WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, April 18, 2010

ปลอดประสพ สุรัสวดี ศักดินา-อำมาตย์-เศรษฐีที่ดิน เทใจร่วมจ่ายต้นทุน-เลือกข้างไพร่

ที่มา thaifreenews


โดย Porsche


ปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ไปร่วมมั่วสุมชุมนุมทางความคิดทุกวัน

ช่วงเช้าถึงบ่าย เขาอยู่ที่ตึกบีบีดี บิวดิ้ง ย่านพระราม 4 เพื่อประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเมืองของพรรคเพื่อไทย

กลางวัน บางวัน เขาไปออกกำลังกายในดงผู้ดี ที่สปอร์ตคลับหรูหรา ปะปน ชนชั้นสูง

ช่วงค่ำ บางคืน "ปลอดประสพ" ไปปรากฏตัวหลังเวที "โค่นอำมาตย์-ยุบสภา" เป็นกำลังใจให้กลุ่ม "เสื้อแดง-นปช."

เมื่อเสื้อแดงบุกปิดราชประสงค์ เขาทำหน้าที่ "เจ้าที่ดิน" รายใหญ่ เดินสำรวจกำลังซื้อพวกกลุ่มเศรษฐีและชาวไพร่ย่านประตูน้ำ

เขายอมรับเป็นอำมาตย์ตัวพ่อในพรรคเสื้อแดง

เขาเกรงว่าบางคำ-บางประโยคของเขาอาจทำให้พวก "ผู้ดี" หมั่นไส้

บรรทัดจากนี้ไป ออกจากใจ "ปลอดประสพ" ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย

- ในฐานะเจ้าของที่ดินรายใหญ่ย่าน ราชประสงค์
ประเมินผลกระทบเนื่องจากการชุมนุมของคนเสื้อแดงอย่างไรบ้าง


คืองี้นะ...ถ้าตอบตามที่คุณถาม ผมก็ต้องตอบว่ามีความเสียหาย
แต่มีสิ่งที่ต้องอธิบาย เพราะคนที่มาชุมนุม เขาคง ไม่อยากมา ถ้าไม่อัดอั้นตันใจ หรือไม่มี หลักการ
แต่เหตุที่เขามา
เพราะมีความรู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของประเทศชาติ เขาควรได้รับสิทธิ์ที่เขาไม่ได้รับ เขาอยากจะมีโอกาสทำให้ลูกหลานเขามีความเจริญเติบโตขึ้นเข้มแข็ง เขามาก็ลำบากอย่างที่คุณเห็น
คุณต้องคำนึงว่า ผู้ที่เขามาเขาเสียหายแค่ไหน
ถ้าไปสัมภาษณ์จะเห็นได้ว่า บางคนปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ปิดร้านขายของ ไม่ขับรถแท็กซี่ ไม่ขับรถมอเตอร์ไซค์ นั่นคือความเสียหายของผู้มาชุมนุม แต่เขามองความเสียหายของเขานั้นเป็นความเสียสละ

การประท้วงทางการเมืองที่ไหนก็ตามในโลก
เขามาแสดงออก เท่า ๆ กับมากดดันให้เกิดสิ่งที่เขาเรียกร้อง สิ่งที่เขากดดันมันมีหลายทาง เช่น กดดันให้เกิดความไม่สะดวกให้ฉุกคิด กดดันเพื่อให้ต้องมาปวดหัวกับเขา เพื่อให้รับรู้ว่ามีคนลำบาก หรือกดดันให้เห็นว่ายังมีคนอย่างนี้อยู่นะ เพราะฉะนั้น การที่มาแล้วเกิดความเสียหาย ก็ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นลักษณะธรรมชาติของการประท้วงทางการเมือง ซึ่งทุกคนต้องยอมรับ

