WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, December 20, 2007

พปช.เปิดสูตรตั้งรัฐบาล2พรรค

พรรคการเมืองดิ้นจับขั้วล่วงหน้า เฉลิมยอมรับเจรจา เสธ.หนั่นจัดสูตรตั้งรัฐบาล 2 พรรค พงศ์เทพแพร่บทความผ่านเว็บไซต์บ้านเลขที่ 111 ด่า คมช.ล็อคผลเลือกตั้ง พร้อมจี้ กกต. ทำหน้าที่ให้สง่างาม ผู้สมัคร พปช.โอด ฟังฝ่ายมั่นคงพูดถึงเหตุระเบิดแล้วรู้สึกว้าเหว่ แถมคนของพรรคยังถูกรถขับตามชนถึงสองครั้งสองหน


ยังไม่ทันที่จะมีการเลือกตั้งกระแสการจับขั้นก็เริ่มจะมีความคึกคักเสียแล้ว เมื่อพรรคการเมืองขนาดกลางอย่าง พรรคชาติไทย เพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยชาติพัฒนา มีการต่อสายหารือถึงการจับขั้วเพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับพรรคประชาธิปัตย์ และพลังประชาชน ที่คาดหมายว่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคมนี้


ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด ที่ทำการพรรคพลังประชาชน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แถลงข่าวโดยเชื่อว่าการพูดคุยของพรรคการเมืองต่างๆ คงไม่มีลักษณะที่ผูกพันเป็นมั่นเป็นเหมาะอย่างแน่นอน วันนี้พรรคพลังประชาชนยังไม่สรุปสูตรใดๆ ทั้งสิ้น และยืนยันท่าทีเดิมว่าพร้อมจะทำงานกับพรรคที่ไม่ได้ตั้งข้อรังเกียจเดียดฉันท์พรรคใด


ส่วนที่มีการพูดคุยระหว่าง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัครส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน นั้น ยังไม่มีโอกาสสอบถามกับ ร.ต.อ.เฉลิม แต่นักการเมืองแม้จะอยู่ต่างพรรคการเมืองก็รู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะพูดคุยกัน แต่การจับมือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลต้องพูดคุยกันอย่างเป็นทางการพอสมควร


อย่างไรก็ดี สิ่งที่พรรคเป็นห่วงในช่วง 4 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง คือแนวโน้มที่จะมีกระบวนการที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้น จึงขอวิงวอนไปยัง กกต. ติดตามตรวจสอบการกระทำที่จะผิดต่อระเบียบอย่างเข้มงวด และให้เท่าเทียมกันทุกพรรคการเมือง


พปช.เปิดสูตรรัฐบาล2พรรค

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม ยอมรับว่าได้หารือถึงอนาคตทางการเมืองกับ พล.ต.สนั่น จริง โดยพล.ต.สนัน ได้โทรศัพท์มาหาตอนที่ไปปราศรัย จ.หนองคาย และแลกเปลี่ยนข้อมูลกันว่า แต่ละพรรคจะได้ส.ส.จำนวนเท่าใด ซึ่งก็ได้บอกไปว่า พรรคพลังประชาชนน่าจะได้ส.ส.เกินครึ่ง ส่วน พล.ต.สนั่น ประเมินว่าพรรคชาติไทยน่าจะได้ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 50 ที่นั่ง เลยคิดว่าหาก 2 พรรครวมกันก็น่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้


อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า พูดคุยส่วนตัวไม่มีผลผูกพันกับพรรคพลังประชน ส่วนตัวคิดว่า แม้พรรคจะได้ ส.ส. เกินครึ่งก็ยังน้อยไปที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว จึงน่าจะร่วมกับพรรคอื่นให้ได้ 300 เสียงน่าจะสวยกว่า


จี้กกต.ทำหน้าที่ให้สง่างาม

ทางด้าน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวในเรื่องนี้ว่า ทั้งหมดเป็นการวางแผนรับมือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่ล็อคกันไว้ จนแยกไม่ออก เพราะหากผลการเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่คิด แทนที่จะเป็นการแก้ปัญหา กลับกลายเป็นเพิ่มปัญหาให้กับประเทศ


ขณะเดียวกันแหล่งข่าวทางการเมืองก็ระบุว่าการจับขั้วทางการเองจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันเลือกตั้ง เพราะอย่างไรก็ตามท้งพรรคพลังประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องพยายามจับขั้วเพื่อตั้งรัฐบาลอยู่ดี ขณะที่บรรดาพรรคขนาดกลางก็จะเป็นตัวแปรที่มีอำนาจต่อรอง


ในอีกด้านหนึ่ง เว็บไซต์บ้านเลข 111 พลเมืองชั้นสอง (www.secondclass111.com) ของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้เผยแพร่บทความเรื่อง ทางสายเดี่ยวในการแก้วิกฤตประเทศไทยเขียนโดย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวน้าพรรคไทยรักไทย มีเนื้อหาบางตอนระบุว่าจากการรัฐประประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มีคนจำนวนน้อยได้ประโยชน์ และคงไม่คาดหวังว่าจะทำอะไรที่เป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย เพราะผลประโยชน์ที่ได้จากการรับใช้คณะปฏิวัติ ปิดบังประสาทสัมผัสทั้งหลาย บางคนเป็นพวกปัญญาดี แต่ถูกกิเลสครอบงำ


