ที่มา thaifreenews
โดย ป้าพลอย
"ชวน"คาใจพท.รู้คำพิพากษาลว่งหน้า
ศาลชั้นต้นของกัมพูชาพิพากษาจำคุก 7 ปี ปรับ 1 ล้านเรียล(ประมาณ 1 แสนบาท) นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย พนักงานบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส เซส หรือแคทส์ บริษัทในเครือสามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมฐานจารกรรมข้อมูลการบิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา ในข้อหา"การได้มาซึ่งข้อมูลลับ อันมีผลต่อความมั่นคงของชาติ" หลังนายศิวรักษ์ ถูกควบคุมตัวในเรือนจำเพย์ซอ ในกรุงพนมเปญมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2552
ศาลเขมรสอบศิวรักษ์-พยาน3ชม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการตัดสินคดีดังกล่าว เมื่อเวลา 8.15 น. วันที่ 8 ธันวาคม ที่ห้องพิจารณาคดีของศาลพนมเปญ ศาลฯได้สอบปากคำของนายศิวรักษ์ และพยานอีก 2 ปาก นาน 3 ชั่วโมง โดยนายศิวรักษ์ ซึ่งถูกเบิกตัวมาจากเรือนจำเพย์ซอ ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้จารกรรมข้อมูลตารางบินของพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอก ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ มาเกือบ 2 ปี แต่สนิทสนมกัน และไม่ได้ติดต่อกันเลย
ปัดจารกรรมตารางบิน"ทักษิณ"
อย่างไรก็ตามนายศิวรักษ์ ยอมรับว่าเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายา เวลา 9.00 น.ได้มีการคุยโทรศัพท์กับนายคำรบจริง เป็นการโทรมาสอบถามเกี่ยวกับเครื่องบินวีไอพีที่จะเดินทางมาลงที่สนามบิน กัมพูชาว่าเป็นเครื่องบินของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ซึ่งตนไม่ทราบว่าจึงได้สอบถามเพื่อนชาวกัมพูชาที่ทำงานฝ่ายวิทยุการบินในบริ วํทเดียวกัน และเพื่อนได้ส่งก๊อปบี้ตารางบินให้ แต่ตนไม่ได้ส่งต่อให้นายคำรบ เพียงแต่แจ้งให้ทราบเพียงว่าเป็นเครื่องแบบวีไอพีหลังจากที่เครื่องบินดัง กล่าวลงจอด20 นาทีแล้ว ทั้งนี้การสอบถามเพื่อนชาวกัมพูชาไม่ได้เป็นความลับ ถือเป็นเรื่องปกติของการทำงานที่ตนเป็นวิศวกรควบคุมการบิน ขณะที่เพื่อชาวกัมพูชา พนักงานบริษัทแคทส์ ระบุว่าเอกสารตารางบินไม่ใช่เอกสารลับ แต่ก็ไม่ควรนำออกไปเผยแพร่
ตร.เขมรงัดเทปลับโยงรบ.ไทยสั่งการ
จากนั้นศาลกัมพูชาได้เรียกสืบพยานฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่จับกุมตัวนายศิวรักษ์ต่อ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การว่ามีหลักฐานเป็นเสียงพูดคุยระหว่างนายศิว รักษ์และนายคำรบ และมีสายโทรศัพท์ของนายคำรบกับประเทศไทยหลายครั้งและหลายหมายเลข ซึ่งเชื่อมโยงว่ามีคำสั่งจากนอกประเทศเพื่อสั่งการให้นายศิวรักษ์ ดำเนินการหาข้อมูล
หลังสอบปากคำเสร็จสิ้นศาลพนมเปญ ได้นัดอ่านคำพิพากษาในเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนกัมพูชาและสื่อมวลชนไทยจำนวนมาก บรรยากาศในห้องพิจารณาคดีผู้สน ใจเข้าฟังเต็มห้อง ซึ่งนางสิมารักษ์ น้องชาย และเพื่อนร่วมงานของนายศิวรักษ์ เข้าไปให้กำลังใจตั้งแต่เช้า โดยนั่งบนเก้าอี้แถวที่สอง ห่างจาก นายศิวรักษ์ เพียง 2 เมตร และตลอดการพิจารณาคดี นางสิมารักษ์ สีหน้าเคร่งเครียดตลอด ขณะที่ตลอดการเบิกความของนายศิวรักษ์ ที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง นายศิวรักษ์ มีสีหน้าและกำลังใจที่ดีมาก และตอบคำถามได้อย่างชัดเจน