การชุมนุมที่ราชประสงค์ในวันต้น ๆ ทุกคนก็ตกใจ
เพราะมีคนมาชุมนุมเป็นหมื่นและไม่รู้จักมักจี่ ห้างก็ปิดเพื่อความปลอดภัย ก็ต้องเสียหายแหง ๆ
แต่เมื่อเขาตั้งหลักได้ และเขารู้ว่าผู้มาคือใคร มีพฤติกรรมยังไง ความเสียหายมันก็จะชะลอลง
อย่างวันนี้ ร้านส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมดเปิด ก่อนหน้านี้วันสองวัน เปิดเป็นบางร้าน เพื่อทดลอง เช่น
บิ๊กซี เปิดวันหนึ่ง แล้วประชุมบอร์ด แล้วถึงเปิดต่อ และเซ็นทรัลเวิลด์ตัดสินใจเปิด
และเท่าที่ผมรู้ ทุกบริษัท ก่อนที่เขาจะเปิด เขาพยายามพูดคุยกับฝ่ายแกนนำ เพื่อให้แน่ใจว่าเข้าใจกันนะ บางครั้งผมได้ยินว่า หลังจากรับปากกันแล้วมีคำถามเล่นๆ ว่า ถ้าเกิดความเสียหายขึ้น คุณรับผิดชอบนะ ใครจะเป็นคนจ่ายสตางค์ อะไรอย่างงี้ แต่จนกระทั่งเขามั่นใจ แล้วเขาก็เปิดเต็มที่

เมื่อเปิดเต็มที่แล้ว ความเสียหายก็บรรเทาไปเยอะ แต่ก็ยังมีความเสียหายอยู่ คือ
ผู้ไปซื้ออาจจะไม่ convenience ไม่สะดวกใช่ไหม ไม่รู้จะเอารถไปจอดที่ไหน อะไร ยังไง นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ถ้าจำไม่ผิด ในสมัยก่อน คุณจะได้ยินคุณสนธิ (ลิ้มทองกุล) ขึ้นไปพูด (บนเวที) มีคนไปบ่นว่าปิดโน่น ปิดนี่ ปิดนั่น มีความเสียหาย คุณสนธิบอกว่า คนกรุงเทพฯต้องยอมรับว่ามีความเดือดร้อน
แต่ต้องยอมเดือดร้อน เพื่อที่จะรักษาราชบัลลังก์ เพราะภารกิจของคุณสนธินั้นยิ่งใหญ่ เป็นภารกิจในการรักษาราชบัลลังก์ นั่นคือสิ่งที่คุณสนธิออกมาพูด แล้วคนเชื่อ แล้วไม่ออกมาโต้แย้งอะไรมากนัก เพราะคนไทยทุกคนก็เคารพศรัทธาในราชบัลลังก์ ทั้ง ๆ ที่คุณสนธิเองก็ไม่ใช่ผู้จงรักภักดีอะไร วันเวลาก็พิสูจน์

มาถึงวันนี้ ทางเสื้อแดงก็อธิบายอย่างนี้เหมือนกันว่า ขอโทษด้วยนะ มันคงเสียหาย
แต่ขอให้เห็นใจเถอะ ถ้าจะเปลี่ยนแปลงทำให้สังคมประเทศชาติดีขึ้น ก็ต้องเสียสละ ยอมเสีย
เพราะฉะนั้นอย่าโกรธเลย นั่นคือคำอธิบายของคนเสื้อแดงในขณะนี้

ทีนี้กลับมาที่ตัวผม ให้มันใกล้ตัวนิดนึง ไม่ใช่ว่ามีปากก็พูดไปเรื่อย ๆ บังเอิญผมก็มีที่ดินอยู่แถว ๆ นั้น แต่อยู่ปลายออกไปหน่อยนึง
แต่ก็ไม่ใช่เล็กเลย เนื่องจาก เป้าหมายของที่ของผม เขาไม่ได้เล็งไปที่คนระดับสูง ไม่ใช่ 5 ดาว 7 ดาว
เพราะฉะนั้น ไม่เดือดร้อน คนเสื้อแดงก็ไป แล้วก็เป็น คนที่เราเคยชิน เห็นหน้าอยู่
เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาเป็นคนแปลกหน้า เราจึงไม่เสียหาย กลับได้ลูกค้าเพิ่ม
แต่บังเอิญ แถว ราชประสงค์เนี่ย เป็น 5 ดาว 7 ดาว
ซึ่งคนพวกนั้นก็ค่อนข้างระมัดระวังตัวอยู่แล้ว รถก็ราคาแพง แต่งตัวก็มีเครื่องแหวน เงินทองเยอะแยะ เดินไกล ๆ ก็ไม่ได้ เขาเรียกผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดิน แล้วก็ ไม่อยากโดนแดด ถือร่มก็แล้ว ทาหน้าก็แล้ว ก็เลยไม่ค่อยจะไป
เพราะฉะนั้น ความเสียหายย่อมมีเป็นธรรมดา ณ ที่ตรงนี้นะครับ

