ที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง...ก็เตรียมจัดเวทีคู่ขนานกับเวทีใหญ่ของพี่น้องภาคประชาชน ต้องการให้เป็นเวทีสาธารณะพูดคุยเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร รวมทั้งร่างกฎหมาย ฉบับอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง โดยมีจุดมุ่งหมายสื่อสารกับเพื่อนนักศึกษาด้วยกันโดยเฉพาะ...
แต่ทว่า...ราวๆ เกือบเที่ยงคืนของวันที่ 18 ธันวาคม ขณะที่น้องๆ นักศึกษากำลังเตรียมขนข้าวของ เช่น เครื่องเสียง ลำโพง เข้าไปใช้ในการทำ กิจกรรมเหมือนเช่นปกติที่เคยทำกันมาทุกครั้งในหลายๆ กิจกรรม แต่ปรากฏว่า คืนนี้พวกเขาเข้าไปในมหาวิทยาลัยของตนเองไม่ได้... เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของมหาวิทยาลัย ล็อกกุญแจ ประตูทางเข้าอย่างแน่นหนา
คำอธิบายของเจ้าหน้าที่คือ เป็นคำสั่งของ นายสมหมาย สุรชัย รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และเมื่อนักศึกษากลุ่มนี้ยืนยันที่จะเข้าไปทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยของตัวเองให้ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ต้องบอกว่า
...คมช. สั่งห้าม!
เป็นคำตอบสุดท้าย!
งานนี้นักศึกษาหลายสิบคนที่ทั้งสังกัด กลุ่มกิจกรรมนักศึกษาเพื่อสังคม และ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ต่างไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ ตรงกันข้ามกลับยิ่ง เพิ่มดีกรี ีความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปตั้งเวทีพูดคุยกับเพื่อนๆ ร่วมมหาวิทยาลัยข้างในให้ได้ เพราะนี่ไม่ใช่เวทีของพรรคการเมือง ไม่ได้มาช่วยใครหาเสียง แต่เป็นเวทีสาธารณะที่มุ่งเรื่องความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่กำลังจะผ่านสภา เพราะความจริงที่ต้องยอมรับกันอย่างหนึ่งก็คือว่า มีไม่กี่คนในประเทศนี้เท่านั้นที่เข้าใจแจ้งว่าร่างกฎหมายฉบับต่างๆ ที่ สนช. ดึงดันจะผลักผ่านให้ได้นั้น มันมีความไม่ชอบมาพากล มีความเสี่ยงภัย และมีความเสียหายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วประเทศอย่างไร...
นักศึกษากลุ่มนี้จึงต้องการเปิดเวทีนี้เพื่อเป็นช่องทางทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าวกับคนหมู่มาก...
คำสั่งห้ามจากรองอธิการฝ่ายกิจการนักศึกษา ที่อ้างชื่อเผด็จการอย่าง คมช. นั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมเหต ุสมผล และไม่ควรจะสยบยอมอย่างยิ่ง และถ้ามันเป็นจริงก็ แสดงว่ามหาวิทยาลัยของประชาชนแห่งนี้ ไม่มีผู้บริหาร ที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมหลงเหลืออยู่เลย เพราะนอกจากไม่ปกป้องนักศึกษาของตัวเอง ก็ยังยอมรับคำสั่งของเผด็จการมาน้อมรับใช้อย่างไม่ละอายแก่ใจ
แม้แต่มหาวิทยาลัยที่ถูกก่นด่าทั่วเมืองอย่างธรรมศาสตร์ เมื่อครั้งที่ผู้บริหารบางส่วนตบเท้าเข้ารับปูน บำเหน็จ รางวัลจากคณะรัฐประหาร...แต่อย่างน้อยอธิการบดีอย่างสุรพล ก็ยังกัดฟันยอมให้นักศึกษาของตัวเองจัดกิจกรรม เช่น วงเสวนาทางการเมืองได้...แม้จะจัดมาด่าตัวเองหรือด่า คมช. เจ้านายตัวเองอีกทีก็ตาม
แต่ที่รามคำแหงไม่ใช่อย่างนั้น...
จริงอยู่ที่ว่า พรรคการเมืองของนักศึกษารามคำแหงบางพรรคมีผู้สนับสนุนเป็นพรรคการเมืองใหญ่ๆ การระแวดระวังไม่อยากให้นักศึกษาจัดกิจกรรมในช่วงเลือกตั้ง จึงอาจเป็นเพราะเกรงว่าพรรคการเมืองจะฉวยโอกาส ซื้อเสียงจากนักศึกษาด้วยวิธีการที่ไม่ตรงไปตรงมา ไม่โปร่งใส
แต่ในกรณีเวทีสาธารณะของกลุ่มกิจกรรมนักศึกษาเพื่อสังคม รามคำแหงกับสหพันธ์นิสิตนักศึกษา แห่งประเทศไทย (สนนท.) ที่ปีนี้มีเลขาธิการเป็นนักศึกษาเลือดรามคำแหงเต็มตัวนั้น... ถามว่าผู้บริหารจะไม่รู้เชียวหรือ ว่ามีเพื่อจุดประสงค์อันใด...
การที่นักศึกษากลุ่มนี้ประชาสัมพันธ์ไปล่วงหน้าทั่วมหาวิทยาลัย ว่าจะเป็นเวทีสำหรับชำแหละร่างกฎหมาย ฉบับต่างๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาของ สนช. นั้น เห็นได้ชัดว่าผู้เสียผลประโยชน์ก็เห็นจะมีแต่ฝ่าย สนช. หรือฝ่าย คมช. เท่านั้นเอง...โดยเฉพาะ ร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่ คมช. ตั้งเป้ามาเนิ่นนานแล้วว่า ยังไงก็ต้องผ่าน!
การห้ามนักศึกษาจัดเวทีโดยอ้างคำสั่ง คมช. นั้น จึงเป็นเรื่องที่คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกเสียจากไม่ต้องการ ให้เกิดกระแสคัดค้านร่างกฎหมายฮิตเลอร์ฉบับนี้...แต่ต้องการให้ร่วมกันปิดหูปิดตานักศึกษาประชาชน เพื่อปล่อยให้ร่างกฎหมายเผด็จการฉบับนี้ผ่านไปได้โดยสะดวกดาย
ล่าสุดนักศึกษายืนยันจะจัดเวทีโดยตั้งประจันหน้าอยู่หน้าประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาตั้งกำลังอยู่ประมาณกว่า 60 นาย
รวมทั้งยังไม่มีคำตอบอื่นใดจากผู้บริหาร นอกเสียจาก คาถา คมช. เท่านั้นเอง