แม่โฮศาลสั่งจำคุก7ปีปรับ10ล.เรียล
ต่อมา เวลา 16.30 น. นายเค สกาน หัวหน้าคณะผู้พิพากษาของศาลกรุงพนมเปญ อ่านคำพิพากษาระบุว่า นายศิวรักษ์มีความผิดจริงเกี่ยวกับการละเมิดความมั่นคงแห่งชาติและความ ปลอดภัยของสาธารณะ ที่สอดแนมข้อมูลเที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางเยือนกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมาให้กับสถานทูตไทย ซึ่งข้อมูลการเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณถือว่าเป็นความลับ การนำข้อมูลไปเปิดเผยต่อผู้อื่นเป็นการฝ่าฝืนข้อปฏิบัติในการรักษาความ ปลอดภัยบุคคลสำคัญ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา และได้รับการแต่งตั้งจากพระมหา...กัมพูชา ถือว่านายศวิรักษ์ มีความผิด ต้องโทษจำคุก 7 ปีและปรับเป็นเงิน 10 ล้านเรียล หรือราว 1 แสนบาท
นายเค สกาน กล่าวว่า ระหว่างนายศิวรักษ์ให้ปากคำต่อศาลได้ขอให้ศาลยกข้อหา โดยยืนยันไม่ได้จารกรรมข้อมูลตามที่ถูกกล่าวหา แม้จะโทรศัพท์พูดคุยกับ นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกของสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญจริง แต่เป็นเพียงการยืนยันว่าเที่ยวบินเช่าเหมาลำลงจอดแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่าพ.ต.ท.ทักษิณ โดยสารมาในเที่ยวบินดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่ฟังคำพิพากษา นางสิมารักษ์ ถึงกับร่ำไห้ทันที ส่วนนายศิวรักษ์ ถูกนำตัวไปควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำเพย์ซอ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการกฏหมายของกัมพูชาต่อไป
กต.พร้อมยื่นอุทธร์-ขออภัยโทษ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังทราบผลการตัดสินคดีนายศิวรักษ์ของศาลกัมพูชา ว่า กระทรวงต่างประเทศพร้อมช่วยเหลือต่อ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการ 2 ทางเลือก คือ 1.ยื่นอุทรในชั้นศาลต่อไปตามกระบวนการยุติธรรม 2. หากไม่ยื่นอุทรแสดงว่ายอมรับการตัดสิน รัฐบาลจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษทันที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาของนายศิวรักษ์ ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นพระราชทานอภัยโทษให้นั้น ก็เป็นสิทธ์ที่สามารถทำได้
ปัดเป็นรองพท.ช่วยศิวรักษ์ช้า
เมื่อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศตกเป็นรองพรรคเพื่อไทยหรือไม่ในการดำเนิน การให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ นายชวนนท์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างต็มที่ และไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือจากฝ่ายใด แต่ถ้าใครจะใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องการให้มีความจริงใจ
ยันรบ.ไม่เสียหน้าถูกเมินขอช่วย
ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ โดยนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้มอบหมายให้อุปทูต ไทยประจำกรุงพนมเปญไปสอบถามกับมารดานายศิวรักษ์ว่าจะทำเรื่องขอพระราช ทานอภัยโทษหรือไม่ ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมหนังสือขออภัยโทษไว้แล้วนั้น อยากถามว่าพรรคเพื่อไทยเป็น ญาติกับนายศิวรักษ์หรือ เพราะการขออภัยโทษของกัมพูชาก็เหมือนของไทยคือต้องให้ญาติสนิทเป็นผู้ขอเท่า นั้น หากมารดานายศิวรักษ์เลือกใช้บริการพรรคเพื่อไทย รัฐบาลก็ไม่ถือว่าเสียหน้าอะไร เพราะหน้าที่ของรัฐบาลรวมถึง กระทรวงการต่างประเทศมีเพียงการอำนวยสะดวกให้การต่อสู้คดีเป็นไปด้วยความ เรียบร้อย
"สิมารักษ์"หวังพึ่ง"จิ๋ว-แม้ว"ช่วยลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวภายหลังทราบผลการตัดสินของศาลกัมพูชา โดยนางสิมารักษ์ ณ นครพนม ได้โฟนอินมาร่วมแถลงข่าวกับนายพร้อมพงศ์ด้วย โดย นางสิมารักษ์ ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ จากนี้ไปคงไม่มีที่พึ่งไหนอีกแล้ว จึงอยากขอความช่วยเหลือจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ช่วยลูกชายให้ได้รับอิสรภาพโดยการขอพระราชทานอภัยให้
ซึ่งนายพร้อมพงศ์ ได้กล่าวว่า ขอให้นางสิมารักษ์คัดสำเนาคำพิพากษาส่งมาให้พรรคเพื่อไทยเพื่อนำมาหารือกับ ฝ่ายกฎหมาย พล.อ.ชวลิต และนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ โดยนางสิมารักษ์ ได้ตอบว่า ได้คุยกับทนายความแล้วว่าจะสามารถทำสำเนาได้ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ขอฝากเรียนพล.อ.ชวลิตอีกครั้งให้ช่วยตนและลูกด้วย เพราะสภาพจิตใจของตนตอนนี้สุดๆแล้ว ยิ่งเห็นลูกถูกพันธนาการ น้ำตามันกลั้นไม่อยู่
จี้"คำรบ"รับผิดชอบทำลูกรับกรรม
นางสิมารักษ์ ยังเรียกร้องความรับผิดชอบจากนายคำรบ ปาลวัฒน์วิชัย เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทยในกัมพูชา ว่าเวลานี้อยู่ที่ไหน ถ้าไม่โทรศัพท์มาหาลูกชาย ก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ ลูกตนเป็นผู้บริสุทธิ์ จะให้มารับกรรมแทนท่านหรือ ขอให้ออกมารับผิดชอบด้วย ที่ผ่านมาตนอดกลั้นมานาน มาเคยปริปากพูดว่าใครเป็นต้นเหตุให้ลูกต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่วันนี้ลูกอยู่ในสภาพถูกใส่กุญแจมือ ตนทนไม่ไหว และรับไม่ได้จริงๆ
เมินบัวแก้ว-ไม่ยื่นอุทธรณ์กลัวช้า
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้ทนายความยื่นขอพระราชทานอภัยโทษทันทีเลยหรือไม่ นางสิมารักษ์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยรายละเอียด แต่เบื้องต้นจะไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีจะได้ไม่ยืดเยื้อออกไปอีก เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศก็จะยื่นพระราชทานอภัยโทษให้ด้วยเช่นกัน นางสิมารักษ์ กล่าวว่าจะหารือกับทนายก่อน เพราะเวลานี้ฝากความหวังไว้ที่ทนาย พล.อ.ชวลิต พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย ขณะนี้มีความขัดแย้งมากไม่อยากให้ใช้นายศิวรักษ์มาเป็นต้นเหตุของความขัด แย้งทางการเมือง
เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่สามารถช่วยเหลือได้ใช่หรือไม่ นางสิมารักษ์ ตอบว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศมีความขัดแย้งกับประเทศกัมพูชา เกรงว่าจะเป็นอุปสรรคส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าได้ ตนคำนึงถึงอิสรภาพของลูกก่อนอื่น เพราะคนที่มีปัญหากันแล้วไปเจรจากัน โอกาสที่จะได้คุยกันก็คงลำบาก อยากให้สงสารครอบครัวตนด้วย
ต่อสายคุยฮุนเซนช่วยขออภัยโทษ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันจะให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ตามหลักมนุษยธรรมอย่างเต็ม ที่ และยืนยันว่าจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา เคารพการตัดสินของกัมพูชา แต่จะขอความอนุเคราะห์จากสมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้ขอพระราชทานอภัยโทษให้ โดยจะรอสำเนาคำพิพากษาของศาลกัมพูชาเพื่อมาหารือกับฝ่ายกฎหมาย และพล.อ.ชวลิต และนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฏหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ต่อไป และอยากขอกราบวิงวอนนักการเมืองไม่ว่าจะเป็นขั้วไหนอย่านำความช่วยเหลือตรง นี้ไปบิดเบือนเป็นประเด็นการเมือง
ตบหน้ารบ.อยากช่วยให้อยู่นิ่งๆ
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นางสิมารักษ์ ยังฝากบอกตนว่าหากกระทรวงการต่างประเทศอยากช่วยเหลือ ก็ขอให้อยู่นิ่งๆ รวมทั้งนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ก็ขอให้อยู่นิ่งๆ และตอนนี้นางสิมารักษ์ก็ไม่ขอพักในสถานทูตที่กระทรวงต่างประเทศจัดให้ด้วย แต่ขอไปพักที่โรงแรมต่างหาก
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฏหมายพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไหม่ได้มีส่วนตัดสินใจให้มารดานายศิวรักษ์ทำอะไร แต่เป็นเพียงให้คำปรึกษาตามที่ร้องขอ ที่ผ่านมาไม่สบายใจที่พรรคเพื่อไทยถูกมองว่าเดินเกมการเมือง ดังนั้นหากมารดาของนายศิวรักษ์ต้องการให้พรรคช่วยเหลือลูกชายอีกก็ต้องมีการ ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อครหาอีก
"ชวน"เหน็บมีคนรู้คำพิพากษาก่อน
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าไม่ขอวิจารณ์คดีนายศิวรักษ์ เพราะระบบศาลเขมรเป็นคนละระบบกับบ้านเรา ส่วนการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ถือว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ทำอย่างดีที่สุด แล้ว แต่ที่มารดานายศิวรักษ์จะไม่อุทธรณ์แต่จะพึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ให้ช่วยขอพระราชทานอภัยโทษให้บุตรชายนั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่เขาก็พูดออกมาก่อนไม่ใช่หรือว่าจะถวายฎีกา เหมือนรู้คำพิพากษามาก่อน ก็ยังแปลกใจว่า ศาลยังไม่พิจารณาเลย หรือเขาเผื่อไว้ก่อน ก็ไม่แน่ใจ ก็ไม่ทราบ
กรีดซ้ำสู้ให้พ้นผิดหรือแค่พ้นโทษ
"ปัญหาอยู่ที่ผู้ต้องหาด้วยว่าต้องการที่จะสู้ให้พ้นผิด หรือสู้เพื่อให้พ้นโทษ หมายถึงว่า ถ้าต้องการพิสูจน์ว่าไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา ก็แสดงว่าคดียังไม่ถึงที่สุด ก็มีสิทธิยื่นอุธรณ์ต่อศาลสูงไปอีก ศาลท่านอาจตัดสินยืน หรือกลับคำพิพากษาก็ได้ แต่ถ้าไม่อุทธรณ์ก็แสดงว่ายอมรับผิด ก็ถือว่าผิด ส่วนการขอพระราชทานอภัยโทษ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะคำตัดสินความผิดยังมีปรากฏในคำพิพากษาต่างๆหมดแล้ว" นายชวนกล่าว
ปลัดกห.ชี้พท.ช่วย"การเมือง"
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยว่า พรรคเพื่อไทยทำเพื่อการเมืองของพรรคเพื่อไทย ส่วนจะเป็นการจัดฉากหรือไม่นั้น ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ เมื่อถามว่า จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.อภิชาติ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามดูแลปัญหาเรื่องนี้อย่างเต็มความสามารถ คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้รัฐบาลทำงานตามหน้าที่