- การปิดสี่แยกราชประสงค์ ถ้าเทียบกับปิดสนามบิน ต่างกันอย่างไร

โอ้ย เรื่องปิดสนามบิน มันไม่ใช่แค่ความเสียหายตรงนี้นะครับ มันเป็น reputation เป็นหน้าตาของประเทศ
มีกฎหมายเฉพาะ กฎหมายเกี่ยวกับ terrorist ผู้ก่อการร้าย แล้วปิดสนามบินดอนเมือง
และสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นสนามบินนานาชาติ เมื่อเราประกาศเป็นสนามบินนานาชาติ เท่ากับประเทศไทยยอมบอกว่าส่วนหนึ่งไม่ใช่ของประเทศไทย
เพราะมีเครื่องบินส่วนหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับประเทศไทยเลย เขาบินมาเติมน้ำมัน บินมาเปลี่ยน transit แล้ววันหนึ่งประเทศไทยบอกว่า ไม่ใช่นานาชาติ เป็นของชาติฉัน
อย่างงี้มันไม่ได้โดยเด็ดขาด มันจึงได้เกิดความ เสียหายมากกว่านี้

แล้วอีกอย่าง ถ้าพลาดพลั้ง ตายนะ เครื่องบินตก ไม่มีเจ็บขานะ ไม่มีเมื่อยนะ ตายลูกเดียวนะ มันถึงได้เป็นความร้ายแรงอย่างยิ่ง ในขณะที่สี่แยกราชประสงค์ มันเป็นเรื่องแค่ความไม่สะดวก แค่ไม่สะดวกกับขายของได้น้อย

- ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการเสียหาย แต่ผู้ชุมนุมก็มีต้นทุนที่เสียไป

ครับ...ผมก็อยากให้มองอย่างงั้นนะ มันเป็น cost ถ้าเราจะพัฒนาประชาธิปไตย
ถ้ามองอย่างงั้นได้ มันก็จะดีนะ จะทำให้เกิดความสบายใจ

- เป็นต้นทุนที่ทุกฝ่ายต้องจ่ายกับเหตุการณ์ตรงนี้

ต้องจ่าย...คือยอมรับไหมล่ะว่า มีการ ปฏิวัติ แล้วหลังปฏิวัติ ประชาชนทะเลาะกัน ยอมรับไหมว่า ประชาธิปไตยของเรามันครึ่ง ๆ กลาง ๆ ยอมรับไหมล่ะครับว่า
สังคมไทยจริง ๆ ยังคงมีชั้นวรรณะอะไรอยู่พอสมควรนะ ถ้ายอมรับตรงนี้
ต้องถามว่า อยากเปลี่ยนแปลงไหมล่ะ ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง อันนี้ก็เป็น process เป็นกระบวนการของการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อยใช่ไหม ถ้าใช่ ก็ต้องแปลว่า ทุกคนได้ประโยชน์เหมือนกัน

- พูดอย่างงี้ได้ไหมว่า cost ของผู้ชุมนุมราคาถูกกว่า

ก็ได้ คือถ้าจะมองในแง่ของเงินนะครับ ตัวเงินนะครับ อย่าลืมว่า
วันหนึ่งชาวบ้านได้เงิน 100 บาท เขาก็พอใจแล้วนะ เดือนหนึ่งเท่ากับ 3,000 บาท
แต่คนที่มาซื้อนาฬิกานะครับ

อย่างที่ผมใส่เรือนนี้ 3-4 แสนนะ ก็ต้องขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ผม พร้อมทั้งความขยันของผม ฉะนั้น ถ้านาฬิกาเรือนนี้ของผมเสียไป เป็นเงิน 3 แสนนะ
แต่สำหรับคนที่เขามาในม็อบ ถ้าเกิดไปพลาดตกอะไร หรือมีดบาดปุ๊บ แล้วนิ้วหัวแม่โป้งเขาขาดไป
แล้วจะว่ายังไงล่ะครับ หัวแม่โป้งมนุษย์คนหนึ่งกับนาฬิกาเรือนนี้เรือนละ 3 แสน มันเทียบไม่ได้นะครับ
ถ้าเรายอมรับว่าคนเราเท่ากัน เราก็ต้องบอกว่าหัวแม่โป้งมันสำคัญกว่านาฬิกา

