สตง. เตรียมจัดประมูลขายทอดตลาดทรัพย์สิน พรรคไทยรักไทย มูลค่า กว่า 4 ล้านบาท วันที่ 9-10 ม.ค.ปีหน้า หลังตุลาการรัฐธรรมนูญ พิพากษายุบพรรค
คุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แถลงข่าวการขายเข้าตลาดทรัพย์สินพรรคไทยรักไทยในวันที่ 9 และ 10 ม.ค. 2551 จำนวน 790 รายการ ราคาประเมินเบื้องต้น กว่า 4 ล้านบาท โดยหลังจากพรรคไทยรักไทยต้องคำพิพากษาจากตุลาการรัฐธรรนูญให้ยุบพรรค เมื่อวันที่ 30 พ.ค. สตง. ได้เข้าไปชำระบัญชีพบว่า ไทยรักไทย มีเงินสดและเงินฝากธนาคารเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท โดยมีบริษัทเอสซีแมสบ๊อก จำกัด ซึ่งภายหลังเปลี่ยนเป็นบริษัทแมสบ๊อก จำกัด เป็นเจ้าหนี้ มี นายนิวัฒน์ ธำรงบุญทรงไพศาล นายสมประสงค์ บุญชัย นายดำรงค์ เกษมเศรษฐ์ และนายอารักษ์ ชลธานนท์ เป็นกรรมการบริษัท ขณะที่ นายบรรพจน์ ดามาพงศ์ เป็นผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตาม สตง. ยังได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของพรรคไทยรักไทย ในช่วงยุบพรรคจำนวนกว่า 5 ล้านบาท ว่า เป็นจำนวนที่สูงเกินไปหรือไม่
นอกจากนี้ สตง. ยังได้รับหนังสือจากศาลแพ่งให้เป็นผู้แก้ต่าง กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทยและพวก ฟ้องร้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่ง สตง. จะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดแก้ต่างแทน หากพรรคไทยรักไทย เป็นฝ่ายชนะและได้เงินค่าฟ้องร้อง ก็จะนำมารวมกับทรัพย์สินที่ขายเข้าตลาดได้ เพื่อนำไปชดใช้ให้เจ้าหนี้ จำนวนกว่า 11 ล้านบาท ต่อไป
นอกจากนี้ สตง. ยังได้รับหนังสือจากศาลแพ่งให้เป็นผู้แก้ต่าง กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทยและพวก ฟ้องร้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่ง สตง. จะส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดแก้ต่างแทน หากพรรคไทยรักไทย เป็นฝ่ายชนะและได้เงินค่าฟ้องร้อง ก็จะนำมารวมกับทรัพย์สินที่ขายเข้าตลาดได้ เพื่อนำไปชดใช้ให้เจ้าหนี้ จำนวนกว่า 11 ล้านบาท ต่อไป