WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, February 18, 2008

ยุทธการเศษสตางค์

จัดเป็นกลุ่มคน “รู้ทันสื่อ” ประเภท “ถึงกึ๋น” อีกคน สำหรับ “สมัคร สุนทรเวช” นายกฯ และ รมว.กลาโหม คนนี้รายการ “สนทนาประสาสมัคร” ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ 17 ก.พ. มี 3 เรื่องเต็มๆ “ฉีกหน้า” วงการสื่อมวลชนไทยเรื่องแรก...มาตรการกันสำรอง 30%ที่ “สมัคร สุนทรเวช” บอกว่า...สื่อเขียนคาดการณ์เอง

ทั้งที่ความจริง แค่ให้โอกาสหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง...กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำงานในช่วง 2-3 เดือนแต่ไม่ใช่การขีดเส้นตาย 2-3 เดือน อย่างที่สื่อประโคมข่าว!!!ที่สำคัญ “สมัคร สุนทรเวช” ยืนยันว่า...งานนี้จะไม่มีการแทรกแซงการตัดสินใจของ ธปท. อย่างเด็ดขาดเรื่องที่ 2...การดึงเอาคนใน “หมู่บ้าน 111 คน” มาเป็น “บอร์ดรัฐวิสาหกิจ”

“สมัคร สุนทรเวช” ชี้ว่า...รัฐบาลไม่มีความคิด และ “หมอเลี้ยบ” หรือ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ก็ไม่ใช่ “ต้นคิด” !!! เป็นสื่อเองต่างหากที่ป้อนคำถามใส่ “หมอเลี้ยบ” แต่ด้วยความที่เป็น...สุภาพบุรุษ ก็ตอบแบบเลี่ยงๆเมื่อสื่อคิดเอง ก็ต้องตอบสังคมเอง???เรื่องสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ก็คือ...“ใบแดง” ที่ดูเหมือนมันจะ “รั่ว” ออกมาจาก กกต. โดยระบุว่า...อนุฯ กกต. ลงมติแจก...ใบแดง “ยงยุทธ ติยะไพรัช” แล้วทั้งที่ความจริงยังไม่มีการประชุมสรุปแต่อย่างใด ที่สำคัญ “สมัคร สุนทรเวช” ย้ำว่า...มันไม่ใช่ข่าวรั่ว หรือข่าวหลุด

แต่เป็น “ข่าวปล่อย” ของใครบางคน ที่อาศัยสื่อ “ตีข่าว” หวังทำลายตัวเขาและพรรคพลังประชาชนพร้อมๆ กับหวังบีบ “5 เสือ กกต.” ให้ต้องเดินตามเกมที่วางไว้ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีความพยายามของ “มือที่มองไม่เห็น” สั่งการให้ใครบางคน ทำการข่มขู่..บังคับชาวบ้านในต่างจังหวัด ให้ข้อมูลเท็จ เพื่อหวังเพิ่ม “ใบเหลือง-ใบแดง” ตามมานอกจากเรื่อง “ฉีกหน้าสื่อ” แล้ว ก็ยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่น่าสนใจ แต่ที่ “บางกอกทูเดย์” สนใจ กระทั่งต้องนำมาวิเคราะห์ถึงก็คือ...

มาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระดับรากหญ้า...ปากท้องชาวบ้าน ด้วยยุทธศาสตร์ “เศษสตางค์”!!!สิ่งนี้...ถือเป็นเรื่องใหม่ ที่ไม่เคยมีรัฐบาลยุคสมัยใดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา...เคยคิดถึงแต่ “สมัคร สุนทรเวช” กลับคิดถึงและจะดำเนินการต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาการขึ้นราคาสินค้าที่ไม่เป็นธรรมกับคนในสังคม!?!ภายใต้คอนเซ็ปต์ สินค้าขึ้นราคาได้แต่ต้องเป็นไปตามกลไกของต้นทุนและราคาตลาด

มิใช่ขึ้นกันตามอำเภอใจ???อีกจุดหนึ่ง ซึ่งก็ไม่เคยมีนายกฯ คนไหนเคยคิดถึงก็คือ...ต่อไป...ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง) และสื่อมวลชน หยุดให้ข่าวและนำเสนอข่าวการปรับเงินเดือนข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจประมาณว่า...สังคมไทย ต้องร่วมกันสร้าง “วัฒนธรรม” การ “ปิดข่าว” ปรับขึ้นเงินเดือนให้เป็นความลับ สื่อเองก็ต้องหยุดขุดคุ้ยที่จะนำเสนอข่าวอย่างนี้

จากนี้ไป...การถามถึงเงินเดือนระหว่างกัน คือ การกระทำที่เสียมารยาทมากๆก็ไม่รู้สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ และนานเท่าใด???กลับเข้าเรื่องหลักของเรา...ยุทธการ “เศษสตางค์” หัวข้อเด่นประจำสัปดาห์ของ “สมัคร สุนทรเวช”อย่างที่ “บางกอกทูเดย์” บอกนั่นแหละ สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องที่ใหม่มากๆ สำหรับเมืองไทย แม้ว่ามันจะเรื่องเก่าของบางประเทศก็ตาม