ผมยกตัวอย่างนะ
ผมเป็นคนช่างคิด บ้านผมก็มีคนใช้เป็นธรรมดา วันหนึ่งคนใช้ก็ลงน้ำไปเหยียบกระจก พอขึ้นมาก็มีเลือดออก
ผมก็บอกว่า นี่มาดู ไม่ต้องทำแล้ว ไปใส่ยา แต่คนใช้ของผม เขาบอกไม่เป็นไรหรอกครับ แล้วเขาไปหยิบรองเท้าแตะมาทุบปั๊ว ๆ ๆ ๆ แล้วกระโดดลงไป
ผมก็มานั่งนึกว่า เอ๊ะ ทำไมเขาคิดอย่างงั้นล่ะ นี่ถ้าเป็นผมนะ โดนบาดอย่างงั้น
ผมต้องขึ้นมาทำแผล ไปโรงพยาบาล ไปฉีดยาป้องกันบาดทะยัก เห็นไหมว่า ค่าของคน
แม้แต่ตัวเขาเป็นคนคิด ยังมีความแตกต่างกัน

ฉะนั้น วันนี้เราจะไปบอกว่า ความ เสียหาย หรือการลงทุนของผู้ที่มา มันมีมูลค่าแค่วันหนึ่ง
ถ้าจะประเมินราคาแค่หมื่นหนึ่ง หรือแสนหนึ่ง เทียบกับความเสียหายล้าน-สองล้าน เป็นความแตกต่าง ผมว่าไม่ใช่หรอก

เอาไหมล่ะ เศรษฐีเนี่ยนะครับ ลองไปต่างจังหวัดบ้าง ไปกินนอนแบบนี้ 5 วัน 7 วัน คุณจะทุกข์ใจลำบากใจแค่ไหน ไอ้มูลค่าอย่างนั้นไหวไหม ผมถามหน่อยซิ ฉะนั้น โปรดเห็นใจความเสียสละของคนยากคนจนบ้างเถอะ ยิ่งไปพูดไปตีราคาอย่างงั้นทุกวันนะ ดีนะที่พวกเขาไม่ค่อยอ่านหนังสือพิมพ์ ถ้าเขาอ่าน เขาคงจะช้ำใจพอควร ที่มาตีราคาอะไรกับเขา เห็นเขาต่ำขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ ทั้ง ๆ ที่เขารู้สึกว่าเขาทำถูกต้องนะ เขาเสียสละ

- การชุมนุม ตีราคาเป็นเงินไม่ได้

ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นเรื่อง moral เรื่อง determination ความตั้งใจอย่างแรงกล้า ครั้งนี้
เขามีส่วนร่วมในความเป็นชน ในชาติ มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของชาติมาก เขาเห็นว่านี่เป็นโอกาส

- ในสถานการณ์ล่าสุด ซึ่งมีการประกาศกฎหมายแบบนี้ออกมา ขณะที่ผู้ชุมนุมก็อยู่แยกราชประสงค์ และถ้ามีการใช้กำลังสลาย

เขาก็ยอมตาย เท่าที่ผมได้ยิน
เพราะเขามาก็ไม่มีใครเห็นความสำคัญของเขา คิดว่าเขาเป็นผักเป็นปลา ฉะนั้น จะฆ่า จะแกงก็ไม่เป็นไร ดูเหมือนเขาจะไม่กลัวนะ ผมเห็น พอบอกทหารมา เขาก็เฮ พอถามว่ากลัวไหม เขาบอกว่าไม่กลัว
ผมก็เชื่อว่าเขาพูดจริงนะ ก็ไม่เป็นไร เมื่อไม่เห็นค่าเขา จะฆ่าเขา ก็ฆ่าไปเถอะ ผีก็จะมาหลอกคุณตลอดไป แล้วคุณก็จะเป็นคนที่มือเปื้อนเลือดตลอดไป
แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย เราไม่ยอมหรอก เราจะสู้กับพวกคุณ ตัวผมและครอบครัวผมก็ไม่ยอม ผมจะสู้กับคุณ

- การขับเคลื่อนทางการเมืองตอนนี้ พรรคเพื่อไทยแทบจะแยกไม่ออกจาก นปช.(แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ)

แยกออกครับ ฝาแฝดยังแยกออกเลย ทำไมจะแยกไม่ออกครับ คือเราแชร์อะไรที่ตรงกันหลายอย่างมาก และก็เกี่ยวข้องกันทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็ไม่เห็นจะประหลาดอะไร

