์พูดเต็มๆว่า “มันเลยไปแล้ว เราสร้างปมขึ้นมาขมวดกันจนยุ่งเหยิงขนาดนี้ ผมเห็นว่าเลยมาแล้ว ผมก็นั่งดูแล้วครับตอนนี้ ผมไม่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรกันได้...เราอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะหักเลี้ยวออกไปทางไหน อย่างไร?”

ก่อนหน้านั้น ดร.วรเจตน์ยังเคยให้ความเห็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งมันจะนำพาประเทศไปสู่ทางตัน เพราะมันเป็นปัญหา เป็นตัวกติกาในแบบที่ไม่มีการยอมรับ และที่สุดจะต้องแก้ และก็จะมีคนไม่อยากให้แก้” ดร.วรเจตน์ นักกฎหมายมหาชน เคยยืนยันมานานแล้วถึงรัฐธรรมนูญฉบับนี้...มันไม่ใช่เพียงแก้ไข 6 ประเด็น แต่ต้องทำใหม่ทั้งฉบับ!

จับประเด็นขึ้นมาเขียนเพราะผมรู้สึกจั๊กจี้หัวใจเมื่อคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) ได้หยิบเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง...ก็เป็นอะไรอย่างหนึ่งของการเล่นเกมที่เจ้าเล่ห์และชาญฉลาด คุณอภิสิทธิ์โยนไฟกองนี้กลับคืนไปตรงฝ่ายค้านอีกรอบ “วันนี้ยังแปลกใจว่า เขาบอกว่าถ้าแก้รัฐธรรมนูญจะเหมือนเป็นการยืดเวลา ความจริงถ้าฝ่ายค้านเดินมาตกลงกันป่านนี้ก็เดินไปได้แล้ว ถ้าไม่เดินก็จะมีปัญหาอีก”

แม้คุณอภิสิทธิ์ยืนยันหนักแน่นเกี่ยวกับตัวเอง ซึ่งไม่เคยมีประวัติในการหลอกใคร? แล้วเชื่อว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้คิดยื้อเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ...แต่เราพิจารณารูปการต่างๆ ที่ผ่านมาก็ยังเห็นประเด็น 6 ประเด็นคงเป็นเรื่องลับ-ลวง-พรางและขี้ฉ้อบวกขี้ฮกเสียทั้งนั้น ลองดูในตอนนี้ ขณะที่คุณอภิสิทธิ์พูดว่า 6 ประเด็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมันไม่ใช่ทั้งเรื่องของรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่เป็นประเด็นที่กรรมการทุกฝ่ายตกลงกันแล้วก็ควรทำประชามติ

...วันนี้คุณอภิสิทธิ์ผู้ซึ่งยืนยันว่าตัวเองไม่เคย “หลอกใคร?” ได้พูดไปแบบนี้ ถ้าเราย้อนความทรงจำกลับไป 2-3 เดือนเท่านั้นจะเห็นว่า นายกรัฐมนตรี “เกราะอ่อน” ยังเคยทึกทักตีขลุมที่จะให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตอนนั้นฝ่ายรัฐสภาเขายืนยันถึงความชอบธรรมที่จะเสนอแก้ไขตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับนี้เอง แต่ฝ่ายรัฐบาลโยกเยกตามสไตล์ ยกเรื่องทำประชามติเอามาเป็นข้ออ้าง

มาวันนี้คุณเกราะอ่อนพูดไปอีกแนว...สไตล์เล่นการเมืองแบบวนรอบเก้าอี้ เปลี่ยนประเด็นพูดวนแล้วเวียนเทียนหาเหตุผลไปเรื่อยๆ อันนี้ดูจะเป็นอาวุธลับของนายกรัฐมนตรี พอไปเรื่องโน้นไม่ได้ก็โหนย้อนกลับมาเรื่องเดิม พูดวนๆไปแบบจะเอาจริง...แต่ที่ไหนได้ครับ เขามีธงอยู่เพียงการพูด?

นายกฯเกราะอ่อนอันที่จริงคงรู้ดีอยู่แล้วว่าเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญฝ่ายค้านได้มีจุดยืนและหลักการชัดเจน เคยแถลงเสมอๆสำหรับความต้องการเรียกร้องรัฐธรรมนูญ 2540 เอากลับคืนมา...อย่างอภิสิทธิ์หรือไปอ่านเกมไม่ออก? แต่ใช้ตรงนั้นมาพูดใหม่ให้เป็นข้อได้เปรียบหวังชิงแต้มทางการเมือง? ตรงนี้เท่ากับเป็นการอัดข้างฝาพรรคเพื่อไทยโดยตรง หว่านล้อมให้สังคมเห็นคล้อยตามว่าเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่ไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550

...นายกฯเกราะอ่อนยังใส่ยาพิษน้ำผึ้งขมเข้าไปมากกว่านั้นอีก โจมตีแบบเสียดสีลึกๆเหมือนอิตถีนารีเพศในภาพยนตร์โทรทัศน์ชุดบัลลังก์แสงจันทร์ สรุปเอาเองว่า “...ถ้าหากยังไม่มาทำอย่างนี้ ก็คงตีความได้อย่างเดียวว่าเป็นเรื่องของการต้องการอื่นมากกว่า ไม่ใช่เรื่องประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวของบางคน ซึ่งถ้าเราไปยอมก็ไปเปิดประตูให้เกิดปัญหามากมายในอนาคต...” นี่คือนายอภิสิทธิ์ผู้เป็นโฆษกใหญ่ของอำมาตยาธิปไตย!?

อ่านทางของนายกฯเกราะอ่อนแล้วเข้าใจได้ชัด “พูดไปงั้นๆแหละเพราะยังมีลิ้นกระดกได้อยู่...” ถ้าถือตาม ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ วิเคราะห์เอาไว้ เราต้องจัดกลุ่มให้นายอภิสิทธิ์เป็นสมาชิกหลักในฟากข้างของผู้ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับกลิ่นเหงื่อและคราบไคลขาหนีบของ คมช.

เป็นเรื่องน่าทบทวนทางความคิดจริงๆ ขณะที่ปัญหาวิกฤตต่างๆในสังคมไทยมันเป็นเนื้อหาไปไกลกว่ารัฐธรรมนูญ 2540 เสียอีก แต่เรายังต้องทนอยู่กับรัฐบาลที่ยึดติดแน่นกับรัฐธรรมนูญ 2550 เพียงเขี่ยออกไป 5-6 มาตราก็ไม่ยอมอยู่แล้ว...วิกฤตของประเทศที่ไปไกลระดับต้องออกแบบรัฐ ออกแบบระบบการปกครองใหม่ให้สอดคล้องกับโลกาภิวัตน์ มันเลยไปแล้วจากรัฐธรรมนูญทั้ง 2550 หรือ 2540...ถามว่าบ้านเมืองจะไปกันยังไง? แล้วเรายังจะต้องเอานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปไว้เสียที่ไหนดี? หรือส่งกลับเวียดนาม?