WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, December 20, 2007

'จารุวรรณ'แขวะ 'เก้าอี้ทักษิณ' ไม่มีใครเอา - แฉถูกขู่ทำร้ายครอบครัว ต้องพาลูกซ้อมยิงปืน!


คุณหญิงจารุวรรณแซว'เก้าอี้ทักษิณ'ไม่มีคนประมูล ลั่นให้ดูชะตากรรมเจ้าของ หลังสตง.เตรียมขายทอด ตลาดทรัพย์สินพรรค'ไทยรักไทย'เกือบ800รายการ คาดได้แค่4ล้าน ขณะติดหนี้อยู่11ล้าน

คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเแถลงข่าวถึงการจัดการประมูลขายทอด ตลาดทรัพย์สินของพรรคไทยรักไทย ว่า สตง.จะจัดให้มีการขายทอดตลาดทรัพย์สินของพรรคไทยรักไทย จำนวนกว่า 790 รายการ ในวันที่ 9-10 ธันวาคมนี้ ที่อาคารสำนักงาน สตง. หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบ พรรคไทยรักไทย

อย่างไรก็ตาม ทางบัญชีพบว่าพรรคไทยรักไทย มีหนี้สิน มากกว่าเงินที่จะได้รับจากการขายทรัพย์สินซึ่งหาก สตง.จะหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการชำระบัญชีทั้งหมดก่อน สำหรับราคาทรัพย์สินตามหลักวิชาชีพทางบัญชี ปรากฏว่ามีทรัพย์สินหลายรายการ ที่มีมูลค่า สุทธิ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2550 จำนวน 1 บาท

เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ได้มาก่อนวันที่ 30 เมษายน 2545 เมื่อนำมาบันทึกบัญชีจะต้องมีการหักค่า เสื่อม ราคาทุกปี เมื่อครบ 5 ปี มูลค่าสุทธิของทรัพย์สินตามบัญชีจึงคงเหลือจำนวน 1 บาท แต่ในทางความเป็นจริงทรัพย์สิน ดังกล่าวมีมูลค่ามากกว่านั้น ดังนั้น ก่อนดำเนินการขายทอดตลาด จึงต้องมีการประเมินราคาทรัพย์สินให้เป็นไปตาม ราคาในท้องตลาด

คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า ทั้งนี้ จากการที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้ส่งบัญชีและงบดุลรวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับงบการเงินพรรคไทยรักไทยต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2550 และกกต.ได้ส่งงบการเงินดังกล่าวมาให้ สตง.ตรวจสอบ พบว่า ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2550 พรรคไทยรักไทย มีเงินสด และเงินฝากธนาคาร รวมเป็นเงิน 1,147,358.69 บาท มีลูกหนี้ 590,312.01 บาท และมีเจ้าหนี้ รวม 11,285,284.76 บาท

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเจ้าหนี้บางรายพบว่า เป็นเงินค่าชดเชยการเลิกจ้างพนักงานจำนวน 57 คน เป็นเงิน 4,750,268 บาท ซึ่งหนี้ส่วนนี้เป็นหนี้ในส่วนที่ สตง.เห็นด้วย ที่จะต้องมีการชำระให้กับพนักงาน เพราะเป็นค่าเลิกจ้าง การทำงาน แต่ในส่วนของหนี้ที่มีการระบุว่าเป็นค่ากิจกรรมพิเศษ มีมูลหนี้สูงกว่า 4,965,988.40 บาท มีบริษัท เอสซีแมทซ์บอกซ์ จำกัด ต่อมาภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทแมทซ์บอกซ์ เป็นเจ้าหนี้ ซึ่งสตง.มีข้อสังเกตว่า เหตุใดการจัดงานลักษณะดังกล่าว จึงมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก มีความจำเป็นอย่างใดหรือไม่

รายงานข่าวจาก สตง.แจ้งว่า สำหรับทรัพย์สินจำนวน 790 รายการ ที่จะถูกนำมาเปิดประมูลขาย ให้กับประชาชน จะมีราคารวมกว่า 4 ล้านเศษ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือและของใช้ในสำนักงาน อาทิ เก้าอี้ โต๊ะ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ กล้องวีดีโอ โซฟาหนัง พัดลมตั้งโต๊ะ ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดี ของบางชิ้นยังถูกเก็บไว้ในกล่อง ไม่เคยผ่านการใช้งาน ซึ่งถูกตั้งราคาประมูลเริ่มต้นไว้ที่ หลัก 50 -1,000 บาท เท่านั้น จะมีก็เพียงรถบรรทุกที่พรรคไทยรักไทย ดัดแปลงให้สามารถใช้ปราศรัยหาเสียงได้ จำนวน 2 คัน เท่านั้น ที่ถูกตั้งราคาไว้สูงถึง 450,000 บาท ซึ่งขณะนี้จดไว้ที่อู่แถวพุทธมณฑล

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภายหลังการประมูลครั้งนี้ สตง.ไม่ว่า สตง.จะได้รับเงินคืนกับมาเป็นจำนวนเท่าไร แต่ในส่วนการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้นั้น อาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อนออกไปในช่วงกลางปีนี้ เนื่องจากล่าสุด สตง. ได้รับหนังสือจากศาลแพ่ง ในทำหน้าที่เป็นผู้แก้ต่างให้กับพรรคไทยรักไทย ที่ขณะนี้ไม่มีตัวตนอยู่แล้ว ในคดีที่พรรคไทยรักไทย ยื่นเรื่องฟ้องหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งเรื่องนี้ สตง.จะประสานไปยังอัยการสูงสุด ให้เข้าไปดูแลเรื่องคดีความส่วนนี้ให้ การคำนัดหมายของศาลในเดือนกันยายน 2551 นี้ ซึ่งหากทางหนังสือพิมพ์ผู้จัดการแพ้คดี ทางสตง. ก็คงจะนำเงินที่พรรคไทยรักไทย ได้รับในการชนะคดีทางแพ่ง มารวบกับเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สิน เพื่อนำไปชำระให้แก่เจ้าหน้าที่ต่อไป

ข่าวแจ้งว่า ในระหว่างการแถลงข่าว สื่อมวลชนได้ซักถามคุณหญิงจารุวรรณ ว่า ในรายการสินค้าที่นำมา ประมูลขาย มีโต๊ะและเก้าอี้ ทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยด้วยหรือไม่ คุณหญิงได้หันไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่ามีหรือไม่ เจ้าหน้าก็ยืนยันว่าน่าจะมีอยู่ แต่ไม่ทราบว่าเป็นตัวไหน คุณหญิงได้หันมาบอกกับสื่อมวลชนแบบทีเล่นทีจริง ว่า 'ใครจะไปประมูลเก้าอี้แบบนี้ เห็นไหม ตอนนี้เจ้าของเป็นอย่างไร ใครจะไปเอา'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว คุณหญิงจารุวรรณ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ในช่วงใกล้เลือกตั้ง มักจะมีโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้าไปที่บ้าน และพูดจาข่มขู่ตนและบุคคลในครอบครัวให้ระวังตัว โดยใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตนได้รับโทรศัพท์ด้วยตนเอง และก็ถูกขู่ว่า 'ระวังตัวให้ดี มึงและครอบครัว' ซึ่งตนก็ได้ตอบไปว่า ไม่ต้องมาขู่กัน ให้มาที่ สตง.ได้เลย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า เรื่องดังกล่าวมีผลกระทบต่อจิตใจ ในช่วงระยะหลังนี้ ตนและบุตรชายจึงได้ไปฝึกซ้อมยิงปืน เพื่อป้องกันตัวเอง