ใหม่ขนาดที่ “บางกอกทูเดย์” คงต้องแนะนำให้ “ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี” ผู้กำกับดูแล...กรมธนารักษ์ จี้ให้มีการ “ปัดฝุ่น” ผลิตเหรียญ 5 สต. และ 10 สต. ขึ้นมาใหม่พร้อมกับเพิ่มกำลังผลิตเหรียญ 25 สต. และ 50 สต. ให้มากยิ่งขึ้นเพราะดูทีท่าของ “สมัคร สุนทรเวช” ที่พูดในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” แล้วมีความเป็นไปได้สูงมากๆ ที่คนไทยจะต้องหันมาให้ความสำคัญและพกพา “เศษสตางค์” เหมือนที่คนอเมริกันและคนอังกฤษใช้กัน เมื่อกว่า 100 ปีก่อนจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

หลังจากที่ “สมัคร สุนทรเวช” ได้รับรายงานจาก “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ” ในฐานะ “ว่าการกระทรวงพาณิชย์” ที่ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง “กรมการค้าภายใน” ทบทวนและตรวจสอบ “ต้นทุนที่แท้จริง” ของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 300 รายการเรียกว่า...ปรับรื้อระบบการคิดคำนวณต้นทุน ตั้งแต่ “ต้นน้ำ” ยัน “ปลายน้ำ” ใหม่...ทั้งระบบสิ่งนี้ ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสังคมไทย จะมีก็แต่ยุคสมัยนี้!!!

“บางกอกทูเดย์” ต้องขอชื่นชมกับแนวคิดของ “สมัคร สุนทรเวช” ที่หวังจะสร้างความเป็นธรรมในสังคมไทยยุค “ข้าวยากหมากแพง” ด้วย ยุทธการ “เศษสตางค์”เราหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่า...จากนี้ไป เราจะไม่ต้องพบเห็นข่าวในลักษณะเช่นนี้...

1. ข่าวการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการปรับโครงสร้างเงินเดือนของพนักงานบริษัทเอกชน รวมถึงการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานเพราะทุกครั้งที่สื่อ “ตีข่าว” ออกไปคราใด ราคาสินค้าก็จะวิ่งไปดักรอล่วงหน้าทุกที

2. การปรับเพิ่มราคาสินค้าและบริการแต่ละครั้ง จะยืนอยู่บนพื้นฐานของราคาต้นทุนแท้จริงที่เพิ่มขึ้น มิใช่...เพิ่มตามอำเภอใจทีละ 20% หรือ 30% อย่างที่เป็นอยู่เราหวังจะได้เห็นการปรับเพิ่มสินค้าทีละ 1-2% หรืออย่างมากก็ไม่น่าจะเกิน 5%หากจะเกินกว่านี้ ก็ต้องมีตัวเลขแสดงหลักฐาน...ต้นทุนที่เพิ่มสูงจริงๆ !!!

เหมือนเช่นราคาข้าวแกงที่ “สมัคร สุนทรเวช” ยกตัวอย่างว่า...ได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนแก๊สที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4 สต.ต่อจานเท่านั้น เมื่อนำมารวมกับต้นทุนอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น...น้ำมันพืช น้ำตาลทราย วัตถุดิบปรุงอาหาร ฯลฯ รวมถึงค่าขนส่งหากรวมต้นทุนต่อจานที่เพิ่มขึ้นราว 1 บาทเศษๆ นั้น พ่อค้าแม่ค้าก็ไม่น่าจะปรับขึ้นราคาขายเกิน 2 บาทต่อจาน มิใช่ 5 บาทอย่างที่เป็นอยู่สำหรับ “บางกอกทูเดย์” มอง ยุทธการ “เศษเหรียญ” ของ “สมัคร สุนทรเวช” ครั้งนี้

มิต่างจากการ “รื้อโครงสร้าง” ต้นทุนราคาสินค้าและบริการใหม่...ทั้งโขยง เพื่อให้สะท้อนราคาที่แท้จริงและเป็นธรรม ชนิดไม่เอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไปเหมือนที่แล้วๆ มาทั้งหมดก็เพื่อรองรับ “เศษสตางค์” ตั้งแต่ 10 บาท 5 บาท 1 บาท เรื่อยลงไปจนถึงเศษเงิน 10 สต. และ 5 สต. ที่ไม่แน่ว่า...อาจเกิดขึ้นตามมาในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้ถึงตอนนั้น คงจะไม่มีพ่อค้าแม่ค้ารายใด แสดงอาการ “หน้าเลือด” ออกนอกหน้ากันอีกแล้ว!!!

กระนั้น ก็ต้องขึ้นกับทีมงาน “กรมการค้าภายใน” ภายใต้การนำของ “ยรรยง พวงราช” ด้วยว่า...จะเท่าทันพ่อค้าแม่ค้าและนายหน้าพ่อค้าคนกลางหรือไม่???อย่าให้เกิดข่าว ขึ้นราคาสินค้าและบริการ เท่าที่ทางการควบคุมเอาไว้ แต่หันไปลดสเปคองค์ประกอบของสินค้าและบริการนั้นๆ แทนไม่งั้น...ยุทธการ “เศษเหรียญ” ของ “สมัคร สุนทรเวช” ก็จะเป็นเพียงสิ่งไร้ค่า ในความรู้สึกของสังคมไทย!!!