'อย่างน้อยๆพ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ทำงานรับใช้บ้านเมืองก็มีความดีไม่มากก็น้อย ควรจะให้เกียรติกันหน่อย พร้อมกันนี้ควรรอให้ท่านกลับมาได้ต่อสู้ตามกระบวนการของศาลยุติธรรมให้เรียบร้อยก่อนแล้วจึงจะมาวิจารณ์' น.ส.เยาวเรศ กล่าวในที่สุด
ขณะที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเพียงข้อกล่าวหาเท่านั้น คดียังไม่ถึงศาล การกล่าวหาก็สามารถพูดได้ แต่ถ้าตนมาออกหนังสืออีกซักเล่มว่าคตส.ทำอะไรบกพร่องได้หรือไม่ ตนเชื่อว่าคตส.มีจุดประสงค์ต้องการเอาคนที่ถูกกล่าวหาให้บรรลัยวายวอดอยู่แล้ว แต่คงไม่กระทบต่อการเลือกตั้ง เพราะประชาชนรู้อยู่แล้วว่าคตส.คิดอย่างไร เพราะคตส.ไม่ใช่คนเลือกตั้งแต่เขาทำให้คนเลือกตั้งเสียหายได้
ด้านนายสัก กอแสงเรือง กรรมการคตส. ออกมากล่าวตอบโต้น.ส.เยาวเรศ น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ และนายสมัคร โดยยืนยันว่า การออกสมุดปกเหลืองนั้น คตส. ไม่ได้คำนึงว่าจะเกิดความเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม กับใคร และไม่ได้มองว่าจะกระทบชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของใคร เพราะเป็นการทำงานตามขั้นตอนปกติ โดยเป็นการสรุปผลการทำงานครบรอบ 1 ปี ซึ่งเมื่อหนังสือจัดทำเสร็จก็ต้องมีการเผยแพร่ตามขั้นตอนปกติ
'เจตนาของเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง เพราะเราเปรียบเหมือนใบตองแห้ง ไม่ทราบว่าทำไม ต้องมามองกันแบบนี้ พอทำช้าก็บอกไม่มีผลงาน พอทำเร็วก็บอกว่ากลั่นแกล้งกัน ถามหน่อยเถอะ ถ้าในขั้นตอนการไต่สวนของเรา ถ้าผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหา ยินดีมาให้ปากคำตามกำหนดเวลา ไม่ขอเลื่อนแล้วเลื่อนอีก งานคงออกมานานแล้ว' นายสักกล่าว และว่า ก่อนหน้านี้ คตส. ตั้งเป้าหมายว่าในช่วงสิ้นสุดเดือนธันวาคม นี้ จะมีหลายคดีที่แล้วเสร็จ แต่ทุกคดีก็ติดปัญหาไม่ว่าจะเป็นคดีซีทีเอ็กซ์ และคดีท่อร้อยสายไฟฟ้า ในสุวรรณภูมิ ที่ยังติดปัญหาเรื่องการแปลเอกสารจากต่างประเทศที่ยังไม่เรียบร้อย คดีกล้ายาง ที่มีมากกว่า 40 ประเด็นที่ต้องสรุปผลการไต่สวน หรือแม้กระทั่งคดีเอ็กซิมแบงค์ ก็ตั้งใจว่าจะสรุปให้เสร็จ แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ขอเลื่อนการเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาในวันที่ 29 ธันวาคม แต่เชื่อว่าคดีเหล่านี้ น่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จในเดือนมกราคม นี้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันเดียวกัน คตส.ได้แจกสมุดปกเขียวสรุป 20 ประเด็น ให้กับสื่อมวลชน เพื่อนำไปเผยแพร่ก่อนที่ทางคตส.จะยื่นสำนวนให้อัยการสูงสุดในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ และจะมีการแจกสื่อมวลชน อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนสมุดปกเหลือง จากเดิมที่จะมีการแจกในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ได้มีการเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 21 ธ.ค. หากประชาชนหรือหน่วยงานรัฐและเอกชนสนใจสามารถเดินทางมาขอรับได้ที่อาคารสตง. ซึ่งมีการพิมพ์เอาไว้จำนวน 5 หมื่นชุด