นอกจากนี้ ในบทความยังเรียกร้องให้ กกต. ปฏิบัติหน้าที่อย่างสง่างาม จะทำอย่างไรให้ประชาชนชาวไทย พรรคการเมืองและผู้สมัครทุกคนมั่นใจว่า จะไม่มีการใช้อำนาจรัฐเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด


ผบช.น.ย้ำระเบิดสร้างสถานการณ์

ส่วนกรณีระเบิดสำนักงานพรรคพลังประชาชนเขตลาดพร้าวเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าว่าสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบสอบสวนในทุกประเด็น โดยเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายและเป็นการเรียกร้องความเห็นใจจากคนบางกลุ่ม


แถมแกล้งก่อเหตุเพื่อหวังผลต่อชีวิตและทรัพย์สินซึ่งขณะนี้ในการสอบสวนไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด เป็นการสร้างสถานการณ์ของพรรคการเมืองหรือไม่


ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ยืนยันทหารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น แต่จะมีการสร้างข่าว การข่มขู่เกิดขึ้นในช่วงเลือกตั้งอีกหรือไม่ ไม่ขอคาดเดาในสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งต่อไป


ขับรถชนซ้ำคนพลังประชาชน

ขณะที่ในวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา นายยุรนันท์ ภมรมนตรี นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ดร.ภูวนิดา คุณผลิน ผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชาชน เขตเลือกตั้งที่ 3 ได้พานายทศพล บันลือศิลป์ อายุ 52 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 60/93 หมู่ 5 ซอยเสนานิคม 1 หมู่บ้านเสนานิเวศน์โครงการ 2 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. ทีมงานพรรคพลังประชาชน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ประทวน แมลงทับ พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.โชคชัย เพื่อแจ้งความหลังถูกผู้ไม่หวังดีขับรถเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บ


โดยนายทศพล เป็นทีมงานของพรรคมีหน้าที่เฝ้าหีบบัตรเลือกตั้งที่เก็บไว้ที่ห้องขังของ สน.โชคชัย โดยได้เฝ้ามาตั้งมาตั้งแต่เย็นวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมาหลังจากมีการเลือกตั้งล่วงหน้า โดยจะสลับกับเพื่อรนเฝ้าในตอนกลางคืนตั้งแต่เวลา 17.00-06.00 น.


ในตอนเช้าวันที่ 19 ธันวาคม เวลาประมาณ 07.30 น. ได้ขับรถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น มีโอ สีชมพู ทะเบียน ขงษ 878 ร้อยเอ็ด เพื่อจะกลับบ้าน โดยสวมใส่เสื้อทีมงานหาเสียงของพรรคพลังประชาชน ระหว่างทางจอดติดไฟแดงบนถนนลาดพร้าว มีรถยนต์ไม่ทราบ สี ยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน ขับมาชนท้ายรถจักรยานยนต์จนล้มพลิกคว่ำ นายทศพล กระเด็นไปกระแทกกับเสาไฟฟ้าข้างทาง แต่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือ ส่วนคนขับรถคันก่อเหตุได้ขับรถหนีไป ตอนนั้นตนแค่ถลอกเท่านั้น จึงได้คว้ารถจักรยานยนต์ขับต่อเพื่อกลับบ้าน


จากนั้นนายทศพล ขับรถมาในซอยโชคชัย 4 ช่วงตัดซอยลาดพร้าว 71 ขณะจอดรถติดไฟแดง ก็ได้มีรถยนต์ไม่ทราบ สี รุ่น ยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน ได้แซงมาทางด้านซ้ายก่อนที่จะเฉี่ยวมือจนได้รับบาดเจ็บเส้นเลือดใหญ่ที่บริเวณนิ้วชี้ มือข้างซ้ายขาด นิ้วก้อยเป็นแผล เลือดไหลไม่หยุดต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.เปาโลสยาม โดยแพทย์ได้ทำการรักษา และเย็บบาดแผลจำนวน 8 เข็ม


จี้ตำรวจ-คมช.เร่งจับคนผิด

ทั้งนี้หลังจากผู้สมัครของพรรคพลังปะชาชนทราบเรื่องจึงได้นำนายทศพล เจ้าแจ่งคว่มที่ สน.โชคชัย ดังกล่าว


นายเฉลิมชัย กล่าวว่าไม่อยากให้โยงเรื่องนี้ไปเป็นเรื่องการเมือง เพราะไม่อยากถูกมองว่าสร้างสถานการณ์ ช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งแล้วก็อยากให้ทีมงานทำงานอย่างสบายใจ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ถึงกับเลือดตกยางออก ผู้ที่ก่อเหตุนั้นถามว่ามีสำนึกของมนุษย์ที่ดีหรือไม่ การขับรถชนคนก็ควรจะลงมาช่วย มารับผิดชอบแต่กลับหนีไป