- การต่อสู้ของ นปช.นอกสภา ก็เข้าใจได้ แต่ ส.ส.เพื่อไทย ในฐานะสมาชิกองค์กรพรรคการเมือง

ก็เขาเป็นการเมืองภาคประชาชน เป็น street politics
แต่เราเป็น organization เป็น institution เป็นสถาบันทางการเมือง
แต่เราแชร์ความเห็นที่ตรงกันหลายเรื่อง ผมก็พูดไปแล้ว พรรคนี้ทำทีทำท่าจะเป็นตัวแทนของ คนชั้นล่างนะ เพราะเราเชื่อในมุมมองทางเศรษฐกิจ ในมิติทางเศรษฐกิจ ว่าคนชั้นล่างเป็น majority ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย ซึ่งมีพื้นฐานทางเกษตรกรรมมาช้านาน แม้ขณะนี้จะเปลี่ยนไป คนเหล่านี้เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ถ้าคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ได้รับการ ดูแลแล้วเนี่ย มันแฟร์กับเขาไหม ข้อต่อมา คือคนส่วนใหญ่ของประเทศ แม้จะมีผลผลิตจำนวนน้อย แต่เมื่อมารวมกันเนี่ย sum up แล้วเป็นผลผลิตขนาดใหญ่ ซึ่งกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศชาติ เราเป็นสถาบันทางการเมืองตามกฎหมายพรรคการเมือง มีงานในสภา เป็นหลัก บางครั้งก็เป็นรัฐบาล บางครั้งก็เป็นฝ่ายค้าน

- ต้องมีทั้งภาระในสภาผู้แทนราษฎร กับภาระร่วมกันสู้บนท้องถนนกับ นปช.

คือถ้าจะถามเกี่ยวกับมติการอภิปราย ไม่ไว้วางใจ คือพรรคเพื่อไทยเป็นเพื่อนกันกับ นปช.
เรามีความเห็นตรงกันหลายอย่าง เราเป็นเพื่อนตายต่อกัน ขณะนี้มันเป็นวาระของ นปช. ซึ่งเขาต้องการยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน ก็ต้องปล่อยเขาให้ไปถึงที่สุด เราเอง แม้ว่าอยากทำหน้าที่ของเราในรัฐสภา
เราก็ต้องเคารพเขา เพราะเราก็ยังมีเวลาทำ ยังมีเวลาอีก ยังมีเวลาอยู่เสมอ เอาไว้ใกล้ ๆ
เมื่อไม่มีเวลาแล้ว บางทีเราก็อาจจะต้องคุยกัน หรือตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด ตราบเท่าที่เรายังมีเวลาในการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจอยู่นะครับ
ตอนนี้ต้องปล่อยให้ขบวนการของ นปช.ไปให้สิ้นสุด มันจึงจะเคารพซึ่งกัน และกัน

- หากรัฐบาลตัดสินใจพลาด หรือเดินเกมไม่ถูก ความเสี่ยงที่รัฐบาลต้องเจอคืออะไร

เสี่ยงหลายอย่าง เพราะตัดสินใจห้ำหั่นกับประชาชน รัฐบาลกับกองทัพคงชนะแน่ แต่มีคนบาดเจ็บล้มตาย ความเจ็บแค้นนี้ก็จะฝังลึกกับคนจำนวนมากมาย กลับไปบ้านคงไปเล่าให้ญาติพี่น้องลูกหลานฟัง แล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็จะสูญเสียฐานทางการเมืองไปมากเหลือเกิน ข้อต่อมา
ประเทศไทยก็คงจะไม่มีความสุขไปอีกนาน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะห้ามไม่ให้เขาแก้แค้น
ส่วนเขาจะแก้แค้นกับใคร ด้วยวิธีอะไร ผมก็ไม่รู้นะครับ ทำกับเขาแรงแค่ไหน เขาก็แก้แค้นเท่านั้น

- แต่ถ้ารัฐบาลยังปล่อยให้ผู้ชุมนุมยึดพื้นที่แยกราชประสงค์อยู่

ก็ทำไมไม่รีบตกลงกับเขาล่ะ เขาขอร้อง ขออย่างเดียว คือ
ขอให้ยุบสภา คนตัดสินใจก็มีคนเดียว คือคุณอภิสิทธิ์
ก็เป็นอำนาจของคุณอภิสิทธิ์ เขาไม่ได้บอกให้รัฐบาลลาออกด้วยซ้ำไป



http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02pol01150453&sectionid=0202&day=2010-04-15