ขณะที่นายยุรนันท์ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ ไม่ใช่ทำแบบไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เนื่องจากที่ผ่านมา คมช และ ทางผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่ด้านความมั่นคง มองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย อย่างระเบิดที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชาชนเขต 3 ตำรวจก็สรุป ทั้งที่มาตรวจสอบอีกรอบ สลักระเบิดมีการถอดออกก็ทำให้เห็นว่าคนร้ายมีเจตนาทำร้าย หากมีการระเบิดขึ้นมาอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นได้ ฝ่ายความมั่นคงควรจะออกมาดูแลเรื่องนี้ ไม่ใช่ยิ้มแสยะแล้วบอกว่าอย่าสนใจ ทำให้เรารู้สึกหว้าเหว่มาก


นายยุรนันท์ กล่าวย้ำว่า เราไม่ได้สร้างเรื่องนี้มาเพื่อให้ประชาชนสงสารและมาเลือกเรา อีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งแล้ว เราอยากให้การดำเนินการเลือกตั้งเสร็จสิ้นอย่างราบรื่น แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้ว ทำให้ไม่รู้สึกไม่ปลอดภัย และว้าเหว่ และอยากให้จับคนผิดมาลงโทษ เพื่อที่จะได้รู้ตัวคนก่อเหตุ และทราบถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร


คนบ้านเลขที่111พบสื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันเดียวกันนี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้น อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง จำนวน 13 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช นายจาตุรนต์ ฉายแสง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายปองพล อดิเรกสาร นายภูมิธรรม เวชยชัย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายอดิศร เพียงเกษ นายจำลอง ครุฑขุนทด นายสุธรรม แสงประทุม นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ ได้เปิดแถลงข่าวหัวข้อ คนบ้านเลขที่ 111 พบสื่อมวลชน


โดยระบุว่าอดีตกรรมกมรบริหารพรรคไทยรักไทยทุกคน แม้ว่าจะไม่สามารถมีบทบาททางการเมืองได้ แต่ทุกคนยังคงมีความรักบ้านเมือง รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทุกประการ


พล.ต.อ.ชิดชัยกล่าวว่าอยากออกมายืนยันกับสื่อมวลชนว่าพวกเราอยากเห็นความสามัคคีปรองดอง อย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมีพระราชดำรัสหลายครั้ง หลายโอกาส ซึ่งถือเป็นการจุดแสงสว่างให้กับทุกคน ความเป็นประชาธิปไตยต้องแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะวุ่นวาย ขอให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค. เพื่อตัดสินอนาคตของประเทศ


คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า แม้พวกเราจะถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่ยังมีสิทธิห่วงใยบ้านเมือง จึงได้ทำการจัดตั้งเว็ปไซด์ ขึ้นมา จะมีการนำบทความของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่วิเคราะห์วิจารณ์ และให้ข้อเสนอแนะต่อสถานการณ์บ้านเมือง มาเผยแพร่บนเว็ปไซด์ เพื่อให้ผู้มีอำนาจในขณะนี้รับไปแก้ปัญหา เจตนาของพวกเราคืออยากเห็นบ้านเมืองเดินต่อไปได้


เตือน สุริยะใสหัดรับความจริง

ด้านนายสุธรรมกล่าวว่า เรามีสิทธิโดยสมบูรณ์ที่จะบอกต่อสังคมว่าเราห่วงบ้านเมืองเช่นเดียวกัน และประชาธิปไตยจะเป็นทางออกของบ้านเมือง วันนี้ผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรควรยอมรับ กรณีที่ นายสุริยใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.)ออกมาต่อต้านพรรคพลังประชาชนถือเป็นสำนึกที่ใช้ไม่ได้ เป็นการกวนน้ำให้ขุ่น การตัดสินใจของประชาชนจะเป็นสิ่งเตือนใจคนเหล่านี้เอง


นายอดิศรกล่าวว่า เท่าที่ได้ไปพบปะประชาชนปรากฏว่าให้การต้อนรับเรามากกว่าพรรคเก่าแก่บางพรรคเสียอีก การตัดสิทธิทางการเมืองนั้นเป็นการจงใจตัดสิทธิพวกเรา ซึ่งก็จะขอดิ้นรนตามพื้นฐานทางการเมืองของรัฐธรรมนูญ


นายจาตุรนต์กล่าวว่า ก่อน 19 ก.ย. 49 กลุ่มต่อต้านรัฐบาลขณะนั้นไม่เชื่อรัฐธรรมนูญ ไม่เชื่อถือการเลือกตั้ง ไม่ไว้ใจกกต.ในขณะนั้น แต่เมื่อมีการยึดอำนาจกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและคมช.มีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ อีกทั้งกกต.ชุดนี้ คมช.ก็เป็นผู้แต่งตั้งเอง ดังนั้นจึงไม่เหตุผลที่จะไม่เชื่อถือการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่ควรมาประกาศล่วงหน้าว่าถ้าพรรคนั้น พรรคนี้ ชนะแล้วจะเคลื่อนไหวต่